‘บิ๊กโจ๊ก’ นำ 8 ตำรวจลูกน้องเปิดใจ พบ ‘ทนายอนันต์ชัย’ สู้คดีเอี่ยวเว็บพนันของ ‘มินนี่’

‘บิ๊กโจ๊ก’ แสดงความยินดี ‘บิ๊กต่อ’ เป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 พร้อมกับพาตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา 8 นาย พบ ‘ทนายอนันต์ชัย’ เป็นครั้งแรกเพื่อต่อสู้คดีหลังเป็นผู้ต้องหาคดีเว็บพนันของ ‘มินนี่’

เมื่อวานนี้ (27 ก.ย. 2566) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้พาตำรวจทั้ง 8 นายซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ไปพบกับทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เพื่อปรึกษาเรื่องคดีหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันของมินนี่

บิ๊กโจ๊กเปิดเผยหลังจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. มีมติให้พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ว่าไม่ขอออกความคิดเห็นในเรื่องนี้ ก็ต้องแสดงความยินดีด้วยอยู่เเล้ว ซึ่งส่วนตัวก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากัน

ต่อมาทนายอนันต์ชัย เปิดเผยว่าได้เชิญลูกความทั้งหมดมาพูดคุยเรื่องแนวทางการต่อสู้คดี โดยบอกกับลูกความว่าเวลาไปจับคนร้ายเราเปิดหน้า ดังนั้นเมื่อวันนี้เราตกเป็นผู้ต้องหาถูกออกหมายจับ ก็ขอให้ทุกคนเปิดหน้าสู้ โดยเฉพาะพันตำรวจเอกภาคภูมิ พิศมัย ซึ่งรู้จักกับมินนี่แต่ก็ไม่ทราบว่ามินนี่ทำเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ เนื่องจากมินนี่เองก็เป็นนักธุรกิจอยู่แล้ว

ดังนั้นในเรื่องคดีอาญาอยู่ที่เจตนาว่าพันตำรวจเอกภาคภูมิทราบหรือไม่ว่าเงินดังกล่าวมาจากการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ทราบก็ไม่มีความผิด แต่ถ้าหากทราบว่าเงินดังกล่าวได้มาจากเว็บพนันก็มีความผิด

ขอฝากไปถึงชุดพนักงานสอบสวนว่าให้ระวังตัวไว้ จะเช็คบิลย้อนหลังแน่นอน งานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดู และฝากไปถึงบุคคลบางคนที่เอาข้อมูลส่วนบุคคล รวมไปถึงข้อมูลทางราชการไปเผยแพร่ขอให้ระวังตัวไว้ ผมเอาตายเเน่ การกระทำใดๆ ขอให้ระมัดระวังให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ เมื่อมาสู้กับผมแล้วจะรู้ว่านรกมีจริง และสัปดาห์หน้าขอให้จับตาดูให้ดีจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน เเต่ยังไม่ขอระบุว่าเรื่องอะไร

ขณะที่พันตำรวจเอกภาคภูมิ กล่าวว่า รู้จักกับมินนี่ตั้งแต่ปี 63 ตอนเป็นผู้กำกับที่จังหวัดเลยเจอกันที่งานเลี้ยงตอนปลายปี จากนั้นก็ย้ายไปที่จังหวัดขอนแก่น โดย 2 ถึง 3 เดือน จะเจอกัน 2 ถึง 3 ครั้ง ซึ่งรู้จักแม่มินนี่ก่อนเพราะแม่มินนี่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ หรือ กต.ตร. ที่ทำงานอยู่

จากนั้นภรรยาไม่สบายก็ไม่ติดต่อกันถึง 2 ปี จนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็มาเจอกันที่งานเลี้ยงและที่ร้านอาหาร ซึ่งเรื่องทั้งหมดต้องให้มินนี่ออกมาพูด เพราะได้รับความเสียหายเช่นกัน ทั้งนี้เคยเตือนมินนี่เรื่องที่ชอบถ่ายรูปลงโซเชียล เพราะกลัวภรรยาเห็นแต่ก็ยังนำรูปไปลง

ส่วนล่าสุดที่คุยกับมินนี่คือช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาซึ่งมินนี่ถูกตำรวจพีซีทีจับกุม โดยมินนี่ได้โทรศัพท์มาขอคำปรึกษาและขอให้ไปประกันตัวเธอ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีก ย้ำว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และตลอดชีวิตตั้งแต่รับราชการก็มีบัญชีธนาคารเพียงบัญชีเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเสียใจที่ทำให้ทุกคนในครอบครัว และผู้บังคับบัญชาได้รับความเสียหาย ทั้งหมดมาจากตัวเขาเพียงคนเดียวและอยากขอโทษทุกๆ คน

พลตำรวจตรีนำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้วิตกกังวลหรือเครียดอะไร เพราะเรื่องจริงก็คือเรื่องจริง ความจริงก็คือความจริง ข้อเท็จจริงก็ต้องไปพิสูจน์ทราบกันต่อไปในภายภาคหน้า

ขณะที่พันตำรวจเอกเขมรินทร์ พิศมัย กล่าวว่า รู้จักกับมินนี่โดยผ่านทางพันตำรวจเอกภาคภูมิ ซึ่งเป็นพี่ชายเป็นคนแนะนำให้รู้จัก เท่าที่จำได้เคยเจอกันเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น เป็นที่ร้านอาหารหนึ่งครั้ง และเป็นที่สถานบันเทิงอีกหนึ่งครั้ง ทุกครั้งที่เจอก็จะพูดคุยก็จะเป็นเรื่องของกฎหมาย ซึ่งมินนี่ได้ถ่ายรูปคู่กับเขาแล้วส่งไปให้พันตำรวจเอกภาคภูมิดู จึงทำให้มีคนเชื่อมโยงว่าสนิทกับมินนี่

ส่วนเรื่องของหมายจับที่ถูกส่งมาที่บ้านยอมรับว่าตกใจและยังพบข้อพิรุธในหมายจับที่ไม่ได้มียศนำหน้า ส่วนอาชีพก็ระบุว่ารับจ้างเท่ากับไม่ใช่ตำรวจ ยืนยันว่าไม่มีบัญชีม้า ทั้งชีวิตมีบัญชีเดียวที่ใช้ในรับเงินเดือนอาชีพตำรวจ

ขณะที่พันตำรวจโทคริษฐ์ ปริยะเกตุ เปิดเผยสั้นๆ หลังถูกนักข่าวสอบถามในหลายประเด็น เช่น เป็นผู้ครอบครองบัญชีม้า บิ๊กโจ๊กเป็นคนนำเงินเพื่อมาบริหารจัดการ และติดพนันหรือไม่ โดยพันตำรวจโทคริษฐ์ กล่าวว่า ขอให้ทนายอนันตชัยเป็นคนให้รายละเอียด และขอย้ำว่าไม่เล่นการพนัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XD1jsS0a3ag