แม่น้องหยอด บุกดูหน้ามือยิงลูกชาย อยากถามทำไปได้อะไร ลั่นเอาผิดให้ถึงที่สุด

นางสาวพรพิมล มารดาน้องหยอด เดินทางมาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล หลังทราบข่าวว่าตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล สามารถจับกุมตัว นายอนาวิน หรือ วิน มือปืนที่ก่อเหตุ ยิงลูกชายเสียชีวิต เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้จากพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีการคุมตัวมาทำการสอบสวนปากคำที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน

การเดินทางมาในวันนี้ ตนเองต้องการเดินทางมาพบกับตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ เพื่อต้องการขอบคุณคณะทำงาน รวมถึง ต้องการจะมาดูหน้ามือปืนรายนี้ด้วย ซึ่งตนเองก็ทำใจเอาไว้แล้วว่าคงได้แค่ดู เพราะทุกอย่างต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม

มารดาน้องหยอด ยังระบุอีกว่า หลังจากที่วานนี้ตนเองเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัวของกลุ่มผู้ต้องหาที่มีการฝากขังไปก่อนหน้านี้ ได้พบเห็นกลุ่มบุคคลที่พยายามเข้ามาก่อกวนจิตใจ ทำให้ตนเองมีความจิตตก ซึ่งทั้งหมดน่าจะถูกบันทึกด้วยกล้องวงจรปิดของศาลไว้เป็นที่เรียบร้อย รวมถึงในวันนี้ที่ตนเองจะเดินทางมาที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ก็มีคนส่งรูปมาก่อกวนคล้ายว่ามีการมาดักรอไว้ แต่ก็มีการยกเลิกการส่งรูปออกไป ตนเองจึงได้ประสานมาขอให้ทางสื่อมวลชนช่วยเดินข้ามไปรับยังจุดจอดรถอีกแห่งหนึ่ง

จากทั้งหมดที่ตนเองต้องเจออยู่ ณ ตอนนี้ ตั้งแต่ลูกชายถูกยิงเสียชีวิต ยอมรับว่าปัจจุบันเกิดความรู้สึกหวาดกลัวไปมากแล้ว ตนเองทำได้เพียงแค่เดินหน้าในการเอาผิดกลุ่มบุคคลนี้ให้ถึงที่สุด

ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ ตนเองมั่นใจว่าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนที่ทำคดีนี้ จะต้องได้ตัวผู้ก่อเหตุ หรือร่วมก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี ตนเองก็อยากเห็นหน้าของคนที่สั่งการให้มือยิงสังหารลูกชายตนเองว่าจะมีความโหดเหี้ยมแค่ไหน ตนเองอยากมองไปที่สายตาว่าจะมีแววตาอย่างไร

และในวันนี้หากมีโอกาสได้พูดคุยกับมือปืน ก็อยากสอบถามว่าสิ่งที่ทำไปทั้งหมดได้อะไรกับสิ่งที่ทำไป มีใครมายกย่องนับถือหรือไม่ ได้โล่หรือไม่ เพราะสุดท้ายเมื่อก่อเหตุแล้วก็ต้องตกเป็นผู้ต้องหา ต้องหลบหนี และสุดท้ายก็ถูกตามจับกุมมาดำเนินคดีอยู่ดี แม้ลึกๆ ตนเองจะรู้ว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้พูดไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นต้องให้กระบวนการที่ทำเป็นคนดำเนินการ

ในวันนี้หากได้พบกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตนเองก็อยากขอฝากให้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการกวดขันเอาจริงเอาจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต เพราะทุกครั้งที่เกิดเหตุ ผู้ปกครองที่เป็นผู้สูญเสียก็จะออกมาพูด และลักษณะขอให้ลูกหลานตนเองเป็นคนสุดท้าย แต่สุดท้ายก็ยังคงเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่ในส่วนของคดี ตนเองเชื่อว่าตำรวจที่ทำหน้าที่ติดตามจับกุมตัวผู้ทำความผิดทำหน้าที่อย่างรัดกุมรอบคอบและตรงไปตรงมา และเห็นถึงความพยายามที่ตำรวจทำงานมา ตลอดกว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตนเองอยากขอให้ครั้งนี้เป็นที่สิ้นสุดของเหตุการณ์แบบนี้ ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

ส่วนเรื่องการประกันตัวของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ยอมรับว่าตนเองก็มีความกังวลว่าอาจจะมีการขอประกันตัวในครั้งต่อไป ซึ่งตนเองเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ในการตัดสินเรื่องของการประกันตัว น่าจะเข้าใจและมองเห็น เพราะตนเองเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา หากมีการประกันตัวมายอมรับว่าก็เกิดความหวาดกลัว

ก่อนที่ตนเองเดินทางมาในวันนี้ ยอมรับว่าได้มีการจุดธูปบอกกล่าวลูกชายว่าวันนี้จะเดินทางมาดูคนที่ก่อเหตุยิงลูกชาย พร้อมขอให้ลูกชายช่วยเป็นแรงบันดาลให้ตำรวจทำงานในคดีนี้ และติดตามจับกลุ่มผู้กระทำความผิดที่หลบหนีอยู่ให้ได้ เพื่อให้ตัวลูกชายพ้นห่วงและไปสู่ภพภูมิที่ดี

ต่อจากนี้ตนเองก็คงใช้ชีวิตตามปกติ แม้ว่าจะถูกก่อกวนจากฝั่งตรงข้ามก็ตาม เพราะว่าฝั่งตนเองไม่ใช่ผู้ที่เริ่มกับการก่อเหตุในครั้งนี้ แล้วตนเองอยากขอฝากถึงคู่กรณีว่าให้ต่างคนต่างอยู่ เพราะตนเองไม่ได้เป็นผู้เริ่มก่อน เป็นเพียงแม่ของผู้สูญเสียที่เมื่อถูกกระทำแล้วก็ต้องเดินหน้าตามขั้นตอนถึงที่สุดเท่านั้น