อาชญากรรม

พ่อเศร้ารับศพลูก เพิ่งอวยพรวันเกิด 'น้องพิณ' เหยื่อฆ่าหั่นศพ ก่อนถูกฆ่าวันเดียว

โดย paweena_c

3 ต.ค. 2565

969 views

พ่อเศร้า! เพิ่งอวยพรวันเกิด 'น้องพิณ' เหยื่อฆ่าหั่นศพ ก่อนถูกฆ่า 1 วัน เตรียมรับศพลูกไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่บ้านเกิดจังหวัดร้อยเอ็ด


จากกรณีที่ ผู้ต้องหา ฆ่าหั่นศพกิ๊กสาว หั่นแยกชิ้นส่วนศพและนำมาทิ้งบริเวณใต้ทางด่วน รามอินทรา หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้รับสารภาพ ทำไปเพราะหึงหวง


ขณะที่พ่อของผู้เสียชีวิต วันนี้จะนำศพลูกไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมให้ตำรวจดำเนินคดีผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด


ก่อนอื่นเราจะพาย้อนกลับไปดูวันที่ตำรวจไปบุกจับผู้ต้องหาที่ห้องพัก


โดยตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรปราการพร้อมด้วยชุดสืบ สภ.สำโรงเหนือ นำกำลังเข้าจับกุม ผู้ต้องหา คือ นายชาญวิทย์ หรือ ดอน อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นชายคนสนิทของ นางสาวอรนันท์ หรือ พิณ อายุ 30 ปี ผู้ตาย ที่ถูกฆ่าหั่นศพอย่างโหดเหี้ยม แยกชิ้นส่วน 7 ชิ้นใส่ถุงดำถูกนำมาทิ้งบริเวณใต้ทางด่วน ถนนรามอินทรา


โดยขณะเข้าจับกุม พันตำรวจเอก โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เป็นหัวหน้าชุดที่นำกำลังเข้าไป ได้สอบถามเพื่อยืนยันว่าใช่ นายดอน และ บอกกับผู้ต้องหานั่งลง ซึ่งผู้ต้องหา มีการยิ้มให้กับตำรวจด้วยพร้อมบอกว่าผมรับสารภาพทั้งหมด แต่ขอถามกลับอย่างหนึ่งว่า ทำไมเร็วจัง (ทำไมตำรวจจับเร็วจัง)


ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายดอน มาสอบปากคำต่อที่ สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งตลอดเวลาที่คุมตัวนายดอนมามีสีหน้าเรียบเฉย สามารถพูดคุยตอบคำถามได้ปกติ


สาเหตุที่ก่อเหตุ เพราะโกรธเเค้นฝ่ายหญิงและหึงหวง ประกอบกับฝ่ายหญิงพยายามที่จะตีตัวออกห่าง ซึ่งความจริงนายดอน มีภรรยาอยู่แล้ว และจะเรียกผู้ตายว่า แฟน เเต่หญิงสาวไม่ยอมเรียกนายดอน ว่าแฟน และไม่ให้นายดอน เปิดเผยกับใครว่า คบหากัน ซึ่งเป็นสาเหตุที่นายดอน บอกว่า จึงตัดสินลงมือก่อเหตุ


สำหรับคำให้การรับสารภาพของนายดอน สอดคล้องกับหลักฐานที่ตำรวจชุดสืบสวนรวบรวมได้ ตั้งแต่กล้องวงจรปิดของคอนโดมิเนียม แห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 115 บันทึกได้เมื่อ วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ประมาณ 11.33 น. นายดอนและผู้ตายเข้ามาเปิดห้องพักแบบรายวันด้วยกันที่คอนโดเกิดเหตุ


และในวันเดียวกัน ประมาณ 20.30 น. นายดอนให้การว่า ลงมือก่อเหตุแทงผู้ตายจนเสียชีวิต และ นอนอยู่กับศพ 1 คืน ก่อนจะเริ่มหั่นชำแหละศพในวันที่ 29 กันยายน โดยทำในห้องน้ำเเละล้างคราบเลือดออก โดยส่วนขา ได้ใช้เลื่อย เลื่อยแยกชิ้นส่วนผู้ตายทั้งหมด 7 ชิ้นและใส่ถุงดำที่เตรียมมา


ช่วงค่ำวันที่ 29 กันยายน นายดอนได้นำอุปกรณ์ในการชำแหละศพ มาทิ้งลงในคูน้ำใกล้กับ ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ซึ่งในภาพวงจรปิด จะจับภาพเอาไว้ได้ หลังจากนายดอน นำรถยนต์สีขาวไปจอด ริมถนนข้างตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ในเวลา 20.08 น.ของวันที่ 29 กันยายน


ก่อนจะเดินหิ้วกระเป๋า และเดินไปอย่างช้าๆตามถนน ผ่านกล้องวงจรปิด 2 มุมไป พอเห็นที่มืด ๆ ลับตาคนในดอนได้เลี้ยวเข้าพุ่มไม้และโยนอุปกรณ์ในการแตะศพทิ้ง


จากนั้นวันรุ่งขึ้น ช่วงบ่ายวันที่ 30 กันยายนวงจรปิดของคอนโดที่เกิดเหตุก็บันทึกภาพได้ขณะที่นายดอน แบกถุงดำ ซึ่งใส่ชิ้นส่วนของผู้ตายลงจากคอนโด และเดินไปที่รถยนต์ของตัวเองที่จอดไว้ข้างคอนโดก่อนขับออกไปเพื่อนำชิ้นส่วนศพไปฝั่งดินใต้ทางด่วน ริมถนนรามอินทรา ซึ่งผู้ก่อเหตุให้สารภาพว่าเลียนแบบการฆาตกรรมอำพรางมาจากภาพยนตร์


ส่วนเสื้อผ้าที่นายดอนใส่ในวันก่อเหตุได้นำใส่ถุงดำและมาทิ้งถังขยะห่างจากบ้านตัวเองประมาณ 200 เมตร ซึ่งตำรวจชุดสืบสวนได้คุมตัวนายดอน มาชี้จุด และก็เจอหลักฐานเสื้อกางเกงรองเท้าที่ใส่ ขณะหั่นศพ


สำหรับคดีนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีนี้ ตำรวจได้รับเเจ้งจากเเม่บ้านของคอนโคที่เกิดเหตุ ว่าพบความผิดปกติของผู้เข้าพักคนหนึ่ง เนื่องจากแม่บ้านได้เข้าไปทำความสะอาดห้อง แต่เปิดห้องผิด


ไปเปิดห้องที่เกิดเหตุ และได้กลิ่นคาวเลือด จึงสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดเหตุฆาตกรรม เเม่บ้านจึงเเจ้งให้ตำรวจทราบ หลังจากนั้นก็เข้าไปจับกุม


สำหรับการสังหารครั้งนี้ ผู้ต้องหาได้วางแผนไว้ ล่วงหน้านาน 3 เดือน โดยมีการขุดหลุมฝังศพไว้ก่อนหนึ่งเดือน และเตรียมซื้ออุปกรณ์การสังหาร


ซึ่งจากการได้พูดคุยกับตัวของผู้ต้องหา ยืนยัน ได้ว่าสภาพจิตใจเป็นปกติ ไม่ได้มีอาการป่วยโรคจิตแต่อย่างใด


ล่าสุดนายอร่าม พ่อผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.โคกครามเพื่อติดต่อร้อยเวร นำบันทึกประจำวันไปขอรับศพน้องพิณ จากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จังหวัดร้อยเอ็ด


นายอร่าม บอกว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และก่อนวันที่ลูกสาวเสียชีวิต เป็นวันที่ 27 กันยายน ซึ่งเป็นวันเกิดของลูกสาว อายุครบ 30 ปี พอดี


ซึ่งทุกปี ตนเองจะต้องส่งคำอวยพร วันเกิดให้ลูกสาว ซึ่งในวันนั้นตนส่งคำอวยพรไปแต่ลูกสาวไม่มีการตอบกลับและหายเงียบไปเลย ซึ่งตนเองก็รู้สึกแปลกใจจนกระทั่งมาทราบข่าว ว่าลูกถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม


ซึ่งอยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษอย่างหนักที่สุด ถึงขั้นประหารชีวิตได้ยิ่งดี และไม่ควรได้รับการอภัยโทษหรือลดโทษออกมา เพราะกลัวว่าถ้าออกมาจะก่อเหตุซ้ำอีก เพราะ เชื่อว่าคนแบบนี้มีจิตใจโหดเหี้ยม และเชื่อเป็นสันดาน


โดยวันนี้ พ่อของผู้เสียชีวิต จะเดินทางไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำเรื่องรับศพลูกสาว และจะเดินทางไปอัญเชิญดวงวิญญาณน้องในที่เกิดเหตุ



คุณอาจสนใจ

Related News