อาชญากรรม

เปิดปมปฏิบัติการค้นบ้าน ‘บิ๊กโจ๊ก’ คดี ‘บอสตาล-มินนี่’ ซัดทอด 8 ตร.ลูกน้องเอี่ยวเว็บพนัน

26 ก.ย. 2566

75 views

ย้อนดูที่มาคดี ก่อน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ถูกหมายค้นขอตรวจสอบบ้านพัก ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์วงการตำรวจ เริ่มจากคดี ‘บอสตาล-มินนี่’ ซัดทอด 8 ตร.ลูกน้องเอี่ยวเว็บพนัน

ปฎิบัติการเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 25 ก.ย. 2566 กองกำลังตำรวจไซเบอร์ และตำรวจคอมมานโด นำหมายค้นไปที่บ้านพักของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. ซึ่งอยู่ภายในซอยวิภาวดี 60 ซึ่งหมายค้นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากคดีพนันออนไลน์เครือข่ายของมินนี่ ซึ่งตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและสารสนเทศ หรือ ตำรวจพีซีที ได้จับกุมมินนี่พร้อมพวก 3 คน เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

และจากการขยายผลว่ามีพลเรือนและตำรวจซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของบิ๊กโจ๊ก 8 นาย มีเอี่ยวในเว็บพนันของมินนี่ ตำรวจจึงออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 23 ราย เป็นพลเรือน 18 ราย และ ตำรวจ 8 ราย พร้อมกับเข้าปูพรมค้นหาหลักฐานอีก 30 จุด ในพื้นที่ 6 จังหวัด

ทั้งนี้จุดสำคัญคือบ้านของบิ๊กโจ๊กซึ่งมีทั้งหมด 5 หลัง ซึ่งทันทีเมื่อตำรวจแสดงหมายค้นให้บิ๊กโจ๊กดู โดยที่ขณะนั้นยังอยู่ในชุดนอน บิ๊กโจ๊กดูหมายแล้วบอกว่าไม่ให้ค้นและให้ตำรวจชุดนี้กลับไป หรือไปตามผู้บังคับบัญชาระดับสูงมา เพราะบิ๊กโจ๊กเป็นถึงรอง ผบ.ตร.

ต่อมาพลตำรวจโทวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ได้เดินทางมาที่บ้านบิ๊กโจ๊ก โดยชี้แจงว่า ตำรวจพีซีที มาขอกำลังตำรวจไซเบอร์ในการเข้าตรวจค้น จากนั้นบิ๊กโจ๊กได้พาค้นบ้านทั้ง 5 หลัง โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งสามารถจับกุมตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ถูกออกหมายจับได้ 1 คน

ต่อมาบิ๊กโจ๊กเปิดใจถึงการถูกเข้าค้นบ้านว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และมีพิรุธหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องของหมายค้นที่ไม่ได้ระบุชื่อของบิ๊กโจ๊กต่อศาลทั้งที่เขาเป็นถึงรอง ผบ.ตร. ส่วนลูกน้องก็เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ แต่หากทำผิดจริงก็ต้องถูกดำเนินคดีไม่มีละเว้น ที่สำคัญมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากทำคดีสำคัญมาหลายคดี ทั้งคดีอุ้มรีดเจ้าของเว็บพนัน 140 ล้าน จนมีที่มาของวลีเด็ดคำว่า เป้รักผู้การเท่าไรเป้เขียนมา, คดีกำนันนก และคดีเกี่ยวกับการปราบปรามทุนจีนสีเทา ซึ่งการทำงานของเขาตรงไปตรงมา แม้ตำรวจทำผิดก็ไม่ละเว้น

ส่วนจะเป็นการเตะตัดขาเรื่องชิงเก้าอี้ ผบ.ตร. ที่จะเสนอชื่อวันที่ 27 กันยายนนี้หรือไม่นั้น บอกได้เพียงว่าเขาไม่ใช่แคนดิเดตลำดับแรก และยืนยันจะฟ้องตำรวจชุดที่ไปขอหมายค้นเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง

ขณะที่ตลอดทั้งวันที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ตำรวจได้คุมตัวลูกน้องของบิ๊กโจ๊กซึ่งเป็นตำรวจทั้ง 8 นายมาสอบปากคำ โดยเป็นตำรวจที่เคียงบ่าเคียงไหล่ในการทำคดีสำคัญๆ กับบิ๊กโจ๊กในหลายคดี เช่น พลตำรวจตรีนำเกรียรติ พันตำรวจเอกภาคภูมิ พันตำรวจเอกเขมรินทร์

ด้านพลตำรวจโทไตรรรงค์ ผิวพรรณ หัวหน้าชุดตำรวจพีซีทีที่ควบคุมคดีนี้ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากที่ตำรวจพีซีที ได้จับกุมบอสตาล ซึ่งเปิดเว็บพนันได้เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และตำรวจได้ขยายผลจากฐานผู้เล่นเว็บพนันของบอสตาล จนพบว่าลูกค้าเล่นเว็บพนันของมินนี่ด้วย ตำรวจจึงได้ขยายผลจับมินนี่ และพบว่ามีตำรวจเข้าไปมีเอี่ยวในเรื่องของบัญชีม้า

ชุดทำงานสืบสวนได้รวบรวมข้อมูลพบว่าตำรวจกลุ่มนี้มักจะมาที่บ้านหลังนี้เป็นประจำ ตำรวจจึงขอหมายค้นตามชื่อผู้ครอบครองบ้านหลังนี้ ซึ่งพบว่าเป็นชื่อของพลเรือน โดยไม่มีใครรู้ว่าบ้านที่เข้าค้นเป็นบ้านของรอง ผบ.ตร.

ส่วนตำรวจทั้ง 8 นาย พบเส้นเงินที่เชื่อมโยงกับเว็บพนันของมินนี่ชัดเจน ซึ่งแบ่งความผิดออกเป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มแรกเป็นเจ้าของเว็บและเป็นผู้บริหารเว็บพนัน  กลุ่มต่อมาคือทำหน้าที่จัดหาบัญชีม้า กลุ่มที่สามคือทำธุรกรรมกับบัญชีม้า และกลุ่มสุดท้ายคือผู้ได้รับประโยชน์จากเว็บพนัน นอกจากนี้ยังสามารถยึดของกลางได้หลายรายการ และการตรวจสอบยังพบเงินหมุนเวียนจาก 12 เว็บพนัน รวม 260 ล้านบาท



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jR386ZFydCY

คุณอาจสนใจ

Related News