สังคม

DSI สรุปชัด จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม 'แชร์ลูกโซ่' 18 บอสดิไอคอน

โดย panwilai_c

6 พ.ย. 2567

22 views

กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ประชุมร่วมกับตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนได้ข้อสรุปชัดเจนแล้วว่าจะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่กับผู้ต้องหาชุดเดิมคือ 18 บอสดิไอคอนกรุ๊ป เพิ่มอีก รอเพียงการประสานว่าจะเข้าไปแจ้งข้อล่าวหาทันวันศุกร์นี้หรือไม่



วันนี้ ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อประชุมหารือคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป ร่วมกับดีเอสไอ ที่นำโดย พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยการประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมใหญ่ร่วมกันของทั้ง 2 หน่วยงานเป็นครั้งที่ 2



หลังประชุม พันตำรวจตรียุทธนา เปิดเผยว่า ดีเอสไอก็ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนมาอย่างละเอียด ทำให้มีความมั่นใจว่าจะดำเนินการคดีนี้ได้เสร็จสิ้นทันกำหนดระยะเวลาที่จะสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้



โดยกรณีที่ดีเอสไอจะมีการเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับ 18 บอสดิไอคอนเพิ่มเติม 2 ข้อหา คือ ความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและ ความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง ภายในเรือนจำนั้น เมื่อวานนี้ คณะกรรมการฯ ของดีเอสไอได้มีมติไปแล้ว ซึ่งจะดำเนินการภายในสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้า โดยหากประสานกับทางเรือนจำและนัดหมายทนายความได้ทัน ก็อาจจะเข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มในวันศุกร์นี้



พันตำรวจตรียุทธนา เปิดเผยอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีฐานฟอกเงิน ทางดีเอสไอ ได้มีการยึดอายัดที่ดินเพิ่มเติมอีก 78 แปลง ซึ่งเป็นของทั้งผู้ต้องหา และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท โดยความผิดมูลฐานฟอกเงินนั้น ต้องมีการยึดอายัดทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อส่ง ปปง.



นักข่าวถามว่า การประชุมร่วมกันกับตำรวจในวันนี้จะสามารถนำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาล็อตใหม่เพิ่มเติมได้หรือไม่ พันตำรวจตรียุทธนา บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยไปถึงจุดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรวบรวมสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน และ 1 นิติบุคคลให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อน



ขณะที่บรรยากาศที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร วันนี้ พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าไปสอบปากคำ นายวรัตน์พล วรัทน์วรกุล หรือบอสพอล และนายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือ โค้ชแล็ป ผู้ต้องหาในคดีดิไอคอน ใน 3 ประเด็น คือ ปมนักร้องเรียนหญิง ก.ไก่ เรียกรับเงิน พ่วงปมพยานเท็จ ของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และบุคคลที่อ้างตัวเป็นตำรวจ เรียกเงิน 9 ล้านบาท



นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของผู้ต้องหา เปิดเผยหลังการสอบปากคำว่า บอสพอไม่ได้มีการสั่งการ ให้มาดำเนินการอะไรเป็นพิเศษ แต่หลังจากนี้จะให้สัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้าย และพยายามจะพูดให้น้อยลง เนื่องจากเป็นความต้องการของผู้ต้องหา ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกกดดัน แต่เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่ได้เริ่มการทำงานทางคดีทำให้งานล่าช้า จึงจะใช้เวลาไปเตรียมพยานหลักฐาน และรายละเอียดทางสำนวนคดี เพื่อต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เพราะหากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม จะได้มีความพร้อมในเอกสารคำให้การ ซึ่งจนถึงขณะนี้ทาง DSI ยังไม่ได้มีการประสาน เข้ามาเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ และพ.ร.บ.ขายตรง

คุณอาจสนใจ