อาชญากรรม

สอบเครียด! 'จ่าคลั่งยิงเพื่อน' ยังให้การวกวน ตร.ยังไม่แจ้งข้อหา รอประเมินอาการทางประสาท

โดย chutikan_o

15 ก.ย. 2565

29 views

ตำรวจยังคุมตัว จ่าสิบเอกคลั่งที่ก่อเหตุยิงเพื่อนร่วมงานดับ 2 ศพ บาดเจ็บ 1 คน สอบปากคำเครียดอยู่ที่ สน.ดุสิต หลังเมื่อวานนี้เจ้าตัวยังให้การวกวน และจะไม่คุยกับคนอื่น ยกเว้นคุยผ่านลูกชายเท่านั้น


ความคืบหน้ากรณี จ่าสิบเอก ยงยุทธ มังกรกิม อายุ 58 ปี เป็นเสมียนกองธุรการ วิทยาลัยกองทัพบก ใช้ปืนพกประจำกายกราดยิงเพื่อนในที่ทำงาน ภายในกองธุรการ วิทยาลัยกองทัพบก ทำให้จ่าสิบเอก นพรัตน์ อินทสุนทร อายุ 58 ปี ซึ่งกำลังนั่งทำงานอยู่ภายในห้องถูกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคาร จ่าสิบเอก ประการ สินส่ง อายุ 46 ปี กำลังสูบบุหรี่อยู่ที่ระเบียงชั้น 2 ถูกยิงเข้าที่หลังและศีรษะ และจ่าสิบเอก ยงยุทธ์ ปัญญานุวัฒน์ ถูกยิงเข้าที่แขนได้รับบาดเจ็บ


ก่อนจะเดินออกมาด้านนอกกรมยุทธศึกษาทหารบก ถนนเทอดดำริ แล้วถูกตำรวจ สน.ดุสิตปิดล้อมก่อนจะเจรจาเพื่อให้ยอมมอบตัว จากนั้นถูกนำตัวไปสอบสวนอยู่ที่สน.ดุสิตตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ (14ก.ย.)


จากนั้นราวบ่ายโมงครึ่ง ลูกชายของ จ่าสิบเอกยงยุทธนำแฟ้มเอกสารซึ่งหน้าแฟ้มระบุว่า ตารางหมอนัด วิ่งลงจากแท็กซี่ขึ้นไปยังบริเวณชั้น 3 ของ สน. อย่างเร่งรีบ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ซึ่งทีมข่าวสังเกตว่า จะมีตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นายทหารพระธรรมนูญ และทหารที่อยู่ในเหตุการณ์เดินเข้าออกกันตลอดช่วงบ่าย แต่ไม่มีใครให้รายละเอียด


กระทั่ง 4 โมงครึ่ง พลตรี บุรินทร์ ทองประไพ ผู้อำนวยการสำนักพระธรรมนูญทหารบก เปิดเผยหลังสอบปากคำ จ่าสิบเอก ยงยุทธ ว่า สาเหตุที่จ่าสิบเอกยงยุทธ ลงมือ เป็นเพราะอาการป่วยทางสมองที่ขาดยา และน้อยใจในการทำงาน เช่น ขอคอกกั้นเวลานั่งทำงานแล้วไม่ได้


ประกอบกับผู้ก่อเหตุเคยประสบอุบัติเหตุจนต้องผ่าตัดสมองตั้งแต่ปี 2550 จากนั้นก็เริ่มมีอารมณ์แปรปรวน ทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว แต่ไม่เคยมีปัญหากับคนในที่ทำงาน ซึ่งช่วงเกิดเหตุ จ่าสิบเอก ยงยุทธ มาถึงก็เดินเข้าไปในตึกแล้วไล่ยิงทุกคนที่เจอ ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ


ส่วนปืน จ่าสิบเอกยงยุทธ ครอบครองมานานแล้ว แต่จริงๆ แล้วการทำงานที่นี่ไม่จำเป็นต้องพกปืน


ขณะที่วันนี้ตำรวจ สน.ดุสิต คุมตัว จ่าสิบเอก ยงยุทธ ออกไปข้างนอกราวครึ่งชั่วโมงก่อนจะกลับมา แต่ไม่ยอมเปิดเผยว่านำตัวไปที่ไหน จากนั้นคุมตัวเข้าห้องควบคุม ซึ่งทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม พันตำรวจเอก อาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับการ สน.ดุสิต บอกว่า ในวันนี้ยังไม่มีกำหนดเคลื่อนย้ายตัวนำ จ่าสิบเอก ยงยุทธ ส่งฝากขังศาลทหาร


พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาติดตามความคืบหน้าที่ สน.ดุสิต บอกว่า จนถึงขณะนี้ผู้ต้องหายังคงให้การสับสน ทำให้การสอบสวนไม่คืบหน้า แต่ครอบครัวผู้ก่อเหตุนำประวัติการรักษาตัวของผู้ต้องหาเกี่ยวกับระบบประสาท เมื่อปี 2559 เข้ามายื่นให้พนักงานสอบสวน


ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการประสานแพทย์เจ้าของไข้ผู้ก่อเหตุเพื่อขอข้อมูลและส่งตัวผู้ต้องหาตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานในคดีนี้ไปแล้ว 10 ปากและยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ เพราะผู้ต้องหายังไม่อยู่ในสภาพที่จะแจ้งข้อหาได้


แต่จากพฤติกรรมที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ก็เข้าข่ายความผิดหลักๆ 4 ข้อคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมือง หรือ ทางสาธารณะ


ขณะที่เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ครอบครัวของ จ่าสิบเอก นพรัตน์ อินทรสุนทร อายุ 58 ปี เสมียนวิทยาลัยการทัพบก ที่ถูกยิงที่ห้องทำงานชั้น 3 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เข้ามาติดต่อรับศพแล้ว และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลที่วัดแก้วจุฬามณี แยกเกียกกาย และจะมีพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนนี้


พี่สาวของจ่าสิบเอก นพรัตน์ ให้ข้อมูลกับทีมขาวว่า จ่าสิบเอก นพรัตน์ เตรียมติดยศ ร้อยตรี ในเดือนตุลาคมนี้ และวางแผนจะไปสร้างบ้านพักอยู่หลังเกษียณที่จังหวัดอ่างทอง เนื่องจากจะเกษียณอายุราชการในอีก 2 ปีข้างหน้า และเพิ่งจัดงานแต่งงานให้ลูกสาวและกำลังจะมีหลาน แต่ต้องมาจบชีวิตแบบนี้ทางญาติจึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


คุณอาจสนใจ

Related News