อาชญากรรม

'แม่แตงโม-ทนายเดชา' ยื่นถอน 'หมอพรทิพย์' ไม่พอใจแทรกแซง ตร. ยันไม่รู้จัก 'เต๊ะ ศตวรรษ'

โดย thichaphat_d

29 มี.ค. 2565

380 views

แม่แตงโม-ทนายเดชา ยื่นหนังสือ กมธ.สิทธิฯ  ถอดถอน ‘หมอพรทิพย์’ ออกจากคดีแตงโม ไม่พอใจก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของตำรวจ เปิดเผยผลผ่าพิสูจน์ศพต่อสาธารณะ ให้สัมภาษณ์สื่อมากจนเกินไป พร้อมถอน ‘เต๊ะ ศตวรรษ’ พ้นผู้ร่วมสังเกตการณ์ ลั่นไม่รู้จักกัน ชี้คดีใกล้จบแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นมาทำให้สะดุด


วานนี้ (28 มี.ค.) เวลา 14.00 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายศูนย์ทนายคลายทุกข์ เดินทางไปที่รัฐสภายื่นหนังสือถึงนายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค (กมธ.) วุฒิสภา

ถอนเรื่องการพิจารณาคำร้องการเสียชีวิตของแตงโม ออกจากกรรมาธิการฯ และขอให้แพทย์หญิง คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภาและอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หยุดแทรกแซงการทำคดี  

นางภนิดา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของตนเอง ได้ยื่นเรื่องต่อ กมธ.ชุดดังกล่าว แต่เพิ่งตรวจสอบและพบว่าข้อมูลไม่ตรงกับสิ่งที่ตนเองต้องการ คือ ต้องการให้ตำรวจทำงานอย่างเดียว

“ตอนนี้ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่ เพราะมีการแทรกแซง มีความไม่พอใจเกิดขึ้น จึงขอมาถอดถอนจดหมายฉบับนั้นโดยเฉพาะกรณีที่หมอพรทิพย์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผลพิสูจน์ศพรอบ 2 ทั้งที่ไม่ควรเปิดเผยต่อสื่อมวลชน และตำรวจไม่พอใจที่คุณหญิงหมอเข้าไปลักษณะแทรกแซง”

นอกจากนี้นางภนิดา ยังตั้งข้อสังเกตว่า การให้สัมภาษณ์ของหมอพรทิพย์ เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 ลักษณะแทรกแซงการทำงานของตำรวจหรือไม่

“ตั้งแต่เริ่มทำคดี คุณแม่พอใจการทำงานของตำรวจ เพราะต่างฝ่ายต่างให้เกียรติกัน แต่เมื่อคุณหมอพรทิพย์เข้ามา มีลักษณะแทรกแซงการทำงาน และสั่งให้ตำรวจทำในสิ่งที่ทำไปแล้ว โดยตอนนี้คดีใกล้จะจบแล้ว เหลืออีกไม่กี่เปอร์เซ็นต์”

จากนั้นทนายเดชา ได้ระบุเหตุผลของแม่แตงโม ที่มายื่นเรื่องเนื่องจากมีกรรมาธิการบางคน ซึ่งต่อมาก็ระบุว่าเป็น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา รวม 6 ข้อ คือ  

1.มีการก้าวก่ายการทำงานของตำรวจ เช่น สั่งให้สอบผู้เชี่ยวชาญ ,สั่งให้นำเข้าเครื่องจับเท็จ และตำหนิเรื่องการเก็บเรือของกลาง ซึ่งตามข้อเท็จจริงตำรวจได้ดำเนินการครบถ้วนแล้ว        

2.นำผลการผ่าพิสูจน์ศพของคุณแตงโม มาเปิดเผย อาทิ  ปริมาณแอลกอฮอล์ ,หยดเลือดที่ผ้าอนามัย ,ร่องรอยบาดแผลที่ศพ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดต่อการทำงานของตำรวจ

3.มีการให้สัมภาษณ์ดิสเครดิตการทำงานของหมอนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ จนทำให้ประชาชนสับสนและขาดความน่าเชื่อถือ

4.มีการให้สัมภาษณ์ ระบุ ทนายดังต่อสายมาเตือนว่าตำรวจผู้ใหญ่ไม่ปลื้มที่เข้ามายุ่งคดีโดยไม่มีพยานหลักฐาน มองว่าเป็นการดิสเครดิตตำรวจ

5.กรณีที่อ้างการเปิดเผยข้อมูลทางนิติวิทยาศาสตร์ของต่างประเทศซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายใดรองรับ

6.กรณีกล่าวหาตำรวจมีการเตะถ่วงไม่ยอมส่งศพเพื่อผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากตำรวจได้ส่งศพหรือหนังสือแจ้งไปยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บรักษาไว้ระหว่างรอมติคณะกรรมการกำกับการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้ทำการผ่าศพอีกครั้งตามกฎหมายก่อน

ทั้งนี้ ในหนังสือที่ยื่นวันนี้ ได้ขอยกเลิกหนังสือมอบอำนาจหรือหนังสือยินยอมให้ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ และ เต๊ะ ศตวรรษ เศรษฐกร เข้าร่วมในการสังเกตการณ์การชันสูตรพลิกศพคุณแตงโม ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และไม่อนุญาตให้บุคคลทั้ง 2 คน นำผลการชันสูตร พลิกศพมาแถลงต่อสื่อมวลชน หรือสาธารณะ เนื่องจากทำให้รูปคดีของตำรวจเสียหาย

ทนายเดชา ยังระบุอีกว่า คุณแม่รู้สึกกังวลเรื่องการแทรกแซงของกรรมาธิการบางคน ส่วนตนเองได้ไปคุยตำรวจ มีการระบายให้ฟังว่า มีการก้าวก่ายการทำงาน ทำให้ตำรวจไม่มีศักดิ์ศรี เช่น มีการสั่งหลายอย่าง ทั้งที่ตำรวจทำไปหมดแล้ว จนทำให้สังคมด่าตำรวจ ส่วนกรณีไม่นำพยานเข้าเครื่องจับเท็จ เพราะอาจเป็นผลเสียได้ กรรมาธิการบางคนเข้ามาย่ำยีตำรวจ ตำหนิการจัดเก็บเรือของกลาง เหมือนไปด่า ทั้งที่มีการตรวจอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีการตรวจซ้ำ

จนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ต้องแถลงข่าว หรือการนำผลพิสูจน์ศพพูดในที่สาธารณะ โดยแม่มอบอำนาจแค่ให้สังเกตการณ์ ไม่ใช่นำมาเปิดเผยต่อที่สาธารณะ อย่างเรื่องผลแอลกอฮอล์ ร่องรอยบาดแผล และหยดเลือดผ้าอนามัย “ขอยืนยันว่า ไม่มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่โทรไปข่มขู่ และผมไม่เคยข่มขู่อาจารย์หมอ ผมมีชื่อเสียง แล้วผมจะทำไปทำไม และการให้สัมภาษณ์ของอาจารย์หมอ ปราศจากหลักฐาน”

ภายหลังยื่นหนังสือ ผู้สื่อข่าวได้ซักถาม เช่น กรณีที่เคยขอให้คุณหมอพรทิพย์ มาช่วย แต่สุดท้ายมาขอถอนเรื่องออก โดยนางภนิดา ยอมรับว่าตนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงเชื่อคำแนะนำของทนายกฤษณะ ที่เสนอว่าจะมาขอความช่วยเหลือจากหมอพรทิพย์ โดนจะมายื่นหนังสือผ่าน กมธ.ที่รัฐสภา และได้พิมพ์หนังสือมอบอำนาจให้ตนเซ็น

นางภนิดา ยอมรับว่าตนพลาดเองที่ไม่ได้อ่านรายละเอียด จากนั้นทนายกฤษณะ ก็ไปจัดแจงและให้หลานสาวมาเป็นตัวแทนของครอบครัว ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่รู้เรื่อง จนล่วงเลยถึงการยื่นเรื่องขอชันสูตรพลิกศพรอบที่ 2 แม่ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่อยากให้ผ่าศพแล้ว แต่ทนายกฤษณะ และแพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ ก็ยืนยันและแสดงความเห็นและดำเนินการจนเกิดการผ่าศพครั้งที่ 2

"ที่ผ่านมาแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมากจนเกินไป ทั้งเรื่องการนำผลชันสูตรพลิกศพลูกสาวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ทั้งที่ผลชันสูตรบางส่วนคือส่วนสำคัญของคดี” จากนี้จะไม่ขอเคลียร์หรือพูดคุยกับหมอพรทิพย์ อีกแล้ว เพราะไม่มีความจำเป็นต้องคุยกัน

ส่วนกรณี เต๊ะ ศตวรรษ นางภนิดา ยืนยันว่าไม่เคยรู้จักและไม่ได้เป็นการมอบอำนาจจากครอบครัว แต่นายศตวรรษ สนิทสนมกับคุณธงชัย ผู้ดูแลโบสถ์ที่ลูกสาวนับถือและเป็นการจัดแจงกันเองทั้งหมด ล่าสุดตนได้คุยกับคุณธงชัย แล้วแจ้งว่าจะขอถอดถอนนายศตวรรษ ออกจากผู้สังเกตการณ์และการมีส่วนร่วมในคดีนี้ทั้งหมด

และบอกอีกว่าเชื่อมั่นในกระบวนการสอบสวนและตรวจสอบของตำรวจทุกอย่าง เพราะทำทุกอย่างได้ดีมากมาโดยตลอด และคดีนี้ใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ไม่อยากให้คนอื่นมาทำให้คดีสะดุดหรือต้องมีประเด็นอื่นเข้ามาแทรกแซง

ขณะที่นายสมชาย ยืนยันว่าทั้ง กรรมาธิการ และหมอพรทิพย์ ทำตามบทบาทหน้าที่ ไม่มีส่วนใดไปก้าวก่าย หรือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย ส่วนการให้สัมภาษณ์ของหมอพรทิพย์จะไปเกี่ยวข้องกับคดีถือเป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับ กมธ. และย้ำว่าการทำงานของ กมธ.จะระบุชื่อคนใดคนหนึ่งไม่ให้มาทำหน้าที่ไม่ได้

ถ้าหากในสัปดาห์หน้ามีการพิจารณาคดีของแตงโม ที่นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา มายื่นให้ กมธ.ตรวจสอบ ทุกคนในกรรมาธิการ ก็ทำหน้าที่ของตนเองตามปกติ

ทั้งนี้ บางช่วงบางตอนของการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวพยายามซักถามนางภนิดา ถึงเจตนาของการแถลงข่าวว่าต้องการจะผลักหมอพรทิพย์ ออกและปกป้องตำรวจหรือไม่ นางภนิดายืนยันว่าไม่ได้ปกป้อง แต่ตนเองไม่ชอบที่หมอพรทิพย์ออกมาพูดมากเกินไป



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/mkd6cJ_Wfgw

คุณอาจสนใจ

Related News