‘แม่น้องหยอด’ สุดทน หวิดปารองเท้าตบหน้า ‘เป๊ปซี่’ ตะโกนด่า เจ้าตัวไม่สลดหันมามองหน้า

“แม่น้องหยอด” แค้นจัด ถอดรองเท้าเกือบตบหน้า “เป๊ปซี่” หนึ่งในผู้ต้องหายิง “น้องหยอด” เสียชีวิต ขณะคุมตัวไปฝากขัง พร้อมตะโกนด่าสาปแช่ง เจ้าตัวไม่มีทีท่าสลด หันมามองหน้าแม่ผู้ตาย

ช่วงเช้าวันนี้แม่นาย ธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือ น้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต เดินทางมาที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาด้วย โดยได้นั่งกอดรูปของลูกชายร่ำไห้ พร้อมเปิดเผยว่า จะขอเดินหน้าถึงที่สุด และขอคัดค้านการประกันตัว ให้ลูกต้องได้รับความยุติธรรม ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ก็ติดตามข่าวจากทางตำรวจเป็นระยะ พร้อมให้กำลังใจ ขอให้จับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาได้โดยเร็ว พร้อมบอกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่กฎหมายคุ้มครองนักศึกษาและเยาวชน เพราะตัวเองเป็นครอบครัวผู้สูญเสีย แต่กลับต้องวิ่งหาความยุติธรรม แต่พวกที่ก่อเหตุกลับได้รับความคุ้มครอง

เช่นเดียวกับแม่ของเหยื่อที่เสียชีวิตในคดียิงกลางงานแต่งงานของอดีตนักศึกษาอุเทนถวายฯ ย่านสุทธิสาร เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2565 เข้าพบผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา 13 คน โดยเปิดใจกับนักข่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นผู้ก่อเหตุก็ถูกจับกุมตัวได้ แต่ได้รับการประกันตัวออกไป ก่อนจะมาถูกจับในครั้งนี้ นั่นก็คือ "เป๊ปซี่" หากครั้งนั้นผู้ก่อเหตุไม่ได้รับการประกันตัว ก็คงไม่มีเหตุการณ์ยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดเกิดขึ้น จึงขอวอนให้ตำรวจพิจารณาด้วย

เพื่อนผู้ตายบอกด้วยว่า ในคดีนี้ "เป๊ปซี่" ถูกระบุว่าเป็นคนที่ขี่รถมอเตอร์ไซต์มาดูที่เกิดเหตุ 3-4 วันก่อนเกิดเหตุ ส่วนตัวเชื่อว่าอาจเป็นคนที่ลงมือยิงเองด้วย เพราะเป็นผู้ต้องหาคนที่ 1 ของคดี และหลังจากเห็นพฤติกรรมของ "เป๊ปซี่" หลังถูกจับกุม รู้สึกว่าเขาไม่ได้รู้สึกผิด ยังทำตัวเหมือนเดิม วันนี้จึงกลัวว่าหากได้รับการประกันตัวอีก จะมาก่อเหตุซ้ำอีกไหม ยอมรับว่าภาพเหตุการณ์วันนั้นยังติดอยู่ในใจ เพื่อนหลายคนต้องมาโดนยิง ทั้งที่ไม่ได้มีใครเกี่ยวข้อง

พลตำรวจตรี วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้กล่าวให้ความมั่นใจกับแม่ผู้เสียชีวิตว่า ทางตำรวจได้ดำเนินการคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนทั้ง 13 ราย พร้อมแนะนำให้แม่ผู้เสียชีวิตไปเขียนคำร้องคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลเพิ่มเติมอีกช่องทางหนึ่งด้วย ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ แต่มีข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์ จะนำข้อมูลไปขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายอื่นๆ ต่อไป เพราะเป็นขบวนการอาชญากรรมขนาดใหญ่ที่ต้องกวาดล้างให้เด็ดขาด

กระทั่ง 10 โมงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 13 คน ออกมาจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง ซึ่งผู้ต้องหาคนแรกที่เดินนำออกมา คือ เป๊ปซี่

ผู้สื่อข่าวสังเกตว่า เป๊ปซี่มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน จังหวะนั้น แม่ของน้องหยอด ได้ตะโกนด่า และสาปแช่ง พยายามจะถอดรองเท้าตีใส่กลุ่มผู้ต้องหา เป๊ปซี่ก็หันไปมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้โต้ตอบอะไร โดยมีตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วคอยควบคุมสถานการณ์ ซึ่งแม่น้องหยอดยังตะโกนใส่ต่อเนื่องว่า "ทำเลวไม่ต้องปิดหน้า ไม่ต้องอาย"

จากนั้นโดยผู้ต้องหาทั้งหมดต่างนิ่งเงียบ ไม่มีใครพูดหรือตอบคำถามใดๆ ก่อนที่ตำรวจจะขับรถออกไป โดยมีตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว 20 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบด้านหลังรถเพื่อคุ้มกัน ป้องกันเหตุความไม่สงบ

ขณะที่การไล่ล่านายอนาวิน แก้วเก็บ หรือ วิน อายุ 20 ปี มือปืน พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ บิ๊กจ๋อ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาลคุมตัวนายวิน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอดจนเสียชีวิต โดยจับกุมตัวได้ที่กบดานแห่งหนึ่งใน อ.ดอยปุย จ.เชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลและเตรียมคุมตัวกลับมายัง กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวน ซึ่งในวันพรุ่งนี้เวลา 13.30 น. พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จะเป็นผู้เดินทางมาทำการสอบสวนและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยตัวเอง

ขณะนี้เหลือผู้ต้องหาอยู่ 3 คน คือ นายอับดุลเลาะ ดือราแม หรือ เลาะ อายุ 28 ปี คนขี่มอเตอร์ไซต์ ซึ่งเป็นทีมสังหาร และ 2 คนที่เพิ่งถูกออกหมายจับเมื่อวานนี้ (18 ธ.ค. 2566) เป็นคนจัดหาเงินและเซฟเฮ้าส์ และคนจัดหาปืน มีรายงานว่าตำรวจมีข้อมูลเส้นทางการหลบหนีของทั้ง 3 คนแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/l9icWawSfkU