อาชญากรรม

เปิดปากคำ 3 โจ๋ชิง 'เข็มพระเกี้ยว' อ้างอยากได้เพราะที่โรงเรียนไม่มี - เอาไปถ่ายลงสตอรี่อวดเพื่อน

โดย nattachat_c

1 ก.ค. 2565

314 views

วานนี้ 30 มิ.ย. 65 ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุชายสติไม่ดีคุ้มคลั่งปีนรั้วโรงเรียนหอวังก่อนถูกครูและนักการภารโรงของโรงเรียนช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้และนำส่ง สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีจนมีการเผยแพร่ในโซเชียลมิเดีย 


โดยทีมข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจบริเวณประตูทางเข้าโรงเรียนฝั่งติดกับถนนวิภาวดี-รังสิต ที่เคยเปิดใช้เพื่อรับนักเรียนในช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-08.30น.และจะปิดไว้ตลอดทั้งวัน โดยพบว่ารั้วโรงเรียนเป็นรั้วปูนความสูงประมาณ 2 เมตร 20 เซนติเมตร ข้างบนรั้วจะมีเหล็กแหลมป้องกันการปีนป่ายแต่บริเวณเสาประตูโรงเรียนสามารถใช้เท้าเหยียบขึ้นไปข้างบนรั้วและกระโดดเข้าไปในโรงเรียนได้


ด้าน นักการภารโรงเรียนหอวัง เล่าว่าตนเองไม่เห็นเหตุการณ์ตอนชายคนดังกล่าวปีนเข้ามาโรงเรียน แต่ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุสังเกตุเห็นว่าชายคนดังกล่าวเดินผ่านไปมาหน้าประตูหลายรอบ ซึ่งตนเองพยายามสอบถามแต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ได้ตอบอะไรแค่พยักหน้าและตอม" อืม อืม "เท่านั้น เชื่อว่าระหว่างที่ตนเองเดินเข้าไปเอาของไม่มีคนเห็นชายคนดังกล่าวอาจสบโอกาสปีนเข้ามา ก่อนครูเวรจะเห็นและเข้ามาล็อคตัวได้บริเวณประตูทางเข้าภายในโรงเรียนแล้ว



นายชัชชาติ ได้บอกว่า ได้เห็นคลิปแล้ว พร้อมได้สั่งการไปยังเทศกิจให้ดูแลความปลอดภัย นักเรียนอย่างเต็มที่ ทั้งที่มืด และ ทางข้าม แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายด้วย เพราะ กทม. ไม่ใช่ตำรวจ ดังนั้น หาก โรงเรียนไหน มีปัญหา ด้านความปลอดภัย สามารถแจ้ง กทม. เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลได้

------------

ส่วนกรณีวัยรุ่น 3 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ และใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์เข็มกลัดพระเกี้ยวนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) พร้อมทั้งทำร้ายร่างกาย ใช้มือต่อยไปที่บริเวณใบหน้าของนักเรียนคนหนึ่ง ก่อนหลบหนีไป โดยเหตุเกิดไม่ไกลจากบริเวณหน้าโรงเรียนดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีกล้องบันทึกภาพหน้ารถยนต์จับภาพวัยรุ่นชายสองคนที่ก่อเหตุไว้ได้


ล่าสุด วานนี้ (30 มิ.ย. 65) ตำรวจ สน.วังทองหลาง จับกุม 3 เยาวชนที่ก่อเหตุได้แล้ว โดยทั้งหมดถูกนำตัวเข้าสอบสวนที่ สน.วังทองหลาง โดย พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 เดินทางมาสอบปากคำผู้ก่อเหตุ และได้เชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำเยาวชนที่ก่อเหตุด้วย  


พล.ต.ต.พรชัย เปิดเผยว่า ทั้ง 3 คน เป็นเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี ยังเรียนอยู่ในสถาบันการศึกษา 2 คน และ ไม่ได้เรียนหนังสือ 1 คน โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านพักในย่านรามคำแหง ซอยรามคำแหง 39 พร้อมของกลาง อาวุธมีด ขณะสอบปากคำทั้ง 3 คน อยากขอโทษผู้เสียหายกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป


นอกจากนี้ได้ยึดของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ก่อเหตุสกูปปี้ไอ สีชมพู รวมถึงเสื้อผ้าที่ใส่ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ชำแหละแยกชิ้นส่วนซากรถจักรยานยนต์ ที่เป็นสีชมพูออกหลังก่อเหตุ เชื่อว่าเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวได้ แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากก่อเหตุ ได้เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำจนทำให้ตัวถังได้รับความเสียหาย จึงแยกชิ้นส่วนเพื่อเตรียมเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ไม่ได้เป็นการอำพรางคดี


จากนั้นผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า “ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะความคึกคะนอง อยากได้พระเกี้ยวไปห้อยกับโซ่ติดเสื้อ แต่ไม่เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน และไม่เคยรู้จักกับผู้เสียหายมาก่อนเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุกำลังจะไปซื้อของ แต่เมื่อขับมาใกล้กับจุดเกิดเหตุ เห็นกลุ่มผู้เสียหายเดินอยู่ จึงเกิดความคึกคะนอง ลงมือทำร้ายร่างกายและข่มขู่จะเอาตราพระเกี้ยว แต่ผู้เสียหายฮึดสู้ไม่ยอมให้ จึงทำให้หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุจึงชกเข้าที่ใบหน้า ก่อนจะหลบหนีไป โดยที่ไม่ได้พระเกี้ยวไปอย่างใด ก่อนจะหลบหนีกลับไปที่บ้าน จนถูกตำรวจจับกุมในเวลาต่อมา”


เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามปล้นทรัพย์โดยมียานพาหนะ , ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และ ร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมืองทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนที่วันนี้ (1 ก.ค.) จะคุมตัวไปขออำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ฝากขังตามกฎหมายต่อไป


ทีมข่าวได้พูดคุยกับหนึ่งในเพื่อนของผู้ก่อเหตุที่อยู่กลุ่มเดียว และรู้จักกันมาตั้งแต่อนุบาล เล่าว่า วันเกิดเหตุเหตุ เพื่อนคือผู้ก่อเหตุ 3 คน กำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อของหลังจากดื่มน้ำกระท่อม แต่ระหว่างทางไปเจอกับกลุ่มนักเรียนผู้เสียหายพอดี จึงเข้าไปขอเข็มกลัดตราพระเกี้ยว โดยบอกว่า เข็มสวยดีแต่คาดว่าเพื่อนตนถูกกลุ่มผู้เสียหายผลักจึงใช้อาวุธมีดออกมา


ส่วนสาเหตุที่ต้องการเข็มเพราะของโรงเรียนตนไม่มี จึงอยากได้ เพื่อเอาไปติดเสื้อของตัวเองไว้โชว์เพื่อนเฉยๆ ว่าเราก็มีเข็มกลัดนะ เมื่อทีมข่าวถามว่าแล้วเรียนอยู่ชั้นไหน ที่ไหน เจ้าตัวบอกว่า ไม่ได้เรียนแต่เอาเข็มไปติดเสื้อนักเรียนเก่าและถ่ายลงสตอรี่เพื่ออวดเพื่อน


“ยอมรับที่ผ่านมา ตนเองก็เคยไปตบเข็มนักเรียนโรงเรียนอื่น ๆ มาหลายครั้งแล้ว โดยจะเดินเข้าไปหาเด็กนักเรียนแล้วบอก เข็มสวยดี ขอเข็มหน่อย หลายคนกลัวเลยยอมให้ ซึ่งตนจำไม่ได้ว่าได้เข็มของโรงเรียนใดมาบ้างและทำมากี่ครั้งแต่เท่าที่นับๆ ดูได้มา 4-5 เข็ม”


ต่อมา พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางไปที่ สน.วังทองหลาง เปิดเผยขั้นตอนว่าคดีนี้ผู้ก่อเหตุและผู้เสียหาย เป็นเยาวชน จึงจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ เข้าร่วมการสอบปากคำผู้ก่อเหตุ ซึ่งในส่วนของผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนให้การรับสารภาพ และจะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนการจับตามกฏหมายเยาวชนฯ โดยเบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับว่าเป็นค่านิยมในการสะสมเครื่องแบบสัญลักษณ์ของโรงเรียนตรงข้าม


ในคดีนี้มีผู้ก่อเหตุจำนวน 3 คน จึงเข้าองค์ประกอบความผิดฐาน ร่วมกันพยายามปล้นทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายร่างกาย ซึ่งถือเป็นข้อกล่าวหาที่หนักมาก ดังนั้น จึงขอให้คดีนี้เป็นอุทาหรณ์ของกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน ที่มีค่านิยมในลักษณะนี้ ตระหนักถึงโทษที่จะตามมาหลังจากก่อเหตุไปแล้วนอกจากนี้ตำรวจจะสอบสวนเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้ปกครองจะเข้าข่ายที่จะต้องรับความผิดตามกฎหมายด้วยหรือไม่


สำหรับการสอบปากคำผู้เสียหาย พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง และเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพไปสอบปากคำเด็กนักเรียนผู้เสียหายที่โรงเรียนแล้ว โดยไม่จำเป็นต้องมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจอีก ยืนยันว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะจัดตำรวจสายตรวจ เฝ้าระวังตามจุดล่อแหลมของโรงเรียนต่างๆ โดยประสานงานร่วมกับโรงเรียนในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังเหตุ




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/b1z9maFoEFU

คุณอาจสนใจ

Related News