สสจ.จ.สระแก้ว ตั้งกรรมการสอบ 3 สถานพยาบาลหาข้อเท็จจริงกรณีหญิงวัย 19 เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์

           ความคืบหน้ากรณีแม่ของหญิงวัย 19  ปี  ที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน  แล้วเสียชีวิตพร้อมลูก  โดยระบุว่า  มีการวินิจฉัยโรคผิดพลาด  ทำให้ลูกสาวและหลานในท้อง เสียชีวิตทั้งคู่ ซึ่งเมื่อวานนี้ กัน จอมพลัง พาแม่และสามีของผู้เสียชีวิต ไปยื่นร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข  ขอให้ตรวจสอบคลินิกต้นเหตุ  โดยนายวัชรพงส์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการสาธาณสุข และนพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า   ทางกระทรวงสาธารณสุขได้รับผลการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ผู้รักษาเรียบร้อยแล้ว   หลังจากนี้ ทางกระทรวงจะขอดูแลรายละเอียด เรื่องมาตรฐานการรักษาของโรงพยาบาล และจรรยาบรรณแพทย์  รวมถึงการผ่าพิสูจน์ศพ ที่สำคัญจะให้ทางกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสบส.ตรวจสอบคลินิกต้นเหตุโดยเร็วที่สุด

           นอกจากนี้แม่ผู้เสียชีวิต ยังไปยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบจริยธรรมแพทย์ที่ฝากครรภ์ลูกสาว โดย รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์  รองเลขาธิการแพทยสภา  เปิดเผยว่า พร้อมรับเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการจริยธรรมของแพทย์สภา  เพื่อหาข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยกรณีการกรีดก้อนเนื้อบริเวณอวัยวะเพศ  จะเรียกแพทย์เจ้าไข้มาสอบถามถึงเหตุผลว่า ทำไมถึงต้องทำในขณะนั้น  และยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมทั้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและแพทย์เจ้าของไข้

          จากนั้นแม่และสามีของผู้เสียชีวิต ก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.คลองหลวง  จ.ปทุมธานี   โดยสามีผู้เสียชีวิต  กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ภรรยาไม่เคยมีก้อนเนื้อ เพิ่งมาเห็นช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และมีอาการไข้  จึงพาไปหาหมอที่ภรรยาฝากครรภ์ไว้  หมอได้วินิจฉัยว่า เป็นฝีหนอง แจ้งว่า จำเป็นต้องกรีดระบายหนองออก จึงคาดว่า อาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิต หากหมอตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดภรรยาและลูกของตนเอง อาจจะไม่เสียชีวิต

          ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์อาทิตย์ บุญยรางกูร รองผู้อำนวยการฝ่ายบริการสุขภาพ  พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์ แพทย์หญิง กริชา ไม้เรียง ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร  โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ยืนยันว่า  การรักษาผู้ป่วยท้องแก่ วัย 19 ปี เป็นไปตามมาตรฐานทางการแพทย์  โดยผลตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าผู้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดร้ายแรงที่สุด  และอยู่ในระยะรุนแรงที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกาย  อีกทั้งพบก้อนเนื้อในอวัยวะอื่นๆ หลายที่  ซึ่งไม่กังวลหากแพทยสภาจะตรวจสอบ เพราะให้การรักษาตามมาตรฐานวิชาชีพ ที่มีอาจารย์แพทย์หลายฝ่ายช่วยกันดูแล และทางโรงพยาบาลได้ออกใบรับรองการเสียชีวิตแล้ว ด้วยสาเหตุเกิดจากภาวะป่วยด้วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดรุนแรง

           ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส.ซึ่งกำกับดูแลคลินิก กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว และได้ให้กองประกอบโรคศิลป์ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงจากคลินิกต้นเรื่อง และสสจ.จ.สระแก้วลงพื้นที่สอบสวน              

           ล่าสุด ทีมข่าวสอบถาม นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว(สสจ.จ.สระแก้ว) บอกว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับกรณีนี้แล้ว โดยมีหัวหน้าคุ้มครองผู้บริโภคเป็นเจ้าพนักงานสอบสวนสถานพยาบาล ตอนนี้กำลังลงพื้นที่อยู่  เบื้องต้นจะสอบสวนสถานพยาบาล 3 แห่งที่รักษา คือ คลินิกต้นเรื่อง โรงพยาบาลอรัญประเทศ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต  ส่วนประเด็น โรงพยาบาลอรัญ ไม่ได้ผ่าเด็กออกทั้งที่ทราบเด็กเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นแพทย์ให้การว่า มีปัญหาเกินศักยภาพของโรงพยาบาลในการรักษาจึงส่งต่อไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์