อาชญากรรม
‘มินนี่’ เปิดหน้าสู้ ตอบทุกปมด้วยเสียงหนักแน่น จ่อฟ้องกลับ ตร.ปมภาพหลุด ปัดเป็นเจ้าแม่เว็บพนัน
29 ก.ย. 2566
118 views
“มินนี่” เปิดหน้าสู้ ยอมรับเคยคบหา “พ.ต.อ.ภาคภูมิ” ยันไม่รู้จัก “บิ๊กโจ๊ก” ขอโทษที่ทำให้เสียชื่อเสียง เตรียมฟ้องกลับตำรวจพีซีที ปมภาพหลุดกับ “พ.ต.อ.ภาคภูมิ” เพราะถูกตำรวจชุดจับกุมยึดโทรศัพท์ไป
ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ นางสาวธันยนันท์ หรือ สุชานันท์ สุจริตชินศรี หรือมินนี่ หนึ่งในผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เพื่อชี้แจงหลังมีภาพถ่ายคู่กับพันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย หนึ่งในแปดตำรวจผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นลูกน้อง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร.
โดยมินนี่ยอมรับว่าส่วนตัวรู้จักกับพันตำรวจเอกภาคภูมิตั้งแต่ปี 2563 หลังพบกันในงานเลี้ยงที่จังหวัดเลย และคบหากันระยะเวลาสั้นๆ ก่อนเลิกราไปเพราะทราบว่าพันตำรวจเอกภาคภูมิมีครอบครัวแล้ว กระทั่งปลายปีที่แล้ว บังเอิญกลับมาเจอกันและได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้งในช่วงเวลาหนึ่ง
ส่วนภาพรูปคู่ที่ปรากฏออกมา ตนยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพ แต่ในช่วงที่ตนถูกตำรวจชุด พีซีที จับกุมเรื่องเว็บพนันออนไลน์ เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้ถูกตำรวจยึดโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวของตนไป โดยจำได้ว่าตำรวจที่เข้าจับคนแรกชื่อเจ อีกคนตัวสูงคล้ำๆ น่าจะสังกัดตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
และตำรวจ 2 นาย ยังบังคับให้ตนเขียนยอมรับว่าพันตำรวจเอกภาคภูมิมีส่วนได้เสียกับเว็บพนันของตน ซึ่งตนขอตั้งคำถามว่าภาพดังกล่าวหลุดไปได้อย่างไร ตอนนี้ทุกคนเดือดร้อนเพราะตน ซึ่งเป็นภาพที่ตนไม่เคยเผยแพร่
ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่รู้จักกับ “บิ๊กโจ๊ก” เป็นการส่วนตัว มีแต่ตนที่รู้จักบิ๊กโจ๊ก และตนก็ไม่รู้จักกับทนายตั้ม ไม่รู้จักกับบอสตาล เจ้าของสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ ส่วนตัวก็อยากทราบว่าทุกวันนี้เขาอยู่ที่ไหน ยืนยันว่าตนไม่ใช่เจ้าแม่เว็บพนัน ตนทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ขายส่งเสื้อผ้าแฟชั่น
นอกจากนั้น มินนี่ยังได้ขอโทษ บิ๊กโจ๊ก,เอ ศุภชัย ที่เคยถ่ายรูปร่วมด้วย และขอโทษพันตำรวจเอกภาคภูมิ ที่ตนโทรศัพท์หาตอนถูกจับในคดีเว็บพนันเป็นคนแรก ทั้งที่ตำรวจให้โทรหาญาติ แต่เพราะตนไม่รู้จักใคร ยืนยันไม่ได้ซัดทอดตำรวจ 8 นาย และไม่ทราบเรื่องการโอนเงินเข้าบัญชี
พร้อมเผยอีกว่ากำลังพิจารณาเพื่อจะให้ทนายความเตรียมฟ้องดำเนินคดีกับบุคคลที่กล่าวหาตน ยืนยันว่าการออกมาเปิดหน้าสู้ครั้งนี้ไม่มีใครสั่งการหรือวางบทมาให้ตนว่าต้องทำอะไร
โดยหลังจากนั้น “มินนี่” ได้เดินทางไปสน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อยื่นคำร้องต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้การเพิ่มเติมในที่ถูกจับเรื่องเว็บพนัน และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนนี้จนถึงขณะนี้ ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังทนายความของมินนี่ แต่ไม่มีผู้รับสาย
ขณะที่ทีมข่าวติดต่อไปยัง พันตำรวจเอกภาคภูมิ ซึ่งพันตำรวจเอกภาคภูมิบอกว่าได้ฟังคำสัมภาษณ์ของมินนี่แล้ว แต่ตนไม่ขอชี้แจงอะไรเป็นไปตามที่มินนี่พูด และยืมเงินมินนี่จริงหลายครั้งและได้คืนไปบ้างแล้ว ส่วนที่ไม่ยังไม่ได้คืนก็ไม่ได้เยอะ ส่วนเงินที่ได้รับมาเป็นการโอนหรือรับเป็นเงินสดไม่ขอตอบเพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน
ทั้งนี้จากการสัมภาษณ์ของมินนี่ กับ การให้สัมภาษณ์ของพันตำรวจเอกภาคภูมิ ถึงความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คน พบว่าพูดตรงกันในหลายประเด็น และมีบางอย่างที่เหมือนกันในการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
เริ่มตั้งแต่ที่มินนี่ให้สัมภาษณ์โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย อนุญาตให้นำภาพตอนสัมภาษณ์ไปเผยแพร่ได้โดยไม่ต้องปิดบัง เนื่องจากมินนี่ บอกว่าวันนี้ต้องการเปิดหน้าสู้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งก็ตรงกับวันที่ทนายอนันต์ชัย และบิ๊กโจ๊ก ได้เปิดแถลงข่าว โดยตำรวจทั้ง 8 นายไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย โดยบอกว่าเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่าเป็นการเปิดหน้าสู้
ประเด็นต่อมาที่ทั้งมินนี่และพันตำรวจเอกภาคภูมิ พูดเหมือนกันคือเริ่มคบหากันช่วงปลายปี 2563 โดยเจอกันที่งานเลี้ยงในจังหวัดเลย จากนั้นก็แยกย้ายกันไป ซึ่งตอนนั้นมินนี่รู้ว่าพันตำรวจเอกภาคภูมิมีครอบครัวแล้ว จนกระทั่งกลับมาคุยกันอีกครั้งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
รวมถึงประเด็นที่มินนี่ ยืนยันว่าให้พันตำรวจเอกภาคภูมิยืมเงินจริงหลายครั้ง และ พันตำรวจเอกภาคภูมิใช้คืนบ้าง ไมใช้คืนบ้าง
นอกจากนี้ทั้งมินนี่และพันตำรวจเอกภาคภูมิ ยังพูดในประเด็นเปิดหน้าสู้เหมือนกัน โดยมินนี่บอกว่าการออกมาเปิดหน้าสู้ครั้งนี้ เพื่อต้องการขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนทั้งตำรวจทั้ง 8 นาย ครอบครัว และ บิ๊กโจ๊ก
ขณะที่พันตำรวจเอกภาคภูมิ ก็ได้ให้เหตุผลในการเปิดหน้าสู้ว่านอกจากจะเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์แล้ว ยังต้องการขอโทษ บิ๊กโจ๊ก ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจากเรื่องที่เกิดขึ้น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Ue4NShnLQcY
แท็กที่เกี่ยวข้อง มินนี่เว็บพนัน ,มินนี่ ,บิ๊กโจ๊ก ,มินนี่พตอภาคภูมิ