2 ตำรวจลูกน้อง ‘บิ๊กโจ๊ก’ ได้ประกันตัว ที่เหลือ 6 นาย รวม 8 พลเรือน ส่งฝากขังแล้ว

ตำรวจลูกน้อง ‘บิ๊กโจ๊ก’ 2 นาย ได้ประกันตัวชั่วคราวแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 6 นาย รวมถึงพลเรือน 8 คน ส่งศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ ฝากขังแล้ว

พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 คุมตัวผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ทั้ง 14 คน ประกอบด้วย ตำรวจ 6 นาย และพลเรือน 8 คน ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้ฝากขัง ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน เปิดบัญชีม้า และจัดให้มีการเล่นพนัน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือจะหลบหนี โดยระหว่างการควบคุมตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ตำรวจเพื่อไปยังศาล ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พันตำรวจเอกภาคภูมิ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ว่า เครียดหรือไม่ที่ถูกดำเนินคดี แต่เจ้าตัวไม่ได้ตอบคำถาม เพียงยิ้มและพยักหน้าให้กับสื่อมวลชนเท่านั้น ขณะที่พลตำรวจตรีนำเกียรติ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตอบด้วยท่าทางสบายๆ ว่า สบายดีครับ ก่อนจะเดินขึ้นรถไป

ทั้งนี้ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คนที่เป็นพลเรือน เพิ่งจะถูกคุมตัวมาสอบสวนที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 เมื่อช่วงเช้าที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าหลังจากสอบปากคำแล้วเสร็จจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลในช่วงเย็นนี้ รวมผู้ต้องหาทั้งหมดที่จับกุมและถูกนำตัวมาสอบปากคำแล้วทั้งสิ้น 17 คน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (25 ก.ย. 2566) ในจำนวนนี้มีตำรวจได้รับการประกันตัวในชั้นศาลไปแล้ว 2 นาย คือ พันตำรวจเอก เขมรินทร์ ผู้กำกับ ตม.จังหวัดจันทบุรี และพันตำรวจเอก อาริศ ผู้กำกับ ตม.จังหวัดฉะเชิงเทรา และยังเหลือผู้ต้องหาอีก 6 คน ที่ยังหลบหนีและตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

สำหรับ 6 รายชื่อที่หลบหนี คือ นางสาวพิมพิลาส แก่นมัน, ครรชิต สองสมาน, กิตติชัช ปภัสโรบล, นางสาวสุปรียา โสกันทัต, พวิรวัสส์ คำนนท์โส และนางสาวพัชชารัสมี ทัพยวงศ์

ขณะที่ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีญาติของนางสาวทักษพร หนึ่งในผู้ต้องหา เดินทางมาเยี่ยม โดยญาติได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง รู้แต่เพียงว่ามีตำรวจไปควบคุมตัวลูกสาวที่บ้านพักในจังหวัดขอนแก่น แล้วนำตัวมาที่ บก.น.5 เมื่อวานนี้ จึงได้ขับรถตามมา ลูกสาวมีอาการเครียด ร้องไห้ แต่ก็ยังสามารถทานข้าวได้ ส่วนรายละเอียดไม่ทราบว่าลูกสาวไปเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าด้วยเหตุผลใดหรือวิธีใด เบื้องต้นจากการพูดคุยลูกสาวบอกว่าบัญชีถูกนำไปเปิดใช้เป็นบัญชีม้าตั้งแต่ปลายปี 65 ก่อนที่จะถูกปิดไปเมื่อ 2 เดือนก่อนหน้านี้ และนำมาซึ่งการจับกุม ส่วนลูกสาวจะถูกชักชวนหรือว่าจ้าง และมีเงินหมุนเวียนมากน้อยเพียงใดไม่ทราบ ซึ่งทางตำรวจได้แนะนำให้นำหลักทรัพย์หรือเงินสดมายื่นประกันตัวที่ศาล

ในขณะเดียวกันพบว่ามีผู้ต้องหาชายที่ถูกควบคุมตัวสอบปากคำตลอดทั้งคืนมีอาการเป็นลม เจ็บหน้าอก ผู้ควบคุมได้แจ้งตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ มาปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่อาการจะดีขึ้น จากนั้นทางพนักงานสอบสวน บก.น.5 ได้นำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Sj8U8CLkpGc