ล่ามือยิงเซียนมวย 'เสี่ยดำ' ดับคารถต่อหน้าลูก เมียยันผัวไม่มีอริ พ่อค้าช่องจอมเชื่อฆ่าล้างแค้น 10 ปี

เร่งล่าคนร้ายบุกยิงเซียนมวยเสียชีวิต คางานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสที่บุรีรัมย์ คนสนิทเชื่อเป็นเรื่องของการขัดผลประโยชน์ แต่มีข้อมูลระบุ อาจถูกแก้แค้น ที่เคยไปยิงนักข่าวท้องถิ่นของสุรินทร์เสียชีวิต

เหตุเกิดช่วงตี 4 ของวันที่ 22 เมษายน ภายในวัดหนองเต็ง ที่อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่กำลังจัดงานฉลองพัดยศให้กับเจ้าอาวาส ซึ่งมีการจัดมหรสพ และการจัดแข่งขันมวยไทย โดยนายเปลี่ยนวิถี หรือ เสี่ยดำ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเซียนมวย และเจ้าของค่ายมวยอยู่ที่สุรินทร์ ถูกยิงเสียชีวิตที่เบาะนั่งคนขับ ในรถตู้ฮุนได สีเทา ทะเบียนกัมพูชา ซึ่งจอดห่างจากเวทีมวยประมาณ 100 เมตร ในสภาพเอนนอน มีบาดแผลถูกกระสุนเข้าบริเวณท้ายทอย และศีรษะ 2 นัด ส่วนที่รถตู้ มีรอยกระสุน 1 รอย ตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งผิดปกติ

ทีมข่าวไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ไปได้กล้องวงจรปิดในบ้านหลังหนึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ

ขณะที่กล้องวงจรปิดภายในบริเวณวัด เห็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุ ได้ยินเสียงโฆษกในงานประกาศเสียงตามสาย ถามหาตำรวจยังอยู่ในงานหรือไม่ หลังรู้แล้วว่ามีคนถูกยิง โดยกล้องวงจรปิดอีกมุม เห็นตำรวจวิ่งกลับเข้ามาในจุดเกิดเหตุ

น.ส.ดาริณี อายุ 43 ปี แม่ค้าที่มาขายของในงาน เล่าว่า ได้จอดรถอยู่ติดกับรถผู้ตาย ประมาณตี 2 ตนกลับเข้ามานอนพักอยู่ในรถ มาสะดุ้งตื่นตอนตี 4 เพราะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด พอลุกขึ้นมาดูเห็นคนกำลังแตกตื่นกัน จากการสอบถามเพื่อน ๆ บอกว่า คนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สวมหมวก เดินเข้ามาที่รถของผู้ตาย แล้วเปิดประตูรถกระหน่ำยิง 3 นัดซ้อน

นายนรา อายุ 47 ปี โปรโมเตอร์มวย เล่าว่า ผู้เสียชีวิตนำมวยมาชก 2 คู่ ชกตั้งแต่ 4 ทุ่ม ซึ่งการแข่งขันก็เป็นไปตามปกติ ไม่มีเรื่องกันระหว่างแข่ง ยืนยันว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับวงการมวยอย่างแน่นอน แต่ก็ยัง งง ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ส่วนตัวรู้จักกับผู้ตายเมื่อ 6-7 ปีก่อน ลูกชายและลูกสาวของเขาก็เป็นนักมวยทั้งคู่

ผู้สื่อข่าวไปพูดคุยกับ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) ลูกชายเสี่ยดำ บอกว่า ตนเองมากับพ่อ พานักมวย 2 คน มาชก ช่วงก่อนเกิดเหตุ พ่อพาเดินไปพักที่รถตู้ พ่อเดินนำหน้าไปก่อนแล้วเปิดประตูขึ้นไปเอนเบาะนอน ส่วนตนเองกำลังจะเลื่อนเปิดประตู ซึ่งฝั่งเดียวกับพ่อ แต่จู่ ๆ มีคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อแขนยาวสีออกเขียว ๆ สวมหมวก เดินมาแง้มประตูรถพ่อ แล้วจ่อยิงพ่อต่อหน้า ตอนนั้นตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้ว่าพ่อมีเรื่องกับใครในงาน

นางนิตยา อายุ 46 ปี ชาวอำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ภรรยาเสี่ยดำ บอกว่า สามีไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ทำมาหากินธรรมดา ขายน้ำดื่มในตลาดช่องจอม ทำห้องน้ำให้บริการในตลาดช่องจอม และเป็นผู้จัดการดูแลตลาดให้กับเจ้านาย ไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โต ที่สำคัญสามีเป็นที่รักของทุกคน ส่วนรถตู้ของประเทศกัมพูชาที่สามีขับมา มีเพื่อนเอามาจำนำไว้

เช้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับ นายชาตรี อายุ 51 ปี คนสนิทเสี่ยดำ เล่าว่า เท่าที่รู้จักกับเสี่ยดำนานกว่า 20 ปี เสี่ยดำเป็นคนดี ใจกว้าง โดยเฉพาะวงการมวย หลายครั้งถ้าเป็นงานการกุศล จะเอานักมวยไปต่อยฟรีโดยไม่คิดค่าตัว เมื่อเดือนก่อนก็เพิ่งจัดมวยฟรีในบ้านของตัวเอง งบ 300,000 บาท ให้คนมาด

ส่วนธุรกิจที่เสี่ยดำทำ มีโรงงานน้ำดื่ม ส่งขายในตลาดช่องจอม มีธุรกิจห้องน้ำให้บริการในตลาดช่องจอมเช่นเดียวกัน เชื่อว่า เหตุที่เกิดอาจเป็นเรื่องขัดผลประโยชน์ แต่ก็ไม่รู้ว่าไปขัดผลประโยชน์ใคร แต่ไม่ใช่เรื่องวงการมวยแน่นอน

ส่วนเรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นการล้างแค้น เพราะเสี่ยดำเคยมีคดีฆ่าคนตาย ตนก็ไม่ปักใจเชื่อ เพราะเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นมานานกว่า 20 ปีแล้ว ส่วนเรื่องของเมียอีกคนที่เป็นชาวกัมพูชา และมีลูกด้วยกัน 1 คน ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้น้อย

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปที่ตลาดช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จุดที่ตั้งค่ายมวย และสถานที่ทำธุรกิจของเสี่ยดำ โดยไปที่บ้านของเสี่ยดำ เพื่อพูดคุยกับเมียอีกคน ซึ่งเป็นชาวกัมพูชา พบว่า บ้านเสี่ยดำอยู่ท้ายตลาดช่องจอม มีรถยนต์จอดอยู่สองคัน ประตูบ้านถูกล็อกกุญแจ จึงไม่พบเมียอีกคนของเสี่ยดำ โดยเพื่อนชาวกัมพูชาบอกว่า เมียเสี่ยดำไปรับศพเสี่ยดำที่บุรีรัม

ด้านพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดช่องจอม ต่างคาดการณ์ปมสังหาร ว่า น่าจะเกิดจากปัญหา ในการบริหารงานเงิน กับกลุ่มคนต่าง ๆ ที่นายดำไปหยิบยืมเงินเขามาลงทุนที่ตลาดช่องจอม แล้วไม่คืนเงินตามกำหนด แถมยังไปข่มขู่เรียกรับเงินจากพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดช่องจอม โดยไม่ได้ส่งเงินให้กับเจ้าของตลาด แต่กลับนำเงินไปใช้ส่วนตัว

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า ปมสังหารอาจเป็นเรื่องการล้างแค้น ที่เสี่ยดำเคยลงมือสังหารผู้มีชื่อเสียง และเป็นผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ที่จังหวัดสุรินทร์ เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งคดีความได้สิ้นสุดลงแล้ว แต่ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต อาจไม่พอใจจะมาก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของเสี่ยดำอีกหลัง อยู่ห่างจากตลาดช่องจอมประมาณ 5 กิโลเมตร พบว่า ญาติพี่น้องเตรียมสถานที่จัดงานศพ หลังตรวจชันสูตรเสร็จสิ้น โดยศพจะออกจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ช่วงบ่ายวันนี้

ด้านพลตำรวจตรี รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า คืนเกิดเหตุผู้ตายเอามวยเล็กมาชก 2 คู่ และไม่ได้ทะเลาะกับใคร ตำรวจจะไม่ทิ้งทุกประเด็น รวมถึงวงการมวยด้วย ตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ทำงานร่วมกันระหว่างชุดสืบสวนภาค 3, ชุดสืบสวนภูธรบุรีรัมย์ และชุดสืบสวน สภ.กระสัง พร้อมประสานหาข้อมูลในเชิงลึกร่วมกับตำรวจฝั่งจังหวัดสุรินทร์ด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/aaem-Xvitcg