อาชญากรรม

'สันธนะ' ตะโกนเรียก "ห่าว ๆ" ขณะ 'ตู้ห่าว' เข้ามอบตัว 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดชื่อ 5 กลุ่มทุนจีนสีเทา จับแล้ว 3

โดย thichaphat_d

24 พ.ย. 2565

807 views

ตู้ห่าวเข้ามอบตัว พร้อมทีมทนายความ หลังถูกออกหมายจับ ปัดเอี่ยวธุรกิจสีเทา-ยาเสพติด ปัดตอบสื่อระหว่างคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขังว่า รู้จักพัชรินทร์หรือไม่? แต่ตอบสั้นๆว่า “ไม่จริง” ปมถูกกล่าวหาว่าทำธุรกิจสีเทา พอมาถึง สน.ยานนาวา ก็เจอสันธนะ ที่มารอพร้อมตะโกนว่า “ห่าวๆ” ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ที่คุ้มกัน ก่อนตำรวจนำตัวขึ้นบันไดข้าง สน.

ด้านตำรวจลุยค้นบ้าน-คอนโดหรู หาหลักฐานเพิ่ม บิ๊กโจ๊กเปิดชื่อ 5 กลุ่มนายทุนจีนสีเทา ถูกจับแล้ว 3 ยังหนีอีก 2 ยันมีหลักฐานชัดเอาผิดตู้ห่าว เพราะเป็นคนจ่ายค่าเช่า – เข้าออกผับจินหลิงเป็นประจำ ลั่นฟันไม่เลี้ยงตำรวจที่เกี่ยวข้อง


เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) เวลา 13.00 น. นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว พร้อมทนายความเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คายคดีนายทุนจีน สีเทา ที่สโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดี หลังถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับในฐานความผิดสมคบ โดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ,ร่วมกันค้ายาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย"


โดยนายตู้ห่าว ลงจากรถตู้มีสีหน้าเรียบเฉย โดยมีทนายความ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เชิญตัวนายตู้ห่าวเข้าไปในสโมสรตำรวจ ระหว่างนั้น ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามว่า เกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามที่ถูกออกหมายจับหรือไม่ เจ้าตัวตอบสั้นๆ ว่า “ไม่จริงครับ ไม่จริง” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แล้วสงสัยหรือไม่ว่าทำไมจึงถูกออกหมายจับ นายตู้ห่าวตอบว่า “คุยกับทนายครับ”

ทั้งนี้ ภายหลังการสอบปากคำนายตู้ห่าวนานกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้มีการส่งตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำต่อที่ สน.ยานาวา โดยจะมีการคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และในท้ายคำร้องฝากขังก็จะมีการคัดค้านประกันตัวเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นคดียาเสพติดที่เกี่ยวกับความมั่นคง

โดยในเวลา 15.45 น. ตำรวจได้คุมตัวนายตู้ห่าว ออกจากห้องสอบสวน เพื่อขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ยานนาวา โดยมีทนายความตามไปด้วย ซึ่งก็มีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยืนดูอยู่ในกลุ่มผู้สื่อข่าวด้วย หลังจากมายื่นหลังฐานเพิ่มเติมให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยนายชูวิทย์ อ้างว่า ตู้ห่าว มีการแต่งตั้งนอมินีเป็นผู้หญิง ชื่อ พัชรินทร์ เป็นภรรยาของนายตู้ห่าว มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินทั้งหมด

ระหว่างนั้นทีมข่าวพยายามสอบถามนายตู้ห่าวว่า มีข้อมูลว่า รู้จักกับผู้หญิงที่ชื่อ พัชรินทร์ หรือไม่ เจ้าตัวไม่ตอบคำถาม แต่เมื่อถามว่า ที่ถูกกล่าวหาว่าทำธุรกิจสีเทา นายตู้ห่าว ยืนยันสั้นๆ ว่า “ไม่จริง” จากนั้นตำรวจก็เคลื่อนรถออกไป

ทั้งนี้ มีรายงานอีกว่า จู่ๆ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล มาปรากฎตัว ระหว่างที่นายตู้ห่าว ลงจากรถควบคุมขังนั้น นายสันธนะ ได้ยกมือขึ้นพร้อมโกนว่า "ห่าวๆ" ท่ามกลางกำลังเจ้าหน้าที่ที่คุ้มกัน จากนั้นทาง พ.ต.อ.วุฒิชัย รรท.ผกก.สน.ยานนาวา ได้นำตัวขึ้นบันไดด้านข้าง สน.และนายสันธนะ ได้เดินตามขึ้นไปพูดคุยด้วย

ด้านนายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจนายตู้ห่าว แต่ไม่ได้มีการทักทายหรือพูดคุยกัน เนื่องจากอยู่ในกระบวนการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ออกมากล่าวหาว่าตนมีความรู้จักสนิทสนมกับนายตู้ห่าวนั้น ตนก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไรว่าไม่รู้จัก เพราะเคยพูดมาก่อนหน้านี้แล้ว

แต่วันนี้ทุกอย่างได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว แน่นอนตนก็อยากให้เป็นอย่างวันนี้ เพราะหากเขาไม่ออกมา อีกฝั่งหนึ่งก็พูดอยู่ฝั่งเดียว วันนี้เขาได้ใช้สิทธิ์ของเขาแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นที่เขาไม่ออกมาเพราะเขาไม่รู้จะออกมาเรื่องอะไร แต่พอมีเรื่องหมายจับ และข้อหาก็เป็นข้อหาที่รุนแรงก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา

อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) ยังไม่มีใครมาขอยื่นประกันตัว และในส่วนที่ นายสันธนะ มาปรากฏตัวที่โรงพัก เชื่อว่า น่าจะอยากมาเยี่ยมผู้ต้องหา แต่ทางผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ได้อยากพบ จึงไม่ได้ให้เข้าพบ และขอยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีใครมากดดันเจ้าหน้าที่ได้ โดยเบื้องต้นตนได้สั่งการให้สิบเวรควบคุมผู้ต้องขัง ทำความสะอาดห้องควบคุมเอาไว้แล้ว เพื่อนำตัวผู้ต้องหาไปนอนพักหลังผ่านกระบวนการสอบสวน จากนั้นวันนี้ (24 พ.ย.) จะดำเนินการส่งตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในช่วงเวลาไม่เกิน 09.00 น.ต่อไป

ขณะที่เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน หน่วยอรินทรราช พร้อมพนักงานสอบสวนได้นำหมายศาลพร้อมกำลังเข้าตรวจค้น 2 จุด โดยจุดที่สำคัญ คือ บ้านพักหรู ถนนราชพกฤษ์ ย่านตลิ่งชัน ที่เชื่อว่าเป็นแหล่งกบดานของ นายตู้ห่าว แต่จากการตรวจค้นไม่พบ นายตู้ห่าว อยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว

พบเพียง “พ.ต.อ.หญิง” ตำแหน่งผู้กำกับกองการต่างประเทศ ที่เป็นภรรยาของนายตู้ห่าว แจ้งว่า นายตู้ห่าว ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ โดยพยายามติดต่อกับ นายตู้ห่าว ที่พักอยู่ที่อื่น เพื่อประสานให้เข้ามอบตัว ซึ่งได้มีการนัดหมายจะนำตัว นายตู้ห่าว สามีเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนการตรวจสอบในบ้านพักไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด

อีกจุดเป็นโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ คาดว่าเป็นที่พักของนาย เฉิน หยาง เพราะพบความเชื่อมโยงจากการไปตรวจค้นผับจินหลิง และพบยาเสพติดหลายรายการ ส่วนนาย เฉินหยาง ที่ถูกหมายจับ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามามอบตัว

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังจากนายตู้ห่าว เดินทางเข้ามอบตัว ว่า สำหรับการจับกุมนายทุนจีนสีเทา และนอมินีครั้งนี้ สืบเนื่องมากจากมีกลุ่มนายทุนจีนสีเทา จำนวน 5 กลุ่ม เข้ามาประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในไทย ประกอบไปด้วย

1.กลุ่มนายตู้ห่าว

2.กลุ่มนายเดวิด

3.กลุ่มนายหยู่ฉางเฟ่ย

4.กลุ่มนายโทนี่

และ 5.กลุ่มนายหมิง

ซึ่งตอนนี้จับกุมไปแล้ว 3 กลุ่ม คือนายตู้ห่าว นายเดวิด และนายหยู่ฉางเฟ่ย  ส่วนนายโทนี่อยู่ระหว่างจับกุมและกำลังหลบหนีในไทย ส่วนนายหมิง หลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ระหว่างการออกหมายจับสากล

โดยทั้ง 5 กลุ่ม มีความสัมพันธ์รู้จักกัน โดยแต่ละกลุ่มจะแยกย้ายไปธุรกิจผับในพื้นที่ต่างๆ เช่น ท็อปวันในพื้นที่ สน.สุทธิสาร ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเสพยาเกินขนาด และเสียชีวิต รวมทั้งมีการลักทรัพย์ของผู้เสียชีวิต ไปทำลายเผาเพื่อหลักฐาน โดยในกลุ่มนี้ได้มีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 8 ราย ในหลายข้อหา

ส่วนในกลุ่มที่ 2 คือคลับวัน ในพื้นที่ เมืองพัทยา โดยมีนอมินีที่เป็นชาวจีน 4 ราย ที่สวมบัตรประชาชนไทย เคยสร้างวีรกรรมด่าผู้ว่าฯ และตำรวจ "ว่ามีการจ่ายเงินแล้วทำไมถึงถูกจับกุม" ซึ่งตำรวจได้มีการตรวจสอบนำดีเอ็นเอพ่อแม่ของเจ้าของบัตรประชาชนเดิมไปตรวจสอบ แต่ปรากฎว่าไม่มีความเกี่ยวข้องทางเครือญาติ จึงได้ประสานทางการจีนพบว่าผู้ก่อเหตุมีความเกี่ยวข้องทางเครือญาติที่กับที่ประเทศจีน

ส่วนกลุ่มที่ 3 คือผับจินหลิง ที่มีการตรวจสอบและพบยาเสพติดจำนวนมาก  โดยตำรวจมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนว่านายตู้ห่าวเป็นเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าว จึงได้มีการออกหมายจับตามข้อหาที่ได้เป็นข่าวไปแล้ว ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงความเป็นเจ้าของคือมีการเข้าออกในสถานที่ดังกล่าวเป็นประจำ และในวันเกิดเหตุเจ้าตัวก็อยู่ด้วย นอกจากนี้จากเส้นทางการเงินนายตู้ห่าว มีรายชื่อในการเช่าสถานที่ และจ่ายค่าเช่า

ส่วนกลุ่มที่ 4 คือ Baby face ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งกลุ่มนี้มีคนไทยเป็นนอมินี เป็นแม่ยายของนายเดวิด โดยตำรวจได้ขอหมายค้นบ้านพบรถยนต์หรู 3 คัน สุรานอก 28 ลัง ปืน 2 กระบอก เงินสด 19 ล้านบาท

ส่วนการที่นายตู้ห่าวเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสอบในวันนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายตู้ห่าว ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ทั้งนี้ แม้นายตู้ห่าวจะปฏิเสธ แต่ยืนยันว่ามีหลักฐานเอาผิดนายตู้ห่าว ที่พบความเชื่อมโยงกับผับจินหลิง คือ มีชื่อเป็นผู้เช่าผับ และพบว่ามีการเข้าออกผับจินหลิงเป็นประจำ

ส่วนเรื่องสมคบกันค้ายาเสพติดนั้น ยืนยันตำรวจมีพยานหลักฐานพอที่ทำให้ศาลอนุมัติหมายจับ และนายตู้ห่าวอยู่ในสถานที่นั้นในวันเกิดเหตุ และคนในสถานบริการรู่ว่านายตู้ห่าวเป็นคนสั่งการ หากการสอบสวนแล้วเสร็จจะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังต่อไป และจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการระดมตรวจค้น 20 จังหวัด 75 จุด จับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายเดียวกัน 93 ราย

อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตำรวจจะมีการขยายผลตรวจสอบทะเบียนราษฎร์ผู้ที่เกี่ยวในเครือข่าย รวมทั้งเส้นทางการเงิน และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ตม.จ.อุดร /ขอนแก่น /แพร่/และเชียงใหม่ ว่ามีการอนุญาตให้เปลี่ยนวีซ่าจากนักท่องเที่ยว เป็นวีซ่านักศึกษาได้อย่างไร เนื่องจากผู้ต้องหาบางคนอายุมากกว่า 50 ปี และการจะขอวีซ่านักเรียนได้นั้น ต้องมีโรงเรียนรับรอง ซึ่งก็ต้องตรวจสอบโรงเรียนที่เป็นผู้รับรองด้วย

นอกจากนี้ยังพบนายตำรวจระดับ พงส.สน.ยานาวา และรอง ผกก.จร.สน.ลาดพร้าว และรอง ผบก.น.6 ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ในลักษณะการปล่อยตัวผู้ต้องหาสำคัญ และปล่อยรถหรู ซึ่งเป็นของกลางในคดี โดยมีหลักฐานยืนยันว่ามีการแลกรับผลประโยชน์คันละ 2 ล้านบาท จำนวน 4 คัน  ซึ่งหลังจากนี้ต้องขยายผลอีกว่ามีใครที่ร่วมขบวนการที่มีตำแหน่งใหญ่กว่ารอง ผบก.น.6 หรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่ามี

นอกจากนี้ ในส่วนทรัพย์สินที่เป็นบ้านหรูของนายตู้ห่าว ย่านพระราม 5 มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ปรากฏชื่อว่าเป็นชื่อภรรยาของนายตู้ห่าว ซึ่งจากนี้ต้องตรวจสอบถึงเรื่องเงินจำนวน 200 ล้านบาท ที่นำมาซื้อบ้าน เจ้าตัวต้องชี้แจ้งที่มาของเงินให้ได้ เพราะลำพังเงินเดือนข้าราชการไม่น่าจะมีทรัพย์ขนาดที่จะซื้อบ้านหลังดังกล่าวได้ หากชี้แจ้งไม่ได้ก็ถือว่ามีความผิด

ผู้สื่อข่าวถามถึงนายตู้ห่าวเชื่อมโยงกับนักการเมืองอดีตรัฐมนตรีมีความชัดเจนแค่ไหน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า นายตู้ห่าว แต่งงานกับหลานสาว พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก และรู้จักกับตำรวจเหยื่อและรู้จักกับอดีตรัฐมนตรี อันนี้ต้องพูดเรื่องจริงกัน ส่วนใครเกี่ยวข้อง ใครร่วมกันกระทำความผิดต้องนำทั้งหมดมากองรวมกัน ถ้าหลักฐานถึงใครต้องว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ถึงก็ถึง ถ้าไม่ถึงก็ไม่ถึง เราต้องทำกันอย่างตรงไปตรงมา ถ้าถึงไม่ต้องกังวลตนดำเนินคดีแน่แต่ ถ้าไม่ถึงต้องให้ความเป็นธรรมเขา เราต้องตอบสังคมให้ได้ทำไมเราถึงไม่ดำเนินกับคนนี้

ตนขอยืนยันว่า ได้มีการคุยกับทุกฝ่ายซึ่งท่าน อดีตรอง ผบ.ตร. และอดีต ผบ.ตร. ยินดีที่จะให้ดำเนินคดีตามหลักฐานที่ปรากฏอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มีใครมาขอให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gTmdyXGCLg0


คุณอาจสนใจ

Related News