อาชญากรรม

คุมตัวจ่าคลั่งกราดยิงเพื่อนร่วมงาน 2 ศพ รอสอบ-จนท.ประสานแพทย์ผู้ก่อเหตุตรวจสอบข้อมูลเพิ่ม

โดย kanyapak_w

15 ก.ย. 2565

132 views

บรรยากาศที่ สน.ดุสิต ในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้สื่อมวลชนข้ามแนวสะพานข้ามคลองไปภายในพื้นที่ สน.ดุสิต หลังมีการคุมตัว จ่าสิบเอก ยงยุทธ มังกรกิม ตำแหน่งเสมียน วิทยาลัยการทัพบก ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกยิงใส่เพื่อนทหาร ทั้งสิ้น 3 ราย ส่งผลให้มีผู้ เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งสิ้นสองรายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหนึ่งรายเป็นข้าราชการทหาร ร่วมสังกัดเดียวกับผู้ก่อเหตุทั้งหมด และเจ้าหน้าที่มีการคุมตัวมาไว้ที่ สน. ดุสิตตั้งแต่ช่วงบ่ายของวานนี้



ก่อนที่ในเวลาต่อมาเวลาประมาณ 09:00 น. ทีมข่าวที่สังเกตอยู่บริเวณด้านหน้าฝั่งตรงข้ามสน. ดุสิตสังเกตุพบ ว่ามีการคุมตัวจ่าสิบเอกยงยุทธ ออกจากห้องขังลงมาขึ้นรถคุมขังและมีการขับออกจากสน. ไปก่อนที่จะใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงมีการวนรถกลับมาและคุมตัวจ่ายยงยุทธกลับคืนสู่ห้องขังตามปกติ โดยที่มีการเปิดเผยข้อมูลใดใดจากเจ้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในพื้นที่สานุศิษย์รวมถึงทีมข่าวได้พยายามโทรสอบถามพันตำรวจเอกอาคม ชุมพรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ก็ระบุว่าในวันนี้ยังไม่มีกำหนดเคลื่อนย้ายตัวนำส่งฝากขังศาลทหารแต่อย่างใดส่วนที่มีการเคลื่อนตัวออกจากสน. ไปยังไม่ทราบรายละเอียดว่าพนักงานสอบสวนดำเนินการสิ่งใด เพราะยังไม่มีรายงานกลับขึ้นมา



ในเวลาต่อมาเวลาประมาณ 10:00 น. พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าที่ สน. ดุสิต โดยให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนภายหลังเข้าไปตรวจสอบความคืบหน้าว่า จากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้ตัวผู้ต้องหายังคงให้การสับสน ยังไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้การสอบสวนขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า แต่ทราบว่าทางครอบครัวผู้ก่อเหตุมีการนำเอกสารการรักษาตัวของผู้ต้องหาเกี่ยวกับระบบประสาท เมื่อปี 2559 เข้ามายื่นให้พนักงานสอบสวน ประกอบสำนวน ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างการประสานแพทย์เจ้าของไข้ผู้ก่อเหตุเพื่อจะดำเนินการขอข้อมูลและส่งตัวผู้ต้องหาตรวจสอบอีกครั้ง



ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอการตอบกลับ ซึ่งพนักงานสอบสวนมีเวลาในการดำเนินการ ภายใน 48 ชั่วโมงหากครบกำหนดระยะเวลาจะต้องคุมตัวส่งฝากขังต่อศาลทหาร ในส่วนของความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้มีการสอบปากคำพยานในคดีนี้ไปแล้ว 10 ปาก ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใดๆเพราะผู้ต้องหายังไม่อยู่ในสภาพที่จะแจ้งข้อหาได้ แต่จากพฤติกรรมที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ ก็เข้าข่ายความผิดหลักๆ 4 ข้อคือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , พยายามฆ่าผู้อื่น ,พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมือง หรือ ทางสาธารณะ



แต่เบื้องต้นจะต้องรอการประเมิณอาการทางประสาทจากแพทย์ผู้รักษาก่อน ส่วนที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีการคุมตัวผู้ต้องหาออกไปและกลับเข้ามา ตนเองยังไม่ได้รับรายงานจึงไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวน มีการคุมตัวออกไปทำสิ่งใด ในช่วงเวลา 20 นาที ที่ออกจาก สน.ไป



ขณะที่ในส่วนของยุทธวิธีที่ตำรวจใช้ในการเข้าเจรจาและระงับเหตุเมื่อวานนี้ ถือเป็นยุทธวิธีปกติ ที่ตำรวจต้องสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ ให้ได้ เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน เช่นการประเมินผู้ก่อเหตุ และการปิดกั้นถนนโดยรอบจุดเกิดเหตุ และเริ่มเข้าเจรจา



คุณอาจสนใจ

Related News