อาชญากรรม

แม่กลับคำ! สารภาพตีลูก 3 ขวบ ซี่โครงหัก-ปอดฉีก-ม้ามแตก อ้างหงุดหงิดทะเลาะผัวใหม่

โดย paweena_c

8 พ.ย. 2566

41 views

แม่เด็ก 3 ขวบ รับสารภาพแล้ว ตีลูก 2 ที ซี่โครงหัก-ปอดฉีก-ม้ามแตก สาเหตุหงุดหงิดทะเลาะกับสามีใหม่

จากกรณีที่ "กัน จอมพลัง" ได้พา นางวันทนา ย่า และนางสาวทัดดาว และป้า ของเด็กชาย อายุ 3 ขวบ 8 เดือน เข้าแจ้งความกับ พันตำรวจโท สุชัย แสงส่อง รองผู้กำกับ สอบสวนสภ.คลองหลวง

หลังจากที่หลานชาย ซึ่งอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง เข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดหลานชายที่มีอาการบาดเจ็บ ซี่โครงหัก ปอดฉีก ม้ามแตก และเนื้อตัวเขียวช้ำ

ความคืบหน้าล่าสุด พันตำรวจโท ฉลาด หอมเงิน รอง ผู้กำกับ สืบสวน สภ.คลองหลวง ได้เชิญ นางสาวปิยะพร พงจันทร์ อายุ 24 ปี แม่ของเด็ก อายุ 3 ขวบ 8 เดือน ที่ได้รับบาดเจ็บ ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ มาสอบปากคำเพิ่มเติมนานกว่า 7 ชั่วโมง

โดยด้าน นางสาวปิยะพร ยอมรับสารภาพว่า ตนเองเป็นคนใช้มือตีที่เอวลูกไป 2 ครั้ง ซึ่งวันนั้นตนเองรู้สึกหงุดหงิด เพราะเป็นประจำเดือน และทะเลาะกับสามีใหม่ด้วย ซึ่งตนก็ไม่ได้ตั้งใจตี แค่เตือนลูกว่า นอนได้แล้ว เขาก็ไม่ยอมนอน ตนจึงตีไป 1 ที เขาก็ร้องและก็ตีไปอีก 1 ครั้ง จากนั้นตนก็เข้าไปกอดลูกและก็บอกว่า ขอโทษ แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้ตั้งใจ และตนก็ร้องให้ไปกับลูก และก็ลูบหัว ลูกก็หลับไป

ซึ่งยอมรับสาเหตุที่ทำร้ายลูก เพราะหงุดหงิดทะเลาะกับสามีใหม่เรื่องกินข้าว และเขาก็เดินออกไปข้างนอก บวกกับไม่สบายด้วยแต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ และตนก็ไม่เคยตีลูกเลย ซึ่งก็รักลูกเหมือนกัน

ตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส ก่อนปล่อยตัวไป และได้นัดมาฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีในวันนี้

ล่าสุด กัน จอมพลังพาย่า และป้า น้อง 3 ขวบ มาที่ สภ.คลองหลวง เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังตำรวจแจ้งว่าสามารถจับกุมแม่น้อง 3 ขวบได้แล้ว ตำรวจได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคุณกัน บอกว่า

จากกรณีเมื่อวันที่วันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ย่าของเด็กชายวัย 3 ขวบ ได้เข้ามาแจ้งความกับตำรวจเพราะสงสัยว่า เหตุใดหลานชายเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง และในทุก ๆ ครั้ง ก็มีรอยฟกช้ำตามตัวคล้ายร่อยรอบถูกทำร้าย แต่เมื่อถามแม่เด็กกลับอ้างว่า น้องป่วยไม่แข็งแรง เป็นโรคเลือด ชอบวิ่งชนโต๊ะ จน เป็นเหตุทำให้ปอดฉีด ม้ามแตก ซี่โครงหัก แขนหัก ขณะเดียวกันแม่ของเด็ก ยังบอกให้ย่าไปถอนแจ้งความเนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบกับสามีที่ทำงานเป็นข้าราชการ ด้านกัน จอมพลัง ยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะนำคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ด้านป้าและย่าของเด็ก 3 ขวบ บอกว่า หลานชายอยู่กับแม่เขาตั้งแต่เกิด ไม่ได้ไปมาหาสู่กัน จนกระทั่งแม่เด็กติดต่อมา ว่าหลานชายเข้าโรงพยาบาล ตนจึงไปเยี่ยมหลาน และพบว่าหลานชายมีร่องรอยบาดแผลคล้ายถูกทำร้าย มีอาการหนักถึงขั้นโคม่า จึงรู้สึกแปลกใจว่าเหตุใดหลานชายถึงอาการหนักขนาดนี้

จนกระทั่งมารู้ความจริงจากตำรวจว่า แม่เด็กยอมรับว่า เป็นคนทำร้ายร่างกายลูกจริง ซึ่งตนเองก็รู้สึกตกใจ และเป็นไปตามที่ตนคาดการณ์เอาไว้ แต่ไม่เชื่อว่สาแม่ทำคนเดียว

ด้าน พันตำรวจเอก เกียรติศักดิ์ มิตรประสาท ผู้กำกับ สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุตนได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพยานแวดล้อมทั้งหมดหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ที่บ้านหรือที่โรงเรียนรวมถึงโรงพยาบาล ซึ่งทางเจ้าที่ได้มีการตรวจสอบระยะเวลาเป็นนาทีต่อนาที ซึ่งเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างที่จะหนาแน่น และสามารถมัดตัวผู้กระทำความผิดได้ซึ่งเบื้องต้นจากการรวบรวมพยานหลักฐานนั้นยังคงพบว่ามีผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียวคือแม่เด็ก

จากการสอบปากคำแม่เด็กยอมรับว่าสาเหตุที่ทำร้ายลูกนั้นเกิดจากความเครียดเรื่องครอบครัว ประกอบกับมีภาวะเป็นประจำเดือนจึงทำให้ฮอร์โมนไม่คงที่ อีกทั้ง ณ ตอนนั้นลูกชายดื้อจึงทำให้พลั้นมือทำร้ายตีลูกชายไป 2-3 ที จนกระทั่ง

ตนได้สติจึงเข้าไปกอดลูก หลังจากนั้นลูกชายก็มีอาการอ้วกจึงพานำตัวส่งที่โรงพยาบาล เบื้องต้นทางเจ้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุทำให้ได้รับอันตรายสาหัส

ทางด้านของ นางสาวสุภชา พรหมศร หัวหน้าบ้านเด็กและครอบครัว จ.ปทุมธานี เผยว่า ขณะนี้เด็กยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องรอประเมินดูอาการอีกครั้ง โดยเฉพาะไตที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งคาดว่าจะต้องรักษาตัวรอดูอาการประมาณหนึ่งเดือน

หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะพาญาติของเด็กไปที่ศาล เยาวชนและครอบครัวจังหวัดธัญบุรี เพื่อขอคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก และหลังจากที่เด็กหายดีทางเจ้าหน้าที่พม.จะมีแนวทางให้เด็กกลับมาอยู่ในความดูแลของครอบครัวฝ่ายพ่อ โดยทางเจ้าหน้าที่พม. จะทำการเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของการสร้างสัมพันธภาพ เนื่องจากเด็กไม่คุ้นชินกับ ครอบครัวฝ่ายพ่อ ซึ่งจะต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน ซึ่งทางเจ้าที่เชื่อว่าเด็กจะสามารถอยู่กับทางครอบครัวฝ่ายพ่อได้ เพราะอยู่ในช่วงวัยที่ปรับตัวได้ง่าย ส่วนแม่เด็กก็ต้องเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายต่อไป




คุณอาจสนใจ

Related News