คลิปเต็มรายการ

‘กัน-ทนายไพศาล’ ถามดัง กต.ตร.ยิง ‘จ่าพั้นช์’ ดับ ผับเปิดตี 4 พื้นที่โซนนิ่งหรือตำรวจนิ่ง?

โดย JitrarutP

21 ส.ค. 2567

418 views

วันนี้ 21 ส.ค. 2567 รายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้จัดรายการในตอน เย้ยกฎหมาย อดีต กต.ตร. ยิงจ่าสิบเอกตายค่าผับ ครอบครัวหวั่นคดีไม่คืบ ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ “จ่าพั้นช์” จ่าทหารยศสิบเอก ไปเที่ยวกลางคืนกับถูกยิงเสียชีวิต ผู้ก่อเหตุเป็น กต.ตร. ญาติหวั่นคดีจะไม่คืบหน้า โดยมีผู้ร่วมรายการประกอบด้วย ชา ภรรยาผู้เสียชีวิต พง-สุข พ่อแม่ผู้เสียชีวิต อานุภาพ เพื่อนสนิทผู้เสียชีวิต แพร น้องสาวผู้เสียชีวิต แบงก์ พยานผู้เห็นเหตุการณ์ กัน จอมพลัง หรือ กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ และ ทนายไพศาล ไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายคนกลาง


โดย ครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า “จ่าพั้นช์” ได้โทรมาหาภรรยาช่วงเวลาตี 1-2 เพื่อที่จะขอไปเที่ยวกับเพื่อนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่หัวหิน หลังจากนั้นเพื่อนโทรมาบอกว่า “จ่าพั้นช์” เสียชีวิตไปแล้ว ที่มาร้องเรียนวันนี้เพราะกลัวคดีจะไม่คืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ก่อเหตุเป็น กต.ตร. ที่มีความใกล้ชิดกับตำรวจ แล้วมารู้พลเมืองดีที่ถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้ ว่ามีชายปริศนาถอดกล้องวงจรปิดออกจากหน้าสถานบันเทิง โดยมีตำรวจยืนอยู่บริเวณนั้น

ด้าน อานุภาค เพื่อนผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่าวันที่เกิดเหตุได้ไปเที่ยวด้วยกัน “จ่าพั้นช์” มาเที่ยวด้วยแต่หายไปจากโต๊ะ ก็ไปตามเห็นอยู่กับเพื่อนกำลังสนุกกันอยู่ แล้วมีเพื่อนอีกคนส่งเหล้าให้ “จ่าพั้นช์” จึงขยับไปรับแก้วก่อนจะไปชนกับผู้หญิงของผู้ก่อเหตุ ชนไป 2-3 ครั้ง จนไปชนเข้ากับ “เซ็น” ผู้ก่อเหตุ หลังจากนั้นเซ็นจะยกปืนมาจ่อที่หัวของ “จ่าพั้นช์” แล้วยิง มีคนโดนลูกหลงได้รับบาดเจ็บ พร้อมเผยอีกว่า ผู้ก่อเหตุได้พูดขึ้นมาว่า ถ้าการ์ดหน้าร้านไม่ปล่อยจะยิง เลยเป็นเหตุให้การ์ดจำเป็นต้องปล่อยตัวไป หลังจากนั้นเหตุสงบ จึงไปหาตำรวจเพื่อขอกล้องวงจรปิด ตำรวจกลับบอกว่าที่ตรงนี้กล้องเสีย เซิร์ฟเวอร์หาย

ขณะที่ ถา และ ตาล 2 ผู้บาดเจ็บที่โดนลูกหลง โฟนอินเข้ามาในรายการและเล่าว่า วันนั้นอยู่ในเหตุการณ์ที่มีการยิงกัน แล้วโดนลูกหลงแต่ยังไม่รู้ตัว ได้ยินเสียงปืนพอหันไปเห็นคนตายล้มแล้วรู้สึกเจ็บจึงรู้ว่าโดนลูกหลง ไปแจ้งตำรวจแต่ไม่ได้รับแจ้งความ ได้แค่ลงบันทึกประจำวันและขอเบอร์ติดต่อเอาไว้เท่านั้น

และในช่วงออนไลน์ได้โฟนอินหา เซ็น ผู้ก่อเหตุยิง “จ่าพันช์” เจ้าตัวอ้างว่า วันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้มาหาเรื่องตนก่อน แล้วมาวุ่นวายกับที่โต๊ะ จนตนคิดว่าเริ่มอันตรายจึงตัดสินใจชักปืนแล้วยิง ผู้เสียชีวิตไป 3 นัด ส่วนที่พกปืนติดตัวเพราะว่าเคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจึงพกไว้ป้องกันตัว และอยากบอกขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

เมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า “สนิทกับ ตำรวจ สภ.หัวหิน ไหม”

เซ็น (ผู้ก่อเหตุ) ตอบกลับว่า “ผมเพิ่งเข้ามาเป็นที่ปรึกษาเองครับ”

“หนุ่ม กรรชัย” ถามอีกว่า “สถานบันเทิงแห่งนั้นเป็นของตำรวจใช่ไหม”

เจ้าตัวตอบทันที “ไม่รู้ครับ อันนี้ผมไม่รู้ ข้าม ข้าม ข้ามไปเลยพี่ อันนี้ผม ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ไอ้นี่ดีกว่า”

ด้าน กัน จอมพลัง ได้ออกความเห็นว่าเคสนี้น่าเป็นห่วงมากเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีแต่ความน่าสงสัยเต็มไปหมด ได้ติดต่อประสานการช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้วเคสนี้ไม่สามารถละเลยได้ เพราะว่าผู้ก่อเหตุที่ความเกี่ยวข้องกับตำรวจ จึงหวั่นว่าครอบครัวผู้เสียชีวิตจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนพร้อมที่จะช่วยเต็มที่ไม่อยากให้ครอบครัวกังวล เคสนี้ไม่ได้ยากอะไรมาก เพราะพฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุก็ชัดเจน

ทนายไพศาล  ได้ออกความเห็นว่า เคสนี้อาจจะเดือดร้อนกันหมดทั้งตำรวจและผู้กระทำความผิด พยานหลักฐานการถอดกล้องวงจรปิดออกเข้าข่ายการทำลายหลักฐานหรือไม่ พร้อมแนะนำให้ครอบครัวไปยกเลิกการประกันตัว เรื่องของผู้ก่อเหตุนั้น มีความผิดหลายขอ ทั้ง พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ พกปืนไม่มีทะเบียน การกระทำของผู้ก่อเหตุชัดเจน การที่จะมาอ้างว่าทำไปเพราะป้องกันตัวนั้นไม่สามารถอ้างได้ ในกรณีนี้ตำรวจต้องตอบให้ได้ว่ามีการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปีนขึ้นไปเก็บรวบรวมหลักฐานกล้องวงจรปิดหรือไม่ แล้วคนที่ปีนคนนั้นเป็นใคร ตำรวจที่ยืนอยู่ เห็นคนถอดกล้อง ทำไมไม่ห้าม เป็นการทำลายหลักฐานหรือไม่

ส่วนกรณีที่ผับเปิดถึงตี 4 ทนายไพศาล กล่าวว่า “สถานบันเทิงอยู่ห่าง 500 เมตร จากโรงพัก เป็นพื้นที่โซนนิ่ง แต่ตำรวจนิ่งหรืออย่างไร เปิดยันตี 4”

คุณอาจสนใจ

Related News