อาชญากรรม
DSI ยึดรถหรู 26 คัน ถูกโจรกรรมในอังกฤษ ลักลอบนำเข้าไทย เตือนเจ้าของอีก 9 คัน จ่อโดนรับของโจร
โดย nattachat_c
20 ก.ย. 2565
28 views
ดีเอสไอ เปิดปฏิบัติการไททาเนี่ยม ยึดรถหรูถูกโจรกรรมข้ามชาติ หลังอังกฤษขอความร่วมมือ ตามยึดได้ 26 คัน พบส่งโดยเครื่องบินมาสิงคโปร์ ก่อนนำขึ้นเรือเข้าไทย ด้านบริษัทนำเข้าขายแล้ว 9 คัน หากผู้ซื้อไม่คืนเตรียมแจ้งรับของโจร ชี้คนซื้อฟ้องเรียกค่าเสียหายได้
วานนี้ (19 ก.ย. 65) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงผลการตรวจยึดรถยนต์หรู ที่ถูกโจรกรรมจากประเทศอังกฤษ แล้วลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีของกลางเป็นรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ รวม 26 คัน
โดยมีทั้ง Audi / BMW / Ferrari / Lamborgini / Porsche / Mini Cooper / Lexus / Mercedes Benz / Volkswagen / Range Rover / Nissan / Honda / Ford มูลค่าราคารถยนต์รวมกว่า 100 ล้านบาท และหากนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ก็จะมีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
โดยคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2559-2560 ที่มีขบวนการโจรกรรมรถยนต์ราคาสูงในสหราชอาณาจักร โดยมีกลุ่มคนไทย ร่วมมือกับกลุ่มคนต่างชาติในอังกฤษ ก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ราคาสูง วิธีการจะใช้เครือข่ายกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ติดต่อทำสัญญาเช่าซื้อหรือเช่ารถยนต์ระยะสั้น แล้วนำรถยนต์ไปส่งมอบให้กับเครือข่ายอีกกลุ่มหนึ่ง ให้ทำหน้าที่จัดทำเอกสารปลอม เพื่อส่งรถยนต์ออกจากประเทศอังกฤษผ่านทางเครื่องบินจากสนามบินฮีทโธรว์ไปยังประเทศสิงคโปร์ และขนส่งทางเรือจากประเทศสิงคโปร์เข้ามายังประเทศไทย
โดยมีรถยนต์ที่ถูกโจรกรรมเข้ามาในประเทศไทยทั้งหมดจำนวน 35 คัน ซึ่งมีการทำเอกสารเท็จเพื่อประกอบการนำเข้าประเทศไทย และชำระภาษีอากรต่อกรมศุลกากร โดยสำแดงเท็จว่า เป็นรถยนต์ใหม่สำเร็จรูป และได้นำมาจำหน่ายให้กับโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์หรูในประเทศไทยเพื่อขายให้กับประชาชน
คดีนี้เป็นการสืบสวนภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการไททาเนียม โดยหน่วยข่าวกรองอาชญากรรมยานยนต์แห่งชาติสหราชอาณาจักร ร่วมกับตำรวจนครบาลลอนดอน และได้ขอความร่วมมือมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ช่วยสืบสวนและยึดรถยนต์ที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อส่งคืนผู้เสียหายในอังกฤษและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด
ซึ่งเมื่อปี 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ไปตรวจค้นโชว์รูมของบริษัทแห่งหนึ่ง พบรถยนต์ที่ตรงตามบัญชี จำนวน 7 คัน และยังไปพบรถยนต์อยู่ในเขตปลอดอากรอีก 6 คัน จึงได้ทำการยึดอายัดไว้ และจนถึงขณะนี้สามารถยึดรถยนต์ได้เพิ่มอีก รวมจำนวนทั้งหมด 26 คัน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงานจากสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2560 กรมสอบสวนคดีพิเศษก็ได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งจนถึงขณะนี้ สามารถยึดรถยนต์ได้แล้วรวมทั้งหมด 26 คัน
ส่วนอีก 9 คันที่เหลือ พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ติดต่อไปยังผู้ครอบครองแล้วตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม หากไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ก็อาจจะต้องตกเป็นผู้ต้องหาต่อไปในอนาคต ฐานรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่มาจากการกระทำผิดแล้วยังรับไว้ อาจเข้าข่ายความผิดฐานรับของโจร
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้ จะประสานงานกับหน่วยงานของประเทศอังกฤษในการส่งคืนรถยนต์กลับคืน ส่วนโชว์รูมในไทยที่รับรถมาจำหน่าย ถ้าพบว่ารู้เห็นเป็นใจว่ารถที่รับซื้อมานั้น ได้มาอย่างไม่ถูกกฎหมาย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ขึ้นอยู่กับเจตนา แต่ผู้นำเข้ารถยนต์ทั้งขบวนการทั้งที่อยู่ในอังกฤษและไทย ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
พันตำรวจโทพเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกานสืบสวนพบว่า บริษัทที่ทำการลักลอบส่งออกรถทั้ง 35 คัน จากประเทศอังกฤษ เป็นบริษัทเดียวกันทั้งหมด
ขณะที่บริษัทที่รับซื้อรถในประเทศไทย ก็เป็นบริษัทเดียวกันทั้งหมด ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า ทั้ง 2 บริษัทนี้ มีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีความเกี่ยวพันกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ครอบครองรถยนต์แล้วได้ส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษยึดเป็นของกลางแล้วนั้น สามารถใช้สิทธิฟ้องแพ่งต่อผู้ที่จำหน่ายรถยนต์ให้ได้ กรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมจะสนับสนุนพยานหลักฐานให้
-------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/WJ_Yy5_Ashs
