วงแชร์แครอทล้ม! หลอก 'พระสงฆ์' เทรดหุ้น ขายฝัน 5 ปีมีบ้านรถ ความเสียหายพันล้าน

วงการพระสงฆ์เดือด หลังถูกหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้นสกุลเงินในลักษณะแชร์ลูกโซ่ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท เคยแจ้งความกับ DSI ตั้งแต่ปี 2565 เรื่องเงียบยังไม่มีการยึดทรัพย์สักบาทเดียว ทางโบรกเกอร์และแม่ทีมที่ชักชวนอ้างรู้จักอดีตรัฐมนตรีกระทรวงหนึ่ง และอ้างสนิทสนมกับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่กลัวกฎหมาย

เพจอีซอขยี้ข่าว โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับวงการผ้าเหลืองอีกแล้ว ซึ่งกรณีนี้อีซ้อระบุว่า บ้านแชร์น้องแครอทล้มแล้ว แชร์ลูกโซ่ของสงฆ์อีสาน ผู้เสียหายส่วนใหญ่คือพระสงฆ์เกือบทั้งหมด หลอกพระสงฆ์ที่อยู่ในภาคอีสานเข้าร่วมลงทุนเทรดกับบริษัทขายฝัน อ้างไม่เกิน 5 ปีได้บ้านได้รถตอนนี้มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 1,000 กว่าล้านบาท

ล่าสุดทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้พูดคุยกับ คุณเอ ผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักกับโบรกเกอร์บริษัทหนึ่งจากการแนะนำของญาติ โบรกเกอร์รายนี้ชักชวนให้ลงทุนเทรดหุ้นสกุลเงิน ซึ่งตอนแรกตนยังไม่ได้สนใจ แต่ต่อมาตนเห็นว่า ญาติคนที่แนะนำโบรกเกอร์ให้รู้จักร่ำรวยขึ้นในระยะเวลา 2-3 ปี

ตนจึงสนใจและเข้าร่วมการเทรด โดยต้องเข้าร่วมอบรม ชื่อค่ายพญาอินทรี ระยะ 3 วัน 2 คืน ซึ่งจะเป็นการอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้ application และการเทรดสกุลเงินจากนั้นวันสุดท้ายวันที่ 3 จะเป็นการปิดการขายด้วยการชักชวนให้ลงทุน มี 3 รูปแบบ

โดยรูปแบบแรกคือการเทรดด้วยตนเองต้องเปิดพอร์ต 100,000 บาท

รูปแบบที่สอง คือการก็อปปี้เทรด เป็นการเทรดตามแม่ทีมและโบรกเกอร์ของตัวเอง ซึ่งต้องเปิดพอร์ตลงทุน ลงทุน 316,000 บาท หรือ 10,000 USD.

และรูปแบบสุดท้ายคือการเทรดแบบ 8 พอร์ต ซึ่งรูปแบบนี้จะค่อนข้างยุ่งยากและซับซ้อน ตนจึงเลือกลงทุนรูปแบบที่ 2 เพราะเป็นการเทรดตามแม่ทีมและเปิดพอร์ตไปทั้งหมด 3 พอร์ต มีตนเอง แม่ และ น้องสาว ซึ่งเดือนแรก ตนได้ทุนคืน 30,000 บาท ซึ่งช่วงนั้นมีข่าวว่าโบรกเกอร์ดังกล่าวถูกผู้ลงทุนฟ้องร้องและแจ้งความกับทาง DSI ตนจึงต้องการปิดพอร์ตและถอนทุนคืนทั้งหมด ปรากฎว่าถอนเงินไม่ได้ แต่กลับได้ใบให้ยินยอมรับสภาพหนี้แทนเกือบ สามแสนบาท

ส่วนพระสงฆ์ที่เข้าไปร่วมลงทุน จะถูกแม่ทีม เข้าไปตามวัด อ้างจัดอบรมเพื่อให้ความรู้เรื่องกฎหมาย เรื่องการลงทุน เรื่องศักยภาพด้านธุรกิจต่างๆกับพระสงฆ์ แล้วสุดท้ายก็จะชักชวนให้ลงทุนในลักษณะดังกล่าว และมีการสร้างโปรไฟล์ว่าเป็นคนชอบทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดหลายแห่ง

ทำให้มีพระสงฆ์หลงเชื่อร่วมลงทุน ไม่ต่ำกว่า 1,000 รูป ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคอีสาน กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งพระสงฆ์ส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะให้ข้อมูลเนื่องจากบางรูปเป็นถึงระดับเจ้าอาวาส กลัวว่าจะกระทบต่อตำแหน่ง ส่วนที่เป็นฆราวาสมีประมาณ 3-4 พันคน

ตนและผู้ลงทุนทั้งหมดเคยรวมตัวกันไปแจ้งความและร้องกับ DSI ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงตอนนี้เรื่องเงียบ ยังไม่มีการจับกุมบุคคลใดมาดำเนินคดีหรือยังไม่มีการยึดทรัพย์ใครเลย โบรกเกอร์และแม่ทีมยังใช้ชีวิตกินหรูอยู่แพงและไปเปิดอีกบริษัทหนึ่งชักชวนให้ลงทุนเหมือนเดิม ตนจึงต้องการเรียกร้องผ่านสื่อฯเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ DSI ที่เป็นเจ้าของคดี เร่งรัดทำคดีรีบติดตามยึดทรัพย์มาคืนให้กับผู้เสียหาย เพราะทางโบรกเกอร์และแม่ทีมมีการอ้างความสนิทสนมกับอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง รวมถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองด้วย

ด้านคุณอี้ แทนคุณ จิตอิสระ เป็นผู้รวบรวมผู้เสียหาย บอกว่า ตนจะเข้ามาช่วยเหลือ 3 ทาง คือ 1.จะรวบรวมผู้เสียหายซึ่งคดีนี้ตนเคยพาผู้เสียหายมาร้องที่กองบังคับการปราบปรามแล้วหากมีผู้เสียหายเพิ่มก็จะพามาแจ้งความเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าคดี

วันที่ 24 ตุลาคมนี้ ตนจะพาผู้เสียหายไปร้องที่สภาผู้แทนราษฎร ใช้กลไกของกรรมาธิการสภาฯในการติดตามความคืบหน้าคดีและเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานหลายส่วนจึงต้องใช้กลไกของสภาในการทวงความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย

และ 3. ตามเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ซึ่งเป็นเจ้าของคดีนี้ แต่ผู้เสียหายบอกว่าคดีไม่มีความคืบหน้า ปปง.ยังไม่ได้เข้ามายึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องเลย หนำซ้ำยังมีการเปิดบริษัทใหม่และไปชักชวนให้ลงทุนในลักษณะเดิมอีก ตนจึงมีความเป็นห่วงหน่วยงาน DSI ต้องทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ในวันเดียวกัน 24 ตุลาคมตนก็จะพาผู้เสียหายไปติดตามความคืบหน้าที่ DSI ด้วย

https://youtu.be/PYj4GIvFq2U