อาชญากรรม

รู้ตัวแล้ว! โจรผัวเมียยกเค้าบ้านย่านลาดพร้าวกลางวันแสก ๆ ไม่เกรงใจสายตาชาวบ้าน

โดย paranee_s

3 ต.ค. 2565

1.1K views

จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 โพสต์ข้อความระบุว่า “สวัสดีครับ พอดีเมื่อคืนโจรปีนเข้าข้างบ้าน เป็นบ้านที่เจ้าของไม่อยู่ครับ ลูกค้าในตึกเห็น เลยเดินมาบอกผม วันนี้มันกลับมาอีกครั้ง เพราะมาเอาของที่ขนไว้เมื่อคืน บ้านเขาตัดไฟ มัดมืด น่าจะเอาออกไปลำบาก ลูกค้าผมยืนถ่ายคลิป มันก็ยังเฉยให้ถ่าย ยอมกับมันไหมหละ แถวนี้โจรชุมมากครับ ชาติหนึ่งจะเห็นรถสายตรวจผ่านมาสักวันหนึ่ง เคยขอตู้แดงมาตั้ง สรุป คือเป็นตู้ไถเงินของตำรวจ 3-4 วันจะเข้ามาเซ็นทีหนึ่ง เอะอะๆ อ้างติดงาน สุดท้ายบุคคลที่พึ่งพาได้มากที่สุดคือหมาบางแก้วครับ พิกัด: พื้นที่ สน วังทองหลาง ลาดพร้าว 64 แยก 8”


ทีมข่าวช่อง 3 ลงพื้นที่พบกับนางอมรรัตน์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกขโมย พร้อมพาทีมข่าวสำรวจภายในบ้านเดี่ยวสองชั้นรวมเนื้อที่กว่า 1ไร่ ที่ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 64 แยก 8 หลังถูกคนร้ายปีนเข้าบ้านขโมยทรัพย์สินหลายครั้ง สร้างความหวาดผวาให้ครอบครัวและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก


โดยนางอมรรัตน์ เล่าว่าบ้านหลังดังกล่าวปกติแล้วตนเองกับลูกสาวจะพักอาศัยอยู่ แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา รู้สึกหวาดกลัวเนื่องจากทราบว่ามีคนร้ายลักทรัพย์ในพื้นที่บ่อยครั้ง อีกทั้งครอบครัวตนเองมีแต่ผู้หญิงจึงได้ย้ายไปพักอาศัยอยู่บ้านอีกหลังในซอยตรงข้าม ทำให้คนร้ายอาศัยโอกาสที่ไม่มีคนอยู่เข้ามาขโมยทรัพย์สินหลายครั้ง จนล่าสุดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปหลายแสนบาท อาทิ พระเครื่อง พระพุทธรูป เก้าอี้มุก และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ทำให้ตนเองรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าคนร้ายจะเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุก่อนหน้านี้หรือไม่ โดยเชื่อว่าคนร้ายอาจมีความจำเป็นขัดสนเรื่องเงินจึงต้องมาก่อเหตุ แต่ก็วิงวอนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ เพราะปกติเธอจะต้องเข้าไปให้อาหารสุนัขในบ้านหลังนี้ทุกวัน


ขณะที่พลเมืองดีใกล้ที่เกิดเหตุ (ชายใส่เสื้อลายสก๊อต) เล่าว่า ขณะนั่งอยู่ภายในบ้านก็เห็นคนร้ายชายหญิงสองคน กำลังปีนประตูรั้วบ้านพร้อมกับขนสัมภาระที่เป็นกระสอบออกจากบ้าน จึงได้มีการสอบถามว่าเข้าไปทำไม ไม่ใช่บ้านของตัวเองเพราะถือว่าผิดกฎหมาย รวมทั้งไปหยิบทรัพย์สินของเขามาได้ยังไง ไม่ใช่ของตัวเอง แต่คนร้ายกลับบอกว่าไม่เป็นไรแค่เศษเหล็กเท่านั้นเรื่องเล็กน้อย ทำให้ตนเองไม่กล้าที่ต่อว่าหรือมีปากเสียง เพราะทั้งสองคนมีรอยสักน่ากลัว ก่อนที่คนร้ายทั้งสองจะหอบถุงกระสอบเดินออกไปปากซอย


ขณะที่พลเมืองดีเจ้าของอพาร์ทเมนท์ ยอมรับว่าในพื้นที่มีเหตุคนร้ายขโมยทรัพย์สินบ่อยครั้ง สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้าน เนื่องจากที่ผ่านมาตำรวจไม่ค่อยเข้ามาในพื้นที่ และการเห็นตำรวจเข้ามาลาดตระเวนถือว่าเป็นเรื่องแปลกมาก


ส่วนตัวจึงต้องเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วไว้ป้องกันทรัพย์สิน และชาวบ้านต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ส่วนคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุครั้งนี้ถือว่าอุกอาจเพราะเป็นเวลากลางวัน และมีการก่อเหตุต่อเนื่องอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย


ทั้งมีรายงานว่าชายหญิงที่เข้ามาก่อเหตุทราบว่าเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง บริเวณปากซอยลาดพร้าว 64 ซึ่งเมื่อคืนก็ยังมาทำงาน


ทีมข่าวจึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าพูดคุยกับพนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว 64 เพื่อให้ดูรูปพรรณสัณฐาน โดยเฉพาะรอยสักที่ขาขวา และเข่าพับด้านซ้ายของชายที่ปรากฎในภาพ เนื่องจากมีประชาชนในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวมีลักษณะคล้ายพนักงานของบริษัทแห่งนี้


โดยพนักงานยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ามีเพื่อนของผู้ก่อเหตุที่เป็นพนักงานอยู่ภายในบริษัทจริง ซึ่งขณะนี้พนักงานรายนี้ปฏิบัติหน้าที่อยู่คนละแห่ง จึงไม่ทราบรายละเอียด โดยทางบริษัทพยายามติดต่อเพื่อสอบถามเรื่องราวดังกล่าว ส่วนผู้หญิงที่ปรากฏในภาพ ทางบริษัทไม่มีข้อมูล


ขณะเดียวกัน ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.วังทองหลาง ได้ลงพื้นที่พร้อมนางอมรัตน์ ผู้พัฒน์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านผู้เสียหาย เพื่อตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำรายละเอียดที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงพาเข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง


ด้าน พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะ ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า ตำรวจทราบตัวผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในซอยลาดพร้าว 64 แยก 8 แล้ว


ขณะนี้ได้เชิญผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องสงสัยได้มาสมัครงานเป็น รปภ.ที่บริษัทแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 64 แต่บริษัทยังไม่รับเป็นพนักงาน ซึ่งภาพถ่ายที่ปรากฏ คาดว่าสองผัวเมียน่าจะเคยใช้เส้นทางผ่านมายังบ้านดังกล่าว และเห็นว่าไม่มีไฟฟ้า ปล่อยให้รกร้างปิดเงียบ จึงเป็นช่องโหว่ให้คนร้ายสบโอกาสไปยกเค้าได้ง่าย


โดยซอยดังกล่าวเป็นซอยเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่าง ไม่มีสายตรวจในพื้นที่ ยืนยันว่า เส้นทางนี้มีซอยเชื่อมระหว่างลาดพร้าว 48 และลาดพร้าว 64 ตำรวจวางจุดตรวจแบบสแกนแทนตู้แดงไว้ที่แยก 12 ส่วนแยก 2 แยก 4 และแยก 6 ยังคงใช้จุดตรวจตู้แดง โดยมีสายตรวจเข้าออกทุก 8 ชั่วโมง และบางครั้งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ด้วย


คุณอาจสนใจ