อาชญากรรม

งามไส้! จับตำรวจไซเบอร์ ผลิตปืนขายในโซเชียล นานถึง 3 ปี ยึดของกลางเกือบ 700 ชิ้น

โดย paweena_c

4 เม.ย. 2567

222 views

ตำรวจไซเบอร์บุกจับตำรวจไซเบอร์ด้วยกัน หลังผู้ต้องหาซึ่งเป็นร้อยตำรวจโทและมีช่องยูทูบของตัวเอง ประกอบปืนยาวแรงดันสูงขายในโลกโซเชียล มานานถึง 3 ปี

ตำรวจไซเบอร์เข้าตรวจค้นที่บ้านพักหลังหนึ่ง ในจังหวัดนนทุบรี หลังสืบทราบว่าบ้านหลังนี้ ลักลอบประกอบปืนยาวอัดลมแรงดันสูงส่งขายทางโลกออนไลน์ โดยผู้ที่กระทำผิดเป็นตำรวจ

จากการตรวจค้น พบตัวผู้ต้องหาอยู่ภายในบ้าน ทราบชื่อคือ ร้อยตำรวจโทปัณณทัต ผิวทองงาม รองสารวัตรฝ่ายกิจการต่างประเทศ ตำรวจไซเบอร์ ซึ่งเป็นหน่วยเดียวกันกับตำรวจชุดจับกุม ซึ่งทันทีที่ตำรวจเข้าตรวจค้น ผู้ต้องหาถึงกับตกใจ หน้าถอดสี เพราะไม่คิดว่าจะถูกตำรวจหน่วยเดียวกันเข้ามาจับ

ทั้งนี้บ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น โดยพบของกลางคือปืนยาวอัดลมแรงดันสูง 3 กระบอก นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนอาวุธปืนอีกจำนวนมาก ทั้งพานท้ายปืน ลำกล้องสไนเปอร์ ชุดยิง หัวกระสุนกว่า 200 นัด รวมของกลางเกือบ 700 ชิ้น

พลตำรวจตรีวิวัฒน์ คำชาญ รองผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเป็นยูทูบเบอร์ดัง เปิดยูทูบช่อง อันเดอร์คอฟเวอร์ มีผู้ติดตามกว่า 50,000 คน โดยจะให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการประกอบปืน และขายอุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืน ส่วนวิธีการขายอาวุธปืนให้ลูกค้า จะใช้วิธีติดต่อผ่านไลน์ @tdz8888 และจะส่งปืนผ่านทางการขนส่งเอกชน แม้ว่าปืนที่พบจะไม่ใช่ของจริง แต่หากนำไปใช้งานก็อาจทำให้เกิดอันตรายเสียชีวิต ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน

ขณะที่ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีความชอบเรื่องปืนเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว จึงคิดที่จะประกอบปืนขาย โดยอุปกรณ์ต่างๆ จะสั่งมาจากทางแอปพลิเคชัน

จากนั้นก็จะนำชิ้นส่วนปืนมาประกอบแล้วขายต่อให้ลูกค้า โดยต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณกระบอกละ 12,000 บาท ขายให้ลูกค้ากระบอกละ 15,000 บาท แต่ละเดือนขายปืนให้กับลูกค้าได้ประมาณ 30 กระบอก ทำมาแล้วประมาณ 3 ปี

เบื้องต้นตำรวจดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายกระสุนปืน และกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต สั่งหรือนำเข้าอาวุธปืนและอุปกรณ์อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

นอกจากคดีอาญาแล้ว ชุดจับกุมยังได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งให้กับพลตำรวจตรีนาวิน เส็งสมวงษ์ ผู้บังคับการกองอำนวยการ ตำรวจไซเบอร์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผู้ต้องหา ให้สอบสวนเอาผิดทางวินัยด้วย

ปฏิบัติการครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรี ได้ไปมอบนโยบายให้กับผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ และเน้นย้ำว่าให้เวลา 30 วัน ต้องมีผลงานจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือพวกอาชญากรทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นรายใหญ่ และหลังจากนั้นเพียง 3 วัน ก็เกิดปฏิบัติการครั้งนี้ ซึ่งเป็นการจับกุมตำรวจในสังกัดเดียวกันที่กระทำผิดเสียเอง



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/W7RF_TO0dpI

คุณอาจสนใจ

Related News