'ดารุมะซูชิ' คัมแบ็ก! ลั่นขอโอกาสเปิดร้านหาเงินใช้หนี้ ยันไม่โกง จ่ายเงินช้าเพราะติดคุกฟรี 2 ปี

เจ้าของกิจการ ดารุมะ ซูชิ ประกาศ ขอโอกาสกลับมาเปิดกิจการ หาเงินใช้หนี้ พร้อมชี้แจงที่จ่ายเงินล่าช้า เพราะไปติดคุก พร้อมย้ำไม่โกง

จากกรณีนายเมธา หรือบอนนี่ เจ้าของกิจการ ดารุมะซูชิ ซึ่งก่อนหน้าเมื่อประมาณ 1-2 ปี ที่ผ่านมา ได้เปิดร้าน ซูชิ และซาซิมิ โดยได้ทำโปรโมชั่น เปิดขายเวาเชอร์ (e-Voucher) บุฟเฟต์ "แซลมอน" เหลือ 199 บาทจากราคาปกติราว 499 บาท จนคนแห่เข้าไปจองซื้อจำนวนมาก แต่สุดท้ายกลับแจ้งปิดบริการกะทันหัน จนทำให้มีผู้เสียหายไปร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกือบ 500 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

โดยเจ้าของกิจการได้พยายามหนีออกนอกประเทศ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ต่อมา ได้ประกันตัวออกมาสู้คดี อย่างไรก็ตาม ในที่สุดศาลอาญาตัดสินยกฟ้อง บอนนี่ เจ้าของร้านอาหาร ดารุมะซูชิ ชี้เป็นการบริหารที่ผิดพลาดไม่เข้าข่ายเจตนาทุจริตหลอกลวง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 กันยายน เพจดารุมะซูชิ โพสต์ชี้แจงว่า ที่กระบวนการคืนเงินช้าเพราะผมไปติดคุกฟรีมาเกือบ 2 ปี ถ้าคิดจะโกงจะหาเงินมาคืนทำไม คิดวิเคราะห์แยกแยะด้วยอย่าเอาแต่ด่า ไม่มีใครได้ประโยชน์จากการที่ผมไปคุก

นอกจากนี้ในช่องคอมเมนต์ ยังได้โพสต์รายชื่อผู้เสียหายจำนวน 73 รายชื่อ พร้อมข้อความระบุว่า "รายชื่อผู้เสียหายที่ทำเสร็จสิ้นกระบวนการก็ไปติดต่อขอรับเงินคืนได้ที่ศาลแขวงดอนเมือง" ขณะที่ข้อความในภาพระบุให้ไปติดต่อขอรับเงินได้ที่สคบ.

เพจดารุมะซูชิ ยังระบุในช่องคอมเมนต์อีกว่า "ผู้เสียหายคนไหนฟ้องเองพอเสร็จกระบวนการก็ไปรับเงินคืนแบบนี้ผมก็คืนให้ครับ ส่วนท่านใดที่ยังไม่มีชื่อก็ไปลงชื่อไว้ที่ สคบ. พอเสร็จกระบวนการผมก็คืนให้ทั้งหมด ที่มันยากเพราะมันเป็นคดีถ้าผมไม่ไปติดคุกฟรี ผมคืนครบหมดไปนานแล้วครับ"

ส่วนที่ชาวเน็ตเข้ามาสอบถามว่า "แล้วคนที่ไม่ได้ไปลงชื่อไว้ตั้งแต่แรกละคะ ตอนนี้แอปก็ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว จะเอาหลักฐานตรงส่วนไหนไปลงชื่อคะ" ซึ่งทางเพจดารุมะซูชิ ตอบว่า "นำหลักฐานชำระเงินครับ ไปลงชื่อได้"

โดย คุณเมธา ชลิงสุข กรรมการผู้จัดการ บจก. ดารุมะ ซูชิ เปิดเผยว่า อย่างแรกที่บอกว่ามูลค่าความเสียหายมากกว่า 300 ล้าน จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องจริง ที่มีการฟ้องร้องกัน ในส่วนของคูปองตนเองใช้หนี้มาโดยตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง ตอนนี้เหลือประมาณ 2-3 ล้าน

ส่วนที่กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตนได้ระหว่างเดินทางหลบหนีออกจากนอกประเทศ ไม่เป็นความจริง แต่เป็นการเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 21 มิถุนายน 2565 เป็นผู้โดยสารขาเข้า เข้ามาเพื่อที่จะมาดำเนินกิจการต่อ

แต่โดนเจ้าหน้าที่จับตัว ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2565 จนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 ระยะเวลาเกือบ 2 ปี ที่ตนอยู่ในคุก พอวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 คำพิพากษาตัดสินมาว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ เท่ากับว่าตนเสียเวลาอยู่ในคุกมา 2 ปีเต็ม

ส่วนเรื่องของพนักงานที่แจ้งว่าตนติดเงินเดือนพนักงาน ไม่เป็นความจริง พนักงาน 395 ท่าน ทำงานกับตนมา 7 ปี ไม่ใช่พนักงานเถื่อน ตนเองไม่เคยค้างเงินเดือนพนักงานแม้แต่เดือนเดียว

บางคนอาจจะไม่เข้าใจที่ตนเองโพสต์ว่าติดคุกฟรี หมายความว่า ระหว่างที่ตนโดนถังอยู่ในคุก เพื่อรอพิสูจน์ข้อเท็จจริง ในกระบวนการของศาล ใช้ระยะเวลาเกือบ 2 ปี แล้ววันที่พิพากษา วัน 25 กุมภาพันธ์ 2567 ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือ ตนเป็นผู้ชนะทุกข้อกล่าวหา หมายความว่าตนเป็นผู้บริสุทธิ์ เท่ากับว่าระยะเวลาที่ตนอยู่ในเรือนจำ เกือบ 2 ปี มันก็คือเป็นการเสียเวลา

ถ้าวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ตนได้กลับมาดำเนินกิจการ ตนคิดว่าทุกอย่างตนสามารถชดใช้คืนได้หมดโดยไม่ต้องกินระยะเวลาถึงขนาดนี้

รวมถึงหลังจากที่ผมออกมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ตนดำเนินการ เช็กคดีต่างๆ ที่มีส่วนมากจะเป็นคดีแพ่ง เรื่องคูปอง ตนได้ดำเนินเรื่องทำการชดใช้ รับผิดชอบเรื่อยมา จนมาถึงวันนี้ ยอดทั้งหมดเหลือเพียง 3 ล้านบาท ผมจึงต้องการเปิดกิจการ ขายเดริเวอร์รี่ เล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวเอง เพื่อหารายได้ที่จะมาซัพพอร์ตในการที่จะชดใช้ค่าคูปองลูกค้าส่วนมากต่อไป

ในส่วนที่ผู้เสียหายยังไม่ได้เงินคืน และไม่ได้ไปยื่นเรื่องที่ สคบ. เบื้องต้น ท่านสามารถนำหลักฐานการชำระเงินมา พร้อมกับคูปองที่ท่านมี ส่งมาทาง สคบ. เขาจะมีตัวการดำเนินเรื่องให้ จึงอยากขอให้เห็นใจ หากท่านใดมีหลักฐานครบ ตนเองยินดีที่จะคืนเงิน

คุณเมธา บอกว่าหลังจากที่ออกมาคุก สุขภาพจิต ดีขึ้นมากแล้ว แล้วคิดว่าตัวเองยังพอมีแรงสามารถ ทำมาหากินได้ ตนก็เลยเปิดร้านเดลิเวอรี่ ไม่ได้ใช้เงินทุนอะไรมากมายทำที่บ้าน เพื่อที่จะหาเงินมาซัพพอร์ตในส่วนของที่ต้องนำไปคืนคูปอง ในอนาคตต่อไป

จากการพูดคุยกับ คุณอ้อ หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ตนและแฟนเคยใช้บริการ ดารุมะ ซูชิ โดยซื้อคูปองมาแล้ว 6 ใบ เข้าไปใช้บริการได้ปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ ต่อมามีการเปิดรอบขายคูปองอีกครั้ง

จึงตัดสินใจให้แฟนซื้อคูปองอีกรอบหนึ่งจำนวนซื้อมา 10 ใบ จำนวน 1,990 บาท จากนั้นตนเองเดินทางไปใช้บริการ ดารุมะ ซูชิ ที่สาขาศรีนครินท์ แต่ปรากฎว่าพอไปถึง หน้าร้านติดป้ายว่าคูปองไม่สามารถใช้ได้

จากนั้นตนเองได้มีการติดตามความคืบหน้า เรื่องของการขอรับเงินคืน โดยมีแอดมินสร้างกลุ่มรวบรวมผู้เสียหายขึ้นมา ซึ่งมีคนเข้าร่วม 1,600 กว่าคน ทางแอดมินได้แจ้ง ขั้นตอนการดำเนินการ ว่าขั้นแรกต้องแจ้งความก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมเป็นคดี หลังจากรวบรวมคดีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะนัดวันขึ้นศาล และแจ้งทาง สคบ. ไปด้วย

ซึ่งตอนนี้ตนรอทางคุณ บอนนี่ ติดต่อกลับมา ทุกคนอยากได้เงินคืน จะให้ทางผู้เสียหายดำเนินการอย่างไรกันแน่ ตอนนี้ในกลุ่มก็มีการถกเถียงกันว่าจะดำเนินการอย่างไร ดี เพราะไม่มีความชัดเจน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/M3tEGM0WuEo