อาชญากรรม

โจรในคราบไรเดอร์! จัดฉากชิงไอโฟนสาว - ตร.บุกห้องจับยกแก๊ง อ้างไม่รู้จักกัน แต่นั่งซดน้ำกระท่อมด้วยกัน

โดย thichaphat_d

21 พ.ย. 2565

37 views

รวบโจรในคราบไรเดอร์ร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน “จัดฉากปล้น” ผู้โดยสารสาวมีดจี้คอชิงไอโฟน ตร.บุกค้นห้องพักจับยกแก๊งในห้องเดียวกัน อ้างไม่รู้จักกัน ตร.ไม่เชื่อ พบก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มน้ำกระท่อมถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก จนมุมสารภาพ “ไม่มีเงินไม่มีงาน” ผู้เสียหายผวาหนัก จะไม่ใช้บริการไรเดอร์ผ่านแอปอีก


วานนี้ (20 พ.ย. 65) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ คุมตัวผู้ต้องหาออกจากห้องคุมขังเพื่อทำการสอบปากคำ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ได้ทำการจับกุมนายอามีน อายุ 28 ปี นายอาหมัด อายุ 24 ปี และนายอนันต์ อายุ 25 ปี 3 ผู้ต้องหาปล้นทรัพย์ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ 2 เล่ม และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 7 (ของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายปล้น)


สืบเนื่องจากกลางดึกวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธมีดจี้คอชิงทรัพย์คนขับไรเดอร์และผู้โดยสารหญิงอายุ 20 ปี ขณะเดินทางกลับบ้าน โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินไป เป็นโทรศัพท์ไอโฟนของผู้เสียหายหญิง และรถจักรยานยนต์ของหนุ่มไรเดอร์ เหตุเกิดบริเวณระหว่างหน้าปากซอยศรีนครินทร์ 9 กับซอย 11 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ


เหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดจับภาพ ขณะที่นายอามีน หนุ่มไรเดอร์ (ผู้ต้องหา) ขี่รถจักรยานยนต์รับผู้โดยสารสาวเพื่อจะไปส่งปลายทาง ปรากฏว่าพาไปผิดเส้นทาง จัดฉากพาผู้เสียหายไปส่งให้พวกอีก 2 คน คือนายอนันต์ กับนายอาหมัด ทำทีว่าถูกสองคนนี้ดักปล้น จากนั้นนายอนันต์ และนายอาหมัด ได้ปล้นโทรศัพท์มือถือของผู้โดยสารสาว และทำทีปล้นรถจักรยานยนต์ของนายอามีน (ไรเดอร์) ด้วย


จากนั้น นายอนันต์ และนายอาหมัด ได้ทำทีขี่รถจักรยานยนต์ของนายอามีน หลบหนี ส่วนนายอามีน ยืนอยู่กับผู้เสียหาย ทำทีเหมือนว่าตัวเองถูกปล้นเช่นกัน โดยที่นายอามีน (ไรเดอร์) และผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงสาว เดินอยู่ริมถนนพยายามเรียกขอความช่วยเหลือ จากรถที่สัญจรไปมา แต่ไม่มีใครจอดช่วย ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปขอความช่วยเหลือจาก รปภ.ละแวกนั้น


หลังเกิดเหตุชุดสืบสวน สน.ประเวศ และตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 4 และชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 ระดมกำลัง ลงพื้นที่สืบสวนจับกุมคนร้ายจนพบความผิดปกติของวิธีการกระทำความผิดคล้ายการจัดฉากให้ไปถูกปล้น ซึ่งมีความผิดปกติของนายอามีน (ไรเดอร์) ที่ไม่ได้ขับขี่ไปส่งผู้เสียหายตามเส้นทางปกติ


โดยนายอามีน (ไรเดอร์) มีท่าทีผิดปกติ เพราะขณะคนร้ายปล้นนั้น มีความนุ่มนวล แตกต่างจากหญิงสาวผู้เสียหายที่ถูกมีดจี้คอ และพาเดินฉุดลากไประยะไกล อีกทั้งกลุ่มคนร้ายกลับไม่นำเอาโทรศัพท์ของนายอามีน (ไรเดอร์) ทั้งที่มีมูลค่าสูงกว่าของหญิงสาวผู้เสียหายไป


หลังเกิดเหตุ นายอามีนทำทีบ่ายเบี่ยงที่จะแจ้งความ ตำรวจชุดจับกุมจึงขยายผลโดยเข้าตรวจค้นห้องพักของนายอามีน ภายในซอยรามคำแหง 24 แขวง-เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พบนายอาหมัด  และนายอนันต์อยู่ร่วมกันในห้องพักดังกล่าว


หลังจับกุม นายอาหมัด และนายอนันต์ ได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์ ที่แสร้งจัดฉากปล้นไปจากนายอามีน ซึ่งจอดอยู่ใกล้ที่พัก และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายหญิง ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองได้ห่อด้วยถุงพลาสติก นำไปซ่อนทิ้งไว้ข้างทางระหว่างการหลบหนีบริเวณพุ่มหญ้าข้างทางในซอยลาดพร้าว 124


จากการสอบสวนนายอาหมัด ในชั้นจับกุม นายอาหมัด ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า “ตนเองพึ่งเดินทางมาจาก จ.ยะลา ด้วยรถไฟเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 65 และเมื่อมาถึงกรุงเทพฯ ยังหางานทำไม่ได้จึงได้คิดก่อเหตุเพื่อหาเงิน ยืนยันว่าการเดินทางขึ้นมากรุงเทพฯ นั้น ไม่เกี่ยวกับการก่อความไม่สงบแต่อย่างใด โดยที่ถูกจับกุมขณะอยู่กับนายอามีน (ไรเดอร์) ในห้องเดียวกันนั้น เพราะว่าตนเองจะมาขอโทษที่ก่อเหตุปล้นรถของนายอามีน”  


ส่วนนายอนันต์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า “ตนเองนั้นอยู่ที่กรุงเทพมาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว แต่ไม่มีงานทำใด ๆ เที่ยวเตร็ดเตร่ไปวัน ๆ และให้การสอดคล้องกับนายอาหมัด ว่าที่ถูกจับกุมขณะอยู่กับ นายอามีน (ไรเดอร์) ในห้องเดียวกันนั้น เพราะว่าตนเองจะมาขอโทษที่ก่อเหตุปล้นรถของ นายอามีน”


สำหรับนายนายอามีน (ไรเดอร์) ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่า “ตนเองไม่ทราบเรื่องใดๆทั้งสิ้น ที่ถูกจับกุมขณะอยู่ในห้องเดียวกันนี้เพราะ นายอาหมัด และนายอนันต์ เดินทางมาขอโทษตนเองที่ห้อง ที่ได้ก่อเหตุปล้นตนเอง และที่ตนเองไม่เข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเพราะตนเองติดทำงาน จึงไม่มีเวลาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ”


วานนี้ หลังสอบปากคำเสร็จ ตำรวจได้คุมตัวนายอนันต์ ออกจากห้องสืบสวนเพื่อเข้าห้องขัง จะตรวจใช้เสื้อคลุมศีรษะเดินยิ้ม ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เมื่อถามว่าทำไมถึงร่วมกันลงมือก่อเหตุผู้ต้องหาไม่ตอบ ถามว่ารู้จักนายอามีน หนุ่มไรเดอร์เป็นเพื่อนกันหรือไม่ นายอนันต์ อ้างไม่รู้จัก


อย่างไรก็ตามตำรวจมีหลักฐานยืนยันได้ว่าทั้ง 3 คน เป็นพวกเดียวกันจึงนำไปสู่การจับกุม จากการสืบสวนพบว่าก่อนเกิดเหตุ ทั้ง 3 คน ได้ไปนั่งจับกลุ่มดื่มน้ำกระท่อม ในห้องพักของผู้ต้องหารายหนึ่ง และได้ถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ก


จากนั้นทั้งสามคนได้ขี่รถ จยย.ซ้อนสาม โดยนายอามีน (ไรเดอร์) เป็นคนขี่ มาส่งนายอนันต์ และนายอาหมัด ไว้บริเวณหน้าโรงพยาบาลสมิติเวช นายอนันต์และนายอาหมัด ได้เดินข้ามถนนมารอตรงจุดเกิดเหตุ โดยได้มีการนัดหมายกับนายอามีน ไว้ก่อนล่วงหน้า


หลังจากที่นายอามีน (ไรเดอร์) รับผู้เสียหายแล้ว ก็ได้ขับขี่พาผู้เสียหายมายังจุดเกิดเหตุ เพื่อให้นายอาหมัด และนายอนันต์ ลงมือก่อเหตุโดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ และใช้รถจักรยานยนต์ของนายอามีน ขี่หลบหนี


ด้าน น.ส.จิตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองไปทำธุระที่ห้องพักของ น.ส.วรรณภา รุ่นพี่ตนนับถือเป็นพี่สาว ซึ่งหลังจากทำธุระเสร็จ น.ส.วรรณภา ได้เรียกไรเดอร์โดยใช้บริการผ่านแอป ๆ หนึ่ง เพื่อส่งตนกลับที่พักตัวเองในซอยรามคำแหง 26/2 ระหว่างทางนายอามีน (ไรเดอร์) ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกนอกเส้นทางที่ปักหมุดไว้ 5 กิโลเมตร


ระหว่างนั้นตนสังเกตเห็นนายอามีน ตัวสั่นจึงทักแชตไปหารุ่นพี่ว่า “พี่น่ากลัวอะ” รุ่นพี่ถามว่าทำไม ผู้เสียหายบอกว่า“เขาพาหนูขึ้นสะพาน” รุ่นพี่ถามว่า “เขาไม่รู้ทางหรือเปล่า ลงมายัง เขาจะไปกลับรถหรือเปล่า “ผู้เสียหายแชตบอกว่า “อยู่ที่ไหนยังไม่รู้เลย” รุ่นพี่จึงบอกว่า “กลับรถมา บอกเขาว่าผิดทาง”


จากนั้น 02.42 น. (19 พ.ย.) ผู้เสียหายโทรไลน์หารุ่นพี่ประมาณ 1 นาที เพื่อให้รุ่นพี่ได้ฟังเสียงระหว่างที่ผู้เสียหาถูกคนร้ายปล้น ก่อนที่สายจะตัดไป โดยรุ่นพี่พยายามโทรไลน์กลับไปหาผู้เสียหายหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้แล้วเพราะถูกคนร้ายปล้นโทรศัพท์ไป


ผู้เสียหาย เผยต่อว่า ทันทีที่นายอามีน (ไรเดอร์) จอดรถตรงจุดเกิดเหตุ คนร้ายอีก 2 คน คือนายอนันต์ และนายอาหมัด ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบซุ้มอยู่ข้างทางที่มืดก็เดินออกมาถามว่าจะไปไหนกันแล้วก็ชักมีดออกมาจี้ ตอนที่คนร้ายใช้มีดจี้ ตนก็ยังไม่ได้วางสายโทรศัพท์จากรุ่นพี่ หนึ่งในคนร้ายพูดกับนายอามีน (ไรเดอร์) ว่ามึงมีอะไรก็ส่งมาให้หมด นายอามีน จึงทำทีล้วงเงินในกระเป๋ากางเกงให้ จากนั้นนายอามีน เดินลงจากรถ จยย.แล้วผลักตัวตนออกจากคนร้าย ดึงโทรศัพท์ของตนซึ่งแขวนไว้ที่คอ แล้วพูดว่า “ให้มันไปจะได้ไม่ทำอะไรเรา” หลังจากคนร้ายได้โทรศัพท์ ก็ทำทีปล้นรถจักรยานยนต์ของนายอามีน แล้วขี่หลบหนี


“ตนสงสัยและมั่นใจว่าอาจเป็นแก๊งเดียวกันเพราะนายอามีน (ไรเดอร์) ถือโทรศัพท์ตัวเองไว้ที่มือแต่คนร้ายไม่เอา กลับมาดึงโทรศัพท์ของตนไป ปกติตนไม่เคยใช้บริการไรเดอร์ผ่านแอป นี่เป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุอย่างนี้ กลัวเป็นไปได้จะไม่ใช้บริการอีก โชคดีที่คนร้ายหวังแค่ทรัพย์สินไม่ประสงค์อย่างอื่น”


ด้าน น.ส.วรรณภา อายุ 21 ปี (สงวนนามสกุล) รุ่นพี่ของผู้เสียหาย ซึ่งเป็นคนเรียกไรเดอร์ผ่านแอปให้ผู้เสียหาย เผยว่า ตนใช้แอปนี้นานหลายเดือนไม่เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ อาจเป็นเพราะเราไม่ได้ระวังตัว โดยตอนที่ผู้เสียหายแชตมาบอก ตนก็รีบเช็ค GPS ในแอปหาดูพิกัดของไรเดอร์ จากนั้นน้องผู้เสียหายโทรไลน์มาหาเป็นช่วงที่โจรกำลังใช้มีดจี้ ตนได้ยินเสียงน้องตะโกนพูดว่า “พี่หนูโดนจี้” ซึ่งตนได้ยินเสียงผู้ชายพูดว่า “เอาตังค์มา” น้องพูดว่า “หนูมีโทรศัพท์แค่เครื่องเดียวอยากได้ก็เอาไปเลย” ก่อนที่สายจะตัดไป


ตนคิดว่าเกิดเหตุไม่ดีจึงรีบโทรแจ้งตำรวจ ซึ่งหลังจากคนร้ายได้ทรัพย์สินหนีไปแล้ว น้องผู้เสียหายได้ใช้โทรศัพท์ของนายอามีน  โทรกลับมาหาตน (ขณะนั้นยังไม่รู้ว่าเป็นแก๊งคนร้าย) จากนั้นตนกับตำรวจเดินทางไปที่เกิดที่ น้องผู้เสียหายโผกอดร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวพูดว่า “นึกว่าหนูจะตายแล้ว” แค่นี้ก็ถือว่าโชคร้ายมากๆ เหตุการณ์นี้ตนไม่มองเห็นถึงความโชคดีอะไรเลย มันคือความโชคร้าย


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากคำให้การในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อนายอามีน คนขับไรเดอร์ เนื่องจากพบพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าทั้ง 3 คน มีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดครั้งนี้ และพบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุมาจาก “ไม่มีเงินและไม่มีงาน”


เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้ผู้กระทำผิดพ้นการจับกุม” โดยวันนี้ (21 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ จะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนส่งศาลฝากขัง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ทั้งนี้ การจับกุมผู้ต้องหา ต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงการประชุมเอเปค 2022 และเกรงว่าผู้ต้องหา จะนำโทรศัพท์ไปเป็นส่วนหนึ่งในการวางระเบิด
--------------



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/MgzuCQE2NMk



คุณอาจสนใจ

Related News