ญาติทำใจไม่ได้ตะโกนสาปแช่ง มือฆ่าข่มขืน ‘เซลส์สาว’ จี้โทษประหารชีวิต

คดีสุดสะเทือนใจ “ณัฐ” หลอกซื้อเซลส์สาวมาเซ็นสัญญาซื้อรถที่ร้านกาแฟ ก่อนลักพาตัวขึ้นรถกระบะตู้ทึบหายตัวข้ามคืน ญาติแจ้งความตามหา สุดท้ายจับคนร้ายได้ ส่วนเซลส์สาวกลายเป็นศพถูกทิ้งในโรงแรม ญาติสุดโกรธ ตะโกนด่า สาปแช่ง วอนลงโทษประหารชีวิต

เมื่อช่วงบ่าย 3 ของวันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา น.ส.อ้อม อายุ 36 ปี ชาวตำบลแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ทำงานเป็นเซลส์ขายรถแห่งหนึ่ง อยู่ที่ถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด อำเภอสันทราย ได้นำโปรชัวร์ เอกสารเกี่ยวกับรถ ออกไปพบลูกค้ารายหนึ่ง ที่ร้านกาแฟ ห่างจากศูนย์ประมาณ 50 เมตร โดยลูกค้าอ้างว่า มาติดต่อซื้อรถ แต่ขับรถเลย จึงขอให้ น.ส.อ้อมออกไปพบที่ร้านกาแฟ กระทั่ง 5 โมงเย็น น.ส.อ้อม ยังไม่กลับเข้าโชว์รูม เพื่อน ๆ ติดต่อไม่ได้ จึงเริ่มออกตามหา

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านกาแฟ เห็นชายคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัยสีดำ สวมเสื้อโปโลสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีครีม เดินเข้ามาสั่งกาแฟหน้าเคาน์เตอร์ และสแกนจ่ายเงิน สักพักเห็นหญิงสาวผมยาว สวมหน้ากากอนามัยสีดำ เสื้อสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำเดินตามเข้ามา พร้อมโปรชัวร์รถ และใบเสนอราคา ก่อนที่ทั้งสองคนจะนั่งคุยกันต่อ โดยมีรถกระบะตู้ทึบคันหนึ่งจอดอยู่ก่อนถึงร้านกาแฟ

จากนั้นทั้งญาติ และเพื่อนๆ ได้โพสต์ผ่านโซเชียล เพื่อช่วยกันตามหา โดยญาติ ๆ ได้ออกตามหาจาก GPS เครื่องโทรศัพท์มือถือของ น.ส.อ้อม พบมีสัญญาณ ที่หอพักแห่งหนึ่ง อยู่ด้านหลังสหฟาร์มเห็ด ท้องที่ ตำบลแม่แฝก อำเภอสันทราย เมื่อตำรวจเข้าค้นหา พบชายต้องสงสัย ท่าทางมีพิรุธ วิ่งหนีเข้าป่าข้างหอพักหายตัวไป เมื่อค้นหาบริเวณนั้นจนสว่างก็ไม่พบตัว ญาติจึงไปแจ้งความที่ สภ.สันทราย

กระทั่งเช้าวันนี้ ชุดค้นหาไปตรวจสอบค้นหาผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง พบกล้องวงจรปิดติดรถยนต์ตกอยู่ ในป่าบ้านหมู่14 เขตติดต่อหมู่ 15 ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย ซึ่งถูกถอดการ์ดออกไป และยังพบร่องรอยการหลบหนีตามร่องน้ำในป่า และพบธนบัตร 100 บาท 1 ใบ ตกอยู่ไม่ไกลจากกล้องวงจรปิด

ต่อมาตำรวจตามเจอกระบะตู้ทึบ ทะเบียนเชียงใหม่ คันที่ลักพาตัว น.ส.อ้อม แล้ว โดยพบจอดทิ้งที่ลานจอดรถวัดหนองบัวพระเจ้าหลวง ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด เมื่อตรวจสอบในรถไม่พบใคร มีเพียงมอเตอร์ไซค์ 3 คัน อยู่ในตู้รถ ส่วนบริเวณไฟเลี้ยวฝั่งขวาด้านหน้า พบร่องรอยการเฉี่ยวชนได้รับความเสียหาย ส่วนภายในตัวรถฝั่งคนนั่งโดยสาร พบเอกสารและเคสโทรศัพท์ ที่คาดว่าจะเป็นของ น.ส.อ้อม แต่โทรศัพท์ถูกแกะออกไป จึงนำรถไปเก็บที่ สภ.ดอยสะเก็ด

กระทั่งบ่าย 3 โมง ตำรวจสามารถจับตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ คือ นายณัฐพล อายุ 41 ปี โดยจับได้ที่ย่านประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจากขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดทิ้งไว้ที่ศาลเจ้าปุงเถ่ากง ย่านตลาดต้นลำไย แล้วมีผู้พบเห็น และจดจำได้จากการนำเสนอข่าว จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ จนจับตัวได้ จึงคุมตัวไปสอบสวน

ขณะเดียวกันตำรวจไปยึดรถเก๋งยาริสสีดำ ของแฟนสาวนายณัฐพล หลังได้ข้อมูลว่า ได้ขับไปพานายณัฐพลหลบหนี หลังจากทิ้งรถกระบะไว้ที่วัด โดยพบหลักฐานหลายชิ้น มีทั้ง ค้อน เชือกสีเขียว เคเบิ้ลไทร์ที่ใช้รัดของ ถุงยางอนามัยใช้แล้ว ถุงใส่ของเหมือนที่ใช้ในโรงแรมม่านรูด ที่หลักฐานสำคัญที่เจอ คือ แว่นตา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแว่นของ น.ส.อ้อม ที่สูญหายไป และยังพบคราบเลือดเปื้อนอยู่บนสิ่งของที่พบด้วย

โดยช่วง 5 โมงเย็น นายณัฐพลเปิดปากรับสารภาพว่า นำร่าง น.ส.อ้อม ไปทิ้งไว้ที่ห้องเช่ารายวัน ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อไปถึงก็พบร่าง น.ส.อ้อม ในสภาพไร้ลมหายใจ ถูกมัดมือไพล่หลัง มัดเท้า มีผ้าอุดปาก ที่คอถูกรัดด้วยเชือก ศีรษะและท้ายทอยมีแผลถูกค้อนทุบ

จากนั้นจึงคุมตัวนายณัฐพลไปชี้จุดเกิดเหตุ ตามที่รับสารภาพว่า หลอกให้ น.ส.อ้อม มาพบที่ร้านกาแฟ พร้อมออกอุบายว่าจะดาวน์รถ จึงชวนไปกดเงินด้วย เพื่อไปทำสัญญาซื้อขาย น.ส.อ้อม หลงเชื่อจึงขึ้นรถไปด้วย แต่นายณัฐพลขับออกนอกเส้นทาง น.ส.อ้อมเริ่มโวยวาย จึงถูกมีดจี้บังคับและใช้เคเบิ้ลไทน์มัดมือ ใช้ผ้าอุดปาก

ก่อนจะพาไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณแยกลิขิตชีวัน อ.สันทราย พาตัวเข้าไปในห้องพัก และพยายามข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ แต่ น.ส.อ้อม ต่อสู้ขัดขืน จึงถูกเชือกรัดคอ ใช้ค้อนทุบที่ท้ายทอยจนเหยื่อจนแน่นิ่ง

ช่วง 2 ทุ่ม ขับรถกระบะตู้ทึบ ไปจอดทิ้งไว้ที่บ้านของ น.ส.เก๋ ซึ่งเป็นแฟนคนที่ 1 ที่อำเภอดอยสะเก็ด แล้วโทรศัพท์หา น.ส.ฝน ซึ่งเป็นแฟนคนที่ 2 และเป็นเจ้าของรถเก๋งยาริส ให้มารับที่อำเภอดอยสะเก็ด แล้วพา น.ส.ฝน ไปทิ้งไว้ที่เซเว่นแห่งหนึ่งในอำเภอสันทราย โดยยืมรถเก๋งยาริสของ น.ส.ฝน ไปนำร่างของเหยื่อ ไปเปิดห้องพักรายวันในพื้นที่ ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ตอน 4 ทุ่ม เปิดห้องพัก 1 คืน เอาศพมาซ่อนอำพรางไว้ในห้องหมายเลข 8

แล้วขับรถกลับไปรับ น.ส.ฝน แล้วพากันไปนอนพักที่หอพักของ น.ส.ฝน ที่ ต.แม่แฝก อ.สันทราย โดยอ้างว่า ได้หลับนอนกับ น.ส.ฝน ด้วย กระทั่งตี 2 ของวันที่ 30 เมษายน ตำรวจและกู้ภัยติดตามสัญญาณจากมือถือของผู้ตาย ไปที่หอพัก นายณัฐ ก็หลบหนีออกจากห้องไปซ่อนตัวในร่องน้ำ

กระทั่งตี 4 ผู้ต้องหาได้โทรให้ น.ส.เก๋ แฟนคนที่ 1 มารับกลับไปเอารถกระบะที่บ้าน น.ส.เก๋ ขับไปจอดซ่อนไว้ที่วัดหนองบัวพระเจ้าหลวง อำเภอดอยสะเก็ด แต่ช่วงขับออกมาก็มาเกิดอุบัติเหตุ และมีการเรียกประกันชั้น 1 มาเคลมให้คู่กรณี

แล้วให้ น.ส.เก๋มารับไปส่งที่บ้านพ่อ ในอำเภอสันกำแพง เพื่อยืมมอเตอร์ไซต์ แล้วขี่ไปจ่ายค่าห้องพักรายวันที่ซ่อนศพไว้ โดยบอกว่าขอเช่าห้องต่ออีก 1 วัน แล้วอย่าไปรบกวนคนในห้อง เขากำลังพักผ่อน จากนั้นก็ขับหลบหนี จนไปถุกจับกุมได้ที่ กลางเมืองเชียงใหม่

ทั้งนี้มีญาติ ๆ ของผู้ตายมาดูการชี้จุด ต่างโกรธแค้น พร้อมตะโกนสาปแช่ง และขอให้โดนลงโทษประหารชีวิต พร้อมเข้าไปทำร้าย ไปฟังเสียง

ล่าสุดเช้าวันนี้ตำรวจยังควบคุมตัวนายณัฐพล ไว้ที่ สภ.สันทราย เตรียมสอบปากคำเพิ่ม ด้านพลตำรวจตรี วีระชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เผยว่า วันนี้อาจจะยังไม่ได้นำตัวไปฝากขังที่ศาล ยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ต้องหายังให้การวกวนอยู่ และเตรียมส่งตัวไปตรวจร่างกายเพื่อเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบสำนวนคดี ส่วนทีมสืบสวนทำคดีก็ยังเร่งเก็บหลักฐาน และสอบพยานเพิ่มเติมเพื่อรวมรวมทำสำนวนคดีส่งฟ้อง โดยในช่วงบ่ายของวันนี้ก็จะมีการประชุมทีมสืบสวนอีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีอีกครั้ง

https://youtu.be/b8GwBz91v9o