ตำรวจ สอท.เตรียมแจ้ง 3 ข้อหา ชายโพสต์รับบริจาคเงินทำพิธีตามความเชื่อ พบมีเงินโอนเข้าบัญชีกว่า 7 แสนบาท

              วันนี้ (17 ธ.ค.) ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. เข้าควบคุมตัวชายอายุ 66 ปี  มาสอบสวน หลังพบว่ามีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  และแอบอ้างว่าจะนำไปทำพิธีตามความเชื่อ โดยใส่หมายเลขบัญชีให้ผู้ที่สนใจร่วมทำพิธีโอนเงินเข้ามาในบัญชีส่วนตัว  จนพบว่ามีคนโอนเงินมาร่วมบริจาคจำนวนมาก

           พลตำรวจตรีวิวัฒน์ คำชำนาญ  รองผู้บัญชาการ สอท. เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้ง  เจ้าหน้าที่จึงสืบสวนจนพบว่าพักอยู่ย่านพัฒนาการ 44  เป็นอดีตอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่เกษียณมาแล้ว  และมีความเชื่อทางพิธีกรรมจึงโพสต์เรี่ยไรรับบริจาคเงิน  เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปเชิญตัวมาสอบสวน   จากการตรวจสอบบัญชีธนาคาร พบว่ามีเงินโอนเข้ามาจำนวนกว่า 7 แสนบาท  โดยชายคนนี้อ้างว่า มีความเชื่อในสิ่งพิเศษที่มองไม่เห็น และเชื่อว่าหากทำพิธีก็จะทำให้เหตุการณ์ดีขึ้น  จึงโพสต์เชิญชวนร่วมบริจาคในเฟซบุ๊ก   โดยจะนำเงินไปซื้อของทำพิธี และโอนเงินไปที่สำนักทำพิธีแห่งหนึ่งในอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กว่า 3 แสนบาท เพื่อนำไปทำบายศรีและเครื่องบูชา   ส่วนที่เหลืออ้างว่าเตรียมนำไปไถ่ชีวิตโค-กระบือ และทำพิธีในส่วนอื่นต่อ  แต่เมื่อเห็นการวิจารณ์ในเฟสบุ๊ก ก็ตัดสินใจปิดรับบริจาคตั้งแต่ 12.00 น.ที่ผ่านมา  และยืนยันว่า ยอดไม่ถึงล้าน มีเพียง 7 แสนเท่านั้น

           เบื้องต้น จาการสอบปากคำ พบความผิด 3 ข้อหา คือ ฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.เรี่ยไร่   โดยชายคนนี้รับสารภาพใน 2 ข้อหา  เว้นแต่ข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่ยังให้การภาคเสธ  เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ฉ้อโกง และมีเจตนาจะทำพิธีตามความเชื่อเท่านั้น ส่วนข้อหาตามมาตรา 112 ยังไม่พบว่าเข้าข่ายความผิด

            สำหรับบัญชีธนาคารที่โพสต์ไว้มี 2 บัญชี หลังจากนี้ ตำรวจจะเชิญเจ้าของบัญชีมาสอบถาม และตรวจสอบบัญชีปลายทางที่โอนไปให้ ส่วนผู้ที่โอนเงินเข้ามาก่อนหน้านี้  ก็ถือว่าเป็นการโอนเข้ามาบริจาคด้วยความเต็มใจ แต่หากมีประชาชนรายใด ไม่สบายใจและต้องการเงินบริจาคคืน ก็สามารถมาร้องทุกข์ขอเงินคืนจากผู้รับบริจาคได้

          พลตำรวจตรีวิวัฒน์ ยังเตือนให้ประชาชนระมัดระวังกับการเปิดรับบริจาคเงินที่มีการแอบอ้างเบื้องสูง  และหากมีการเรี่ยไรโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็จะถูกดำเนินคดีได้