สลด! พ่อปาดคอลูกเมียดับ 3 ศพ เครียดติดหนี้จากค้ำประกัน ถูกยึดบ้าน ซ้ำโดนแอปฯ เงินกู้หลอก

พ่อเครียดติดหนี้เพราะไปค้ำประกันเงินกู้จนถูกยึดบ้าน ตัดสินใจไปกู้เงินจากแอพพลิเคชั่น โดนหลอกสูญเงินไปอีก 1 ล้าน 7 แสนบาท ตัดสินใจคว้ามีดอีโต้ฆ่าเมียและลูกชาย 2 คน ก่อนจะพยายามฆ่าตัวตายตาม แต่ก่อนตายโทรศัพท์บอกหัวหน้างานเพื่อสั่งลา ทำให้มีคนมาช่วยเหลือทัน ล่าสุดอาการสาหัส

เหตุสลดครั้งนี้เกิดขึ้นช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ภายในบ้านทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้นหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านทิพย์มงคล ตั้งอยู่ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุว่ามีคนฆ่ากันตาย

เมื่อไปถึงพบว่าที่หน้าประตูบ้านตรงประตูมุ้งลวด พบร่าง นางสาว วิภาพร ราชา อายุ 44 ปี ภรรยา นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่กับพื้น ที่คอและตามตัวมีแผลโดนฟันหลายแห่ง ใกล้กันพบร่าง เด็กชายปุณณพัฒน์ ดอกไม้ อายุ 9 ปี ลูกชายคนเล็ก สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้น มีโดนฟันที่คอ และตามร่างกายเช่นเดียวกัน

พอขึ้นไปห้องนอนชั้นสอง พบร่าง เด็กชาย บุญญานนท์ ดอกไม้ อายุ 13 ปี ลูกชายคนโต นอนหงายเสียชีวิตอยู่กับพื้นบริเวณประตูห้องนอน และที่ภายในห้องนอนใหญ่ด้านหน้า พบนาย สาณิช ดอกไม้ อายุประมาณ 41 ปี สามีนอนหงายใช้มือจับคออยู่บนเตียง มีแผลถูกมีดปาดคอ และข้อมือ เจ้าหน้าที่กู้ชีพให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังพบมีดอีโต้ เปื้อนเลือด 1 เล่ม

จากการสอบถาม นางสาว ฐารินี เส็งสันต์ อายุ 46 ปี (เสื้อขาว) หัวหน้างานของ นายสาณิช เล่าว่า เมื่อช่วงเที่ยงคืน นาย สาณิช โทรมาหา บอกว่าได้ลงมือฆ่าลูกเมียตัวเองแล้ว จึงรีบโทรให้คนที่อยู่ใกล้บ้าน นาย สาณิช ให้รีบมาดู และเธอก็รีบตามมาที่เกิดเหตุ พอมาถึงก็พบว่าเมียและลูกโดนฆ่าตายแล้ว และนายสาณิชเองก็อาการสาหัส จึงรีบโทรแจ้งตำรวจ

สำหรับชนวนการก่อเหตุ เชื่อว่า น่าจะมาจากเรื่องเงิน เพราะ นาย สาณิช เคยมาปรึกษาว่า เคยไปค้ำประกันรถให้กับคน ๆ นึง จนขึ้นศาลและกำลังจะถูกกรมบังคับคดียึดบ้าน จึงไปต่อรองกับทางบริษัทให้ช่วยลดดอกเบี้ย จนเหลือยอดหนี้ที่ 4 แสน 9 หมื่นบาท รวมค่าถอดถอนจากกรมบังคับคดีก็จะประมาณ 6 แสนต้น ๆ

นาย สาณิช มีเงินอยู่แต่ก็ยังขาดอยู่อีกนิดหน่อย จึงเตรียมเรื่องจะไปกู้เงินเพิ่มเพื่อจะเคลียร์ปัญหานี้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ ภรรยาของนาย สาณิช ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจากหลายที่เป็นเงินกว่า 1 ล้าน 7 แสนบาท โดนเจ้าหนี้มาตามทวงทุกวันจนเครียด

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามอดีตเพื่อนร่วมงานที่พบศพคนแรก ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามกัน เล่าว่า เขาเคยทำงานที่เดียวกับ นาย สาณิช และเมื่อคืนนี้ หัวหน้างานได้โทรมาหา บอกว่า นาย สาณิช โทรไปบอกว่าได้ฆ่าลูกฆ่าเมียหมดแล้ว ช่วยไปดูที่บ้านนาย สาณิช หน่อย พอไปถึงเขาตะโกนเรียกหน้าบ้านก็ไม่มีคนออกมา และไม่มีเสียงตอบรับ จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ พอตำรวจมาถึงก็งัดประตูรั้วหน้าบ้านเข้าไป พบศพคนตายแล้ว

ซึ่ง นาย สาณิช และครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ 4-5 ปีแล้ว แต่ไม่เคยทราบเรื่องปัญหาหนี้สิน เพราะครอบครัวนี้ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง จะรู้จักกันแค่ในฐานะเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ก่อเหตุก็เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี ไม่มีพฤติกรรมดื่มแอลกอฮอล์หรือยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และก่อนจะเกิดเหตุก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติเลย

นาย กฤษฎา ชัยจรินทร์ เพื่อนบ้านของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ปัญหาเริ่มจากเมื่อ 6 ปีที่แล้ว อดีตนายจ้างของนาย สาณิช มาขอให้ นาย สาณิช ช่วยเซ็นค้ำประกันซื้อรถยนต์โตโยต้า อินโนวา แต่กลับหนีหายไป เอารถจอดทิ้งไว้ ทำให้ นาย สาณิช ต้องรับภาระหนี้แทน ถึงขั้นมีหมายศาลมาติดหน้าบ้าน ซึ่งรวมดอกเบี้ยแล้ว มีหนี้สินเป็นเงินกว่า 8 แสนบาท หลังจากนั้น ครอบครัวนี้จึงเริ่มกู้เงินนอกระบบบ้าง เพื่อหาเงินมาจ่ายไฟแนนซ์ ไม่ให้ถูกยึดบ้าน

สำหรับนาย สาณิช ทำงานขับรถรับส่งพนักงานบริษัทโลจิสติกส์ วันเกิดเหตุ (27ส.ค.) ช่วงเที่ยงมีกลุ่มคนประมาณ 5 คนทั้งชายและหญิง ขับรถ MG ป้ายแดง สีบรอนซ์ มาหานาย สาณิช และภรรยาที่บ้าน เข้าไปพูดคุยกันด้วยท่าทางเคร่งเครียดนานกว่า 3 ชั่วโมง

จากนั้นนาย สาณิชก็ออกไปทำงานก่อนจะกลับเข้ามาที่บ่ายราวบ่าย 3 โมงครึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ และเป็นไปได้ว่าครอบครัวนี้อาจถูกกดดันหลายอย่างจึงตัดสินใจทำแบบนี้

ขณะที่พันตำรวจเอก รังสรรค์ คำสุข รักษาราชการแทน ผู้กำกับการ สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางภรรยาของนาย สาณิช แจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าถูกแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงิน โดยเริ่มจากติดต่อขอกู้เงินหนึ่งแสนบาท แต่ถูกให้โอนยอดไปยังบัญชีปลายทาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าเปิดระบบ อะไรต่างๆจนกระทั่งมีการโอนเงินไปกว่าล้านบาท ซึ่งหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความก็มีการสั่งการอายัดบัญชีดังกล่าวและอยู่ในระหว่างดำเนินติดตามตัวบัญชีปลายทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน

ทีมข่าวอาชญากรรมโทรศัพท์สอบถาม พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ส่งชุดสืบสวนมาคลี่คลายคดีที่ สภ.บางแก้ว เพื่อตามล่าแก๊งมิจฉาชีพที่หลอกลวงครอบครัวผู้เสียชีวิต ให้โอนเงินล้านแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/nt3xmZppikc