ขรก.บำนาญสุดช้ำ ถูกยึดบ้านขายทอดตลาด หลังอดีตโค้ชวอลเลย์ดัง ให้ค้ำประกันซื้อรถก่อนชิ่ง

ข้าราชการตำรวจบำนาญ ถูกศาลบังคับประกาศขายทรัพย์สิน หลังเพื่อนที่เป็นอดีตโค้ชวอลเลย์บอลชื่อดัง ให้ค้ำประกันซื้อรถยนต์แล้วไม่จ่ายค่างวด

ขอนแก่น-ร.ต.ต.วิโรจน์ วงษ์โก อดีตข้าราชการตำรวจบำนาญ และนางบังอร วงษ์โกภรรยา นำหมายศาลจังหวัดชุมแพ คดีหมายเลขแดงที่ ผบE.394/2565 ประกาศ ขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ที่ดินโฉนด เลขที่ 21059 จำนวน 12 ไร่ มาแสดงให้ผู้สื่อข่าวได้ดู หลังจากถูกประกาศขายที่ดินแปลงดังกล่าวโดยไม่รู้ตัว

ร.ต.ต.วิโรจน์ วงษ์โก เล่าว่า สาเหตุที่ถูกประกาศขายที่ดินนั้นเกิดขึ้น มาจากนายบรรจง สมบัติ โค้ชวอลเลย์บอลและครูกีฬา ได้เช่าซื้อ รถยนต์ ฮอนด้า SRV ราคา 599,256 บาท กับทางบริษัท ธนะแคปปิตอล จำกัด โดยได้แบ่งจ่ายเป็นงวดละ 8,323 บาท จำนวน 72 งวด โดยผู้เช่าซื้อได้ จ่ายงวดรถมาแล้ว 11 งวด รวมเป็นเงิน 174,738 บาท ยังคงค้างชำระ จำนวน 424,473 บาท

จนทำให้ผู้ค้ำประกันเดือดร้อน ถูกศาลจังหวัดชุมแพฟ้องยึดทรัพย์ และประกาศขายทอดตลาด โดยไม่รู้ตัวมาก่อน ซึ่งตนเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก เพราะที่ผ่านมาตนเองได้เชื่อในความมั่นคงในการงานของเพื่อนคนนี้ เพราะถือว่าเป็นเพื่อนที่สนิทอีกคนจึงตัดสินใจค้ำประกันรถให้

ก่อนที่จะถูกขายทอดตลาด ทางบริษัทที่เป็นเจ้าของสัญญาเช่าซื้อ ได้โทรศัพท์ติดต่อตนเองตลอดเวลาว่า ได้ค้างค่างวดรถยนต์คันดังกล่าว จนกระทั่งนายบรรจงได้เกษียณราชการ ได้ไปอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ตนเองได้มีการติดต่อข้อความเฟซบุ๊ก แต่นายบรรจงก็ไม่ยอมจ่ายเงินค่างวดที่ค้างไว้

จนกระทั่งปลายปี 2564 ตนเองจึงถูกยื่นฟ้องทำให้ตนเองต้องไปขึ้นศาลจังหวัดชุมแพ โดยในพลัดแรกจำเลยที่ 1 คือนายบรรจงผู้กู้ไม่ยอมมาตามศาลนัดทำให้ศาลได้เลื่อนเป็นต้นปี 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองสภาพร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เลยให้ทนายความซึ่งเป็นทนายความของนายบรรจง หรือจำเลยที่ 1 ได้เข้าไปตามศาลจังหวัดชุมแพที่นัดไว้ ด้วยความเชื่อใจเพื่อนก็คิดว่าทนายความคงจะช่วยไกล่เกลี่ยกับโจทย์ได้

ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2565 มีหมายจากกรมบังคับคดียึดบ้านของตนเอง ซึ่งบ้านพร้อมที่ดินมีเนื้อที่ 12 ไร่ เพื่อขายทอดตลาดชดใช้หนี้สินประมาณ 520,00 บาท ซึ่งตนเองไม่คิดว่าเพื่อนสนิทจะทำกันได้ขนาดนี้ เพราะคิดว่าหลังจากที่เกษียณราชการไปแล้ว จะนำเงิน ที่ได้จากค่าบำนาญหรือเงิน กบข. มาชำระค่างวดรถทั้งหมดแต่กลับเฉยไป จนถูกขายทอดตลาด

ร.ต.ต.วิโรจน์ วงษ์โก กล่าวต่อไปว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการนำบ้านหลังนี้ไปขายทอดตลาด ตนเองก็จะไปร่วมดูการขาย หากมีคนสนใจซื้อตนเองก็ต้องออกจากบ้านหลังนี้ไปแต่โดยดี ตามแต่ที่เจ้าของบ้านที่ซื้อ จะกำหนดว่าจะให้ตนเองออกจากบ้านเมื่อไหร่ ถ้ายังไม่มีคนซื้อบ้านหลังนี้ ก็จะเป็นการต่อลมหายใจของตนเองออกไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งตนเองยอมรับว่าไม่มีเงินมากขนาดนั้นที่จะไปจ่ายหนี้สินทั้งหมด