ชาวสวิสไม่แผ่ว! แจ้งข้อหาฝรั่งต่อยป้า-จับหัวโขกพื้นสาหัส ฉุนโดนเตือนเข็นรถเบียดในห้าง

ตร.แจ้งข้อหาชายชาวสวิสต่อยป้าวัย 53 ปี แถมจับหัวโขกพื้นสาหัส หลังไปซื้อของที่ห้าง เข็นรถเบียดกัน เจ้าตัวปฏิเสธ ไม่ยอมเซ็นรับข้อกล่าวหา

ช่วงเย็นวานนี้ (5 มี.ค. 2567) ที่ห้างแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง จังหวัดตรัง น.ส.นัฎชนันท์ หรือ แม่รี อายุ 53 ปี ถูกทำร้าย มีเลือดท่วมศีรษะ กู้ภัยรีบช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง เบื้องต้นพบว่าบาดเจ็บที่ใบหน้า มีทั้งจมูกหัก คิ้วขวาแตก และมีรอยฟกช้ำ นอกจากนี้ยังพบว่าแม่รีอยู่ในระหว่างการรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูก ตอนนี้อยู่ระหว่างการกายภาพบำบัด

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ Mr.Straumann Dieter Mathhias อายุ 62 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ ตำรวจสายตรวจได้คุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองตรัง แต่นายสตรูมัน ไม่ยอมให้ปากคำใดๆ ไม่ให้ความร่วมมือ นั่งเงียบปิดวาจาไป 9 ชั่วโมง กระทั่งตี 1 พนักงานสอบสวนได้อ่านบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส โดยให้ล่ามแจ้งให้นายสตรูมันทราบ เจ้าตัวรับฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปฏิเสธและไม่ยอมเซ็นรับข้อกล่าวหา พร้อมเตรียมนำตัวส่งฝากขังวันนี้ (6 มี.ค. 2567)

นายกฤตพงศ์ อายุ 25 ปี ลูกชายของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า แม่ไปซื้อของชั้น 2 โซนขายน้ำ โดยเข็นรถเข็นไปตามปกติ แต่เดินไม่ค่อยแข็งแรง แล้วมีฝรั่งเดินมาเบียดจนแม่เกือบจะล้ม จึงพูดเป็นภาษาอังกฤษไปว่า ช่วยให้เกียรติกันหน่อย แต่ชาวต่างชาติไม่พอใจ โวยวายเสียงดัง แล้วถูกฝรั่งต่อยไป 4 ครั้ง ก่อนจะเดินหนี แม่จึงเอาขวดน้ำอัดลมปาใส่แต่ไม่โดน ทำให้ฝรั่งกลับมาผลักแม่จนล้ม และเอาหัวเข่ายันคอไว้ ก่อนจะต่อยไม่ยั้ง น่าจะเกิน 20 ครั้ง แล้วยังจับหัวโขกพื้นจนบาดเจ็บ เลือดอาบหน้า

หลังหมอตรวจอาการ พบว่า ดั้งหัก เบ้าตาข้างขวาแตก หัวแตก แต่ไม่มีเลือดคั่งในสมอง ตอนนี้เป็นห่วงเรื่องคดี กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต่างชาติไม่ยอมให้การใดๆ กับตำรวจ อยากให้ตำรวจช่วยทำคดีให้เป็นกรณีตัวอย่าง ไม่ให้ต่างชาติมาทำแบบนี้กับคนไทยได้อีก ที่สำคัญแม่ไม่สบายอยู่ แต่ช่วงนี้แข็งแรงขึ้นแล้ว กลับมาโดนแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่าแม่จะทรุดลงขนาดไหน ตอนนี้แม่พูดคุยได้แต่ไม่มาก เพราะเริ่มจะเบลอ เวลานั่งนานจะมีเลือดไหลออกทางจมูก

จากการตรวจสอบข้อมูลของนายสตรูมัน พบว่า นายสตรูมัน ถือวีซ่าพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ เพิ่งต่อวีซ่าไปเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566 และจะครบกำหนดต่ออายุอีกครั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567

ผู้สื่อข่าวตามตำรวจไปที่บ้านเช่าของนายสตรูมัน ซึ่งพักอยู่กับภรรยาชาวไทย อยู่ที่ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมืองตรัง พบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ประตูหน้าบ้านล็อกด้วยแม่กุญแจแบบใส่รหัส ภายในบ้านมีการเปิดไฟไว้ 1 ดวง ตำรวจส่งเสียงเรียกคนในบ้าน แต่ไม่มีคนอยู่

ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า พฤติกรรมของนายสตรูมัน เป็นคนสันโดษ ชอบถอดเสื้อเดินตอนเช้าและกลางดึก คบหากับผู้หญิงชาวไทย เช่าที่บ้านหลังนี้นานหลายปีแล้ว สามารถพูดไทยได้ และพูดใต้ได้บางคำ ระยะหลังมีปัญหาระหองระแหงกับภรรยา จนภรรยาหนีไปอยู่จังหวัดกระบี่

ส่วนอาการของแม่รี ล่าสุดออกจากห้องไอซียูแล้ว ไปพักฟื้นต่อที่ตึกศัลยกรรมผู้ป่วยหนัก แต่ยังไม่สามารถตอบคำถามใดๆ ได้ เพราะยังมีอาการบอบช้ำทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งก่อนหน้านี้แม่รีเพิ่งไปถอนฟันมา แต่หมอถอนผิดซี่ ทำให้เส้นประสาทอักเสบ ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นอยู่นานนับปี จนต้องใช้ไม้ค้ำยัน และเพิ่งจะทิ้งไม้ค้ำยันไม่ถึง 1 เดือน ก็มาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นซ้ำอีก

ส่วนกรณีของนายเดวิด ชาวสวิส ที่มีคดีเตะหมอธารดาวที่ไปนั่งดูพระจันทร์หน้าวิลล่าริมหาดยามู ที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวาน (5 มี.ค. 2567) ทางโครงการได้นำเครื่องมารื้อบันไดปูนหน้าวิลล่าแล้วนั้น วันนี้ (6 มี.ค. 2567) ผู้สื่อข่าวไปดูบรรยากาศที่หน้าวิลล่า 23 อีกครั้ง พบว่า ทางโครงการเก็บวัสดุ เศษปูนออกจากพื้นที่ พร้อมปรับภูมิทัศน์จนสะอาดเรียบร้อยแล้ว

ส่วนความคืบหน้าในการเพิกถอนวีซ่านายเดวิด ล่าสุด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ส่งหนังสือเร่งรัดไปที่ ตม.ภูเก็ตให้เร่งพิจารณาเรื่องนี้แล้ว ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเพิกถอนหรือยกเลิกวีซ่า ซึ่งนายเดวิดถือวีซ่าผู้ประกอบธุรกิจในประเทศไทย 1 ปี และจะครบกำหนดวีซ่าในวันที่ 13 มีนาคมนี้ โดยกรณีที่มีคดีความอยู่ จะต้องรอคดีความเสร็จสิ้นก่อน จึงจะนำเรื่องที่นายเดวิดมีพฤติกรรมข่มขู่ สร้างความเดือดร้อน หรือสร้างความน่าหวาดกลัว ให้กับประชาชนในพื้นที่ เข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาเพิกถอนวีซ่าชาวต่างชาติที่มีการกระทำความผิดกฎหมายต่อไป แต่ถ้าคดีความเสร็จสิ้นหลังวันที่ 13 มีนาคม ตม.จะต้องต่อวีซ่า กรณีผู้ถือวีซ่าเป็นผู้ต้องหามีคดีความ จนกว่าคดีความจะสิ้นสุด จากนั้นจึงจะพิจารณาไม่ต่อวีซ่าต่อไป ซึ่งคดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ กระบวนการทางกฎหมาย จะต้องเดินหน้าต่อจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

https://youtu.be/u4osx4KoSkU