อาชญากรรม

ชายหลอนยา ยิงชาวบ้าน ชิงรถตำรวจ ปืนจี้ลูกสาว-เพื่อนหนี สุดท้ายโดน ตร.ยิงเจ็บ จำใจยอมมอบตัว

โดย passamon_a

17 ต.ค. 2565

221 views

ชายหลอนยา บุกยิงชาวบ้าน ชิงรถตำรวจ บังคับเพื่อนขับหนีพร้อมเอาลูกสาวเป็นตัวประกัน ยิงสู้ตำรวจเจอสวน บาดเจ็บ เสียเลือดมาก สุดท้ายยอมมอบตัว


เมื่อเวลา 15.20 น. วันที่ 16 ต.ค.65 ตำรวจ สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจรถยนต์ ว่ามีเหตุคนร้ายหลอนยา มีอาวุธปืนแย่งรถตำรวจ ขณะเข้าตรวจเข้าระงับเหตุ บริเวณบ้านห้วยกรวด อ.ป่าพะยอม แล้วขับรถหลบหนีมายังตลาดป่าพะยอม ก่อนคนร้ายได้จี้บังคับเพื่อนพร้อมกับลูกสาวให้ขึ้นรถตำรวจมาด้วย หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตาม


โดยเจ้าหน้าที่ติดตามคนร้ายอย่างใกล้ชิด ก่อนขับรถตำรวจพุ่งชนราวเหล็กริมทางได้รับความเสียหาย รถพัง ไม่สามารถขับต่อไปได้ โดยผู้ก่อเหตุชื่อ นายเกริกพันธุ์ กาญชนะพันธุ์ อายุ 43 ปี ได้ใช้ปืนพกสั้นขนาด .38 มม. บังคับให้เพื่อนขับรถต่อ แต่รถไม่สามารถไปต่อได้ จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่เพื่อน เข้าบริเวณศีรษะ 1 นัด ขาซ้าย 1 นัด ก่อนใช้อาวุธปืนจี้ลากลูกสาวที่นั่งอยู่ในรถลงมา แล้วลากเข้าบ้านพัก ก่อนตำรวจปิดล้อม และแจ้งโรงพยาบาลป่าพะยอม มารับคนเจ็บ ทราบชื่อคือ นายสิทธิพร ปิ่นแก้ว อายุ 27 ปี ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บภายในรถ ส่งรักษาตัว ในอาการสาหัส


ในขณะที่คนร้ายกำลังหลบหนีเข้าบ้านพัก ได้ยิงต่อสู้กับตำรวจ โดนตำรวจยิงสวนเข้าบริเวณขาซ้าย 2 นัด ก่อนหลบเข้าไปในบ้านเช่า โดยตำรวจปิดล้อมนานนับชั่วโมง ก่อนที่ลูกสาวได้โทรมาแจ้งตำรวจว่าพ่อขอยอมมอบตัว เนื่องจากถูกยิงเข้าที่ขา เสียเลือดมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้ลูกสาวเดินออกมาพร้อมอาวุธปืน เมื่อลูกสาวถึงตำรวจและมอบอาวุธปืนพกสั้นที่ก่อเหตุให้ เจ้าหน้าที่ชุด ฉก.เสือดำ จึงได้เข้าปิดล้อมบ้านพัก ก่อนนายเกริกพันธุ์ ได้เปิดประตูออกมาเพื่อมอบตัว ก่อนเจ้าหน้าที่เข้าควบคุม และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากถูกยิงเข้าบริเวณขา เสียเลือดมาก


ขณะที่ ภรรยาผู้ก่อเหตุ ระบุว่า สามีขาดยามีอาการหลอนมาแล้ว 2 วัน โดยตนเองไม่กล้าอยู่บ้านด้วย ได้หลบ ๆ ซ่อน กลัวจะถูกทำร้าย โดยสามีจะมีอาการหลายอารมณ์ คุ้มดีคุ้มร้าย และทำร้ายร่างกาย โดยก่อนหน้านี้สามีเสพยาบ้า แล้วได้หยุด ก่อนบำบัด แล้วกลับมาบ้าน เมื่อเดือน ก.ย.65 ยาหมด และไม่ได้รับยาต่อเนื่อง ทำให้สามีหลอน และชอบพกปืน จนทำให้ตัวเองกลัว


ส่วนเจ้าหน้าที่เปิดเผยก่อนที่จะมีการชิงรถตำรวจนั้น ผู้ก่อเหตุมีอาการหลอน พกปืนเพื่อที่จะไปยิงข่มขู่คู่อริ แต่เมื่อไปถึงชาวบ้านแจ้งตำรวจ ทางตำรวจขับรถมาแล้วลงจากรถ ทำให้ผู้ก่อเหตุฉวยโอกาสชิงรถตำรวจเพื่อหลบหนีดังกล่าว


ด้าน สิบเอกทนงศักดิ์ ชูรัก อายุ 31 ปี คู่กรณีที่นายเกริกพันธุ์บุกมายิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.50 น. ตนเองอยู่แถวหน้ามหาวิทยาลัยทักษิณ นายเกริกพันธุ์ ซึ่งเป็นญาติลูกพี่ลูกน้องกัน ได้ส่งข้อความผ่านทางไลน์มาข่มขู่ บอกว่าจะเข้าไปฆ่าพ่อกับแม่ตนเอง ตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจ พร้อมกับรีบเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของ จากนั้นนายเกริกพันธุ์ ได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าร้าน และโวยวายอาละวาดอยู่สักพัก ไม่รู้ว่าหลอนยามาจากไหน


กระทั่งรถตำรวจสายตรวจของ สภ.ป่าพะยอม รีบเดินทางมาเข้าระงับเหตุ โดยตำรวจได้จอดรถทิ้งไว้ริมถนนใกล้กับรถมอเตอร์ไซค์ของนายเกริกพันธุ์ แต่ระหว่างที่ตำรวจกำลังพูดคุยเจรจากับนายเกริกพันธุ์ จู่ ๆ นายเกริกพันธุ์ ได้ชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงเข้าใส่ตนเองและแม่ที่ยืนอยู่ภายในร้าน ทำให้ตนเอง แม่ และชาวบ้านที่มาซื้อของอยู่ภายในรีบก้มหลบกระสุนกันหมด


โดยตนเองเห็นว่าขณะนั้นตำรวจ หลังได้ยิงเสียงปืน ได้วิ่งหาที่กำบัง และได้ชักปืนยิงสวนไปยิงฝ่ายนายเกริกพันธุ์หลายนัด จนนายเกริกพันธุ์ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งขณะนั้นคาดว่านายเกริกพันธุ์ได้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงหาทางหนีจากตำรวจ โดยวิ่งไปเปิดประตูรถตำรวจที่กำลังสตาร์ทรถอยู่ และขับรถหลบหนีไปทันที ซึ่งตนเองยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนใช้ปืนยิงนายเกริกพันธุ์ แต่ตำรวจเป็นคนยิง


ส่วนความขัดแย้งที่นายเกริกพันธุ์บุกมายิง ตนเองไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่ที่ผ่านมา นายเกริกพันธุ์ เสพยาบ้าหนักจนหลอน และก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้า มา 2 คืนติดแล้ว ก่อนจะมาเกิดเหตุ


ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนเองกำลังนั่งเลี้ยงลูกอยู่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จากนั้นได้ยินเสียงรถชนกับเสาไฟฟ้าเสียงดัง จึงชะโงกหน้าออกมาดูพบว่า รถตำรวจประสบอุบัติเหตุ


ตอนแรกตัวเองจะวิ่งเข้าไปช่วย เพราะเห็นว่าเป็นรถตำรวจ แต่ผ่านไปไม่นาน ได้มีชายซึ่งไม่ใช่ตำรวจวิ่งลงจากรถ ถืออาวุธปืนพร้อมกับพาเด็กผู้หญิงมาด้วย และทั้งสองได้วิ่งเข้ามาภายในห้องแถวที่ตนเองพักและวิ่งเข้าไปหลบอยู่ภายในห้องสุดท้าย ก่อนที่ตำรวจจะเข้าปิดล้อม ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะให้ลูกสาวถือปืนออกมามอบตัวกับตำรวจ ดังกล่าว


และเมื่อเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง เข้าตรวจสอบรถตำรวจคันที่เกิดเหตุ ดูวิถีกระสุน และร่องรอยการถูกยิง ก่อนที่จะยกรถคันดังกล่าวไปเก็บที่ สภ.ป่าพะยอม เพื่อหาร่องรอยและเก็บดีเอ็นเอเพิ่มเติมในวันที่ 17 ต.ค.65



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7glsWYd5GF0

คุณอาจสนใจ

Related News