อาชญากรรม

ปฏิบัติการคืนฮาโลวีน 'รองต่อ-รองโจ๊ก' นำทีมค้นผับ 6 จุด ขยายผลผับจีน เจอฉี่ม่วง 2-3 ราย

โดย thichaphat_d

1 พ.ย. 2565

565 views

รองต่อ - รองโจ๊ก สนธิกำลังตำรวจ 200 นาย ปูพรมตรวจสถานบันเทิง 6 แห่งทั่วกทม. กวาดล้างยาเสพติด - สิ่งผิดกฎหมาย ขณะรองโจ๊กเผยเตรียมเอาผิด รองผกก. - รองสว.โรงพักยานนาวาปล่อยนักเที่ยวจีนผับศูนย์เหรียญ

เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 เวลา 00.01 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.(ปป.) และพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. (สส.) พร้อมชุดปฏิบัติการ บช.น. ,บช.สอท. ,บช.ปส. , บช.สตม. พิสูจน์หลักฐาน และ บช.ทท.กว่า 200 นาย เข้าตรวจค้น ผับ บาร์ สถานบริการ ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายทุนต่างชาติ และนอมินีพร้อมกัน  6 จุดทั่ว กทม.



ในพื้นที่มักกะสัน ได้แก่ K Bangkok / Space +

พื้นที่ห้วยขวาง มี 3 จุด คือ Hollywood   /Brooz  / และ Asgard

พื้นที่คลองตัน คือ Baby Face



โดยมีพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุวิมล, พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทั้งสายปราบปรามและสืบสวน ลงไปติดตามประเมินความคืบหน้าในการบุกเข้าค้นสถานประกอบการทั้ง 6 แห่ง

โดยจุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นคือ เบบี้เฟซ ซึ่งอยู่ย่านเอกมัย เป็นผับขนาดใหญ่ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดไฟและขอเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ได้นำชุดตรวจสารเสพติดออกมาวางโดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแสดงตนและรับชุดตรวจสารเสพติดไปตรวจ



จากนั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เดินทางต่อไปยังแอสการ์ด บาร์โฮส อันดับหนึ่งซึ่งอยู่ย่านเหม่งจ๋าย ก็ยังพบนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนานเนื่องจากคืนนี้เป็นคืนวันฮาโลวีน

โดยผลการตรวจค้นเบื้องต้น พบมีนักท่องเที่ยวปัสสาวะเป็นสีม่วงเพียง 2-3 รายต่อแห่งเท่านั้น ทั้งนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติย้ำว่า นี่เป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง หากยังมีการฝ่าฝืนอีก ท้องที่จะต้องร่วมรับผิดชอบปล่อยปละละเลย และเจ้าของสถานประกอบการ ก็เสี่ยงที่จะต้องถูกสั่งปิด 5 ปี


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการครั้งนี้ ได้บูรณาการร่วมกันในส่วนงานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวน โดยลงพื้นที่ 6 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร ซึ่งใน 6 จุด จะมีสถานประกอบการบางแห่งที่ทางชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวน ขยายผลมาจากสถานประกอบการที่พัทยาที่มีนายทุนจีนร่วม

โดยการตรวจสอบจะเน้นหนักไปที่ยาเสพติด อาวุธปืน และเด็ก ซึ่งหากพบว่าสถานประกอบการรายใดฝ่าฝืนต้องเพิกถอนใบอนุญาตสั่งปิด 5 ปี ซี่งเรื่องนี้ทางพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เน้นย้ำในการจัดระเบียบสถานประกอบการ

ซึ่งการที่สถานประกอบการปล่อยให้มียาเสพติด อาวุธปืน และเด็ก  ทางสถานประกอบการต้องรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งงานป้องกันและงานสืบสวนจะทำงานร่วมกันเพื่อคุมเข้มจัดระเบียบสถานบันเทิงที่อาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของยาเสพติด



อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่เป็นปัญหาคือการที่มีนายทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจที่บ้านเราและมามีอิทธิพลเป็นมาเฟีย ไม่เฉพาะแต่คนจีน แต่มีอีกหลายแก๊งที่เรากำลังสืบ จะเห็นได้ว่าเรามีการทำงานในหลายภาคส่วน มีตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรต่างๆ บูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานเพื่อที่จะตัดวงจรไม่ให้มีมาเฟียต่างชาติมาใหญ่ในบ้านเรา รองผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต่อไปจากนี้ท้องที่จะต้องลงมา ซึ่งทางตนและรองโจ๊กลงมาตรวจสอบด้วยตนเอง ถ้าไม่สานต่อหากตรวจเจอท้องที่ต้องรับผิดชอบ เพราะถือว่าเป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง จะไม่มีครั้งที่สอง ซึ่งถ้าเจอสิ่งผิดกฎหมายต้องถูกปิดแน่ และหากแอบกลับมาเปิดอีกก็มีโทษจำคุก 1 ปี ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ใช้ยาแรงเลยเพราะทางผบ.ตร.สั่งมาแล้ว ซึ่งได้ให้แนวทางการตรวจสอบกับสถานบันเทิงกับท้องที่แล้ว  

อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับสถานบันเทิงผู้ประกอบการด้วย ในกรณีที่พบนักเที่ยวฉี่ม่วง แต่ไม่พบว่ามีการขายยาเสพติดในสถานบันเทิง ก็ตัองมาสืบว่ามีการอัพยาจากไหนเพื่อที่จะดำเนินการ ส่วนนี้ก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงถ้าพบในสถานบันเทิงก็ต้องใช้ยาแรง



สอดรับกับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ระบุว่า การตรวจสอบประกอบการครั้งนี้ไม่ได้ เพ่งเล็งไปที่กลุ่มที่มีนายทุนจีนเท่านั้น ได้ตรวจสอบสถานประกอบการที่มีเจ้าของเป็นคนไทยเช่นกัน ซึ่งยอมรับว่าในการตรวจสอบก็มีบางส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ให้ข้อมูลมา ซึ่งในทางสืบสวนคดีที่มีนายทุนจีนเข้ามากระทำผิดกฎหมาย ทั้งเปิดผับโดยการนำยาเสพติดมาใช้มาจำหน่าย ผับศูนย์เหรียญต่างๆ ยืนยันว่าตอนนี้ทางชุดสืบสวนมีข้อมูลครบแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับดำเนินคดีภายในสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนกรณีตำรวจโรงพักยานนาวาที่ไปเกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีน ในวันพรุ่งนี้จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งในจำนวนนี้มีระดับรอง ผกก. สารวัตร และรองสารวัตร ที่เป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งทางผบ.ตร.ได้ให้แนวทางนโยบายให้ดำเนินคดีทั้งหมด ที่ร่วมกันนำคนจีนไปฝากขังแต่ไม่แจ้งให้ทางตรวจคนเข้าเมืองทราบทำให้ถูกปล่อยตัวไป ซึ่งเราดำเนินคดีทั้งหมด

มีรายงานว่า ขณะนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างการตรวจปัสสาวะนักเที่ยวเพื่อหาสารเสพติดและผิดกฎหมาย ซึ่งรายละเอียดจะแจ้งให้ทราบต่อไป


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/Ow3IHa5ZtFo

คุณอาจสนใจ

Related News