อาชญากรรม

ค้นบ้าน 'เซ็น สามพระยา' มือยิงดับ 'จ่าพั้นช์' ยึดปืน 3 กระบอก คนสนิทแฉหุ้นส่วนผับระดับ 'รองผู้กำกับ'

โดย paweena_c

23 ส.ค. 2567

317 views

ชุดปฏิบัติการพิเศษนำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านนายเซ็น มือยิงจ่าพั้นช์ยึดปืน 3 กระบอกเป็น BB gun 2 กระบอกและลูกซองกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก ตำรวจยึดไว้ตรวจสอบ ขณะคนใกล้ชิด เซ็น มือปืน ยิงจ่าพั้นช์ แฉมีตำรวจเป็นหุ้นส่วน 2 นาย

ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านของนายจักรกฤษ หรือ เซ็น สามพระยา ในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ไปถึง นายเซ็นไม่อยู่บ้าน ทราบว่าหลบอยู่บ้านพ่อ เนื่องจากกลัวว่ากลุ่มของทหารเพื่อนจ่าพั้นช์จะมาแก้แค้น

ตำรวจจึงต้องประสานให้ เซ็น กลับมาที่บ้านและนำเข้าตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนจำนวน 3 กระบอก เป็นปืนพกสั้นบีบีกัน 1 กระบอก, ปืนกลยาว บีบีกัน 1 กระบอก และลูกซองกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานและขอตรวจสอบเรื่องการขออนุญาตครอบครอง

กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนลงพื้นที่มาติดตามคดีนี้ที่ สภ.หัวหิน ซึ่งก็ต้องขอบคุณทางตำรวจที่ให้ความร่วมมือและแสดงความจริงใจด้วยการขอหมายค้นบ้านของผู้ต้องหา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางญาติผู้เสียชีวิตกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะผู้ต้องหามีการโพสต์ภาพกับอาวุธปืนหลายกระบอกและเป็นคนชอบเล่นปืน

และวันนี้ก็สามารถตรวจยึดอาวุธปืนทั้งปืนจริงและบีบีกัน ตำรวจก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบการขออนุญาตครอบครองและใบอนุญาตต่างๆ หรือ เคยใช้ก่อเหตุอะไรมาก่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องวงจรปิดตามที่ตำรวจ สภ.หัวหินและรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์แถลงข่าวไปเมื่อช่วงเที่ยงนี้ตนเชื่อว่า สังคมฟังแล้วก็ยังรู้สึกแปลกใจ

แต่ตำรวจก็รับปากว่า จะไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดมุมอื่นๆด้วยว่า มีใครช่วยเหลือหรือพาหลบหนี และคนที่ยิงเปิดทางอยู่หน้าผับคือใคร แต่ที่มั่นใจได้เลย คือ ที่ตัวจ่าพั้นช์ ไม่มีอาวุธปืน จึงไม่ใช่เหตุป้องกันตัวตามที่เซ็น กล่าวอ้าง

ขณะที่ทีมข่าว เที่ยงวัน ทันเหตุการณ์ ได้พูดคุยกับบุคคลหนึ่ง เป็นบุคคลใกล้ชิดกับ นายเซ็น ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า

นายเซ็น ก่อนหน้านี้เป็นนักธุรกิจหนุ่มอายุน้อย ที่มีฐานะร่ำรวย ทำธุรกิจรับจำนองที่ดิน อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจรถมือสอง รู้จักผู้ใหญ่ และมีอิทธิพลในพื้นที่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และบริจาคเงินสนับสนุนโรงพักหัวหิน จำนวนไม่น้อย

จึงได้เข้ามาอยู่ในชุด คณะกรรมการที่ปรึกษา กต.ตร.สภ.หัวหิน ประมาณ 1 ปี โดยที่ผ่านมาไม่เคยเห็นว่าไปทำงานอะไรในฐานะ กต.ตร.เลย ทราบว่าครั้งหนึ่งเคยมีคดีทะเลาะวิวาทกับคนอื่นและใช้ปืนยิงจนเขาจนได้รับบาดเจ็บ

นายเซ็นก็ใช้เงินเคลียร์ทางฝั่งผู้เสียหาย ทำให้เรื่องเงียบ ซึ่งคดีนี้เชื่อว่าหากไม่เป็นข่าวดัง ก็มีสิทธิ์ที่จะหลุดคดีได้เช่นกัน เพราะ นายเซ็นสนิทสนมกับเจ้าของผับ ดังกล่าว ที่มีตำรวจเป็นหุ้นส่วน

โดยผับที่เกิดเหตุเปิดมาประมาณ 2 - 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ใช้ชื่ออื่นและผ่านการเปลี่ยนเจ้าของ ที่เป็นบุคคลธรรมดามาหลายครั้ง โดยให้บุคคลทั่วไปเป็นผู้ดูแลกิจการ แต่กลุ่มผู้ถือหุ้นยังเป็นกลุ่มคนมีสีกลุ่มเดิม จำนวน 4 คน เป็นตำรวจในพื้นที่จำนวน 2 คน และยังปฏิบัติหน้าที่ระดับ รองผู้กำกับ ส่วนหุ้นส่วนพลเรือน อีก 2 คน หนึ่งในนั้นก็คือนายเซ็นเป็นผู้ถือหุ้นร้านดังกล่าวด้วย

ตนเองทราบว่าคดีนี้ นายเซ็นใช้ทนายความที่มีฝีมือดีมากถึง 4 คน ส่วนตัวมองว่าหากผู้ก่อเหตุไม่ถูกดำเนินคดีในเรื่องการยิงคนตาย ก็อาจถูกดำเนินคดีในเรื่องธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือการกระทำอื่นๆได้ และไม่อยากให้คดีนี้เงียบไป เพราะพฤติกรรมนายเซ็นยิงคนเสียชีวิต ถือว่าอุกอาจเกินไป



https://youtu.be/k2ymWOpSGjw

คุณอาจสนใจ

Related News