พ่ออยากให้ลูกถูก “ประหาร” หลังบุกแทงอดีตภรรยาดับคาห้องพักครู เสียใจหลานต้องกำพร้าแม่

สลด! สามีหลอนตามง้อขอคืนดีภรรยาในห้องพักครูที่โรงเรียน แต่ภรรยาไม่ใจอ่อน คว้ามีดแทงเสียชีวิตต่อหน้านักเรียน ทำลูกน้อย 2 คน ต้องกำพร้าแม่ ด้านพ่อผู้ก่อเหตุ พร้อมรับดูแลหลานทั้ง 2 คน เผยลูกมีนิสัยโมโหร้าย เตือนลูกสะใภ้แล้ว ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นนี้ อยากให้ลูกถูกประหาร

กล้องวงจรปิดในโรงเรียนที่เกิดเหตุ จับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ เริ่มจากนายวรพงษ์ หรือ จัมโบ้ อายุ 26 ปี เดินเข้ามาในโรงเรียน โดยมี รปภ.พาเข้ามา และพาขึ้นไปที่ห้องพักครูชั้น 2 ซึ่ง น.ส.อังคณา หรือ ครูกุ๊ก อายุ 29 ปี นั่งพักอยู่

เมื่อจัมโบ้เดินเข้าห้องไป ทาง รปภ.ก็มองดูความเรียบร้อย จากนั้นก็เดินลงอาคารเรียน ผ่านไปเพียง 2 นาที ก็เห็นเพื่อนครูวิ่งออกจากห้องพักครู แตกฮือไปคนละทาง จากนั้น 1 นาที ผู้ก่อเหตุเดินทางออกจากห้องพักครูอย่างใจเย็น ขณะที่นักเรียนที่เห็นเหตุการณ์พากันวิ่งหนีด้วยความตกใจ

ส่วนผู้ก่อเหตุได้เดินไปที่ระเบียงเพื่อหาทางหนี แต่จู่ ๆ ก็ตัดสินใจกระโดดจากระเบียงชั้น 2 ลงมาด้านล่าง ทำให้ขาหัก ไม่สามารถหนีต่อไปได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเที่ยงของเมื่อวาน ในโรงเรียนแห่งหนึ่งที่อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ตำรวจ สภ.ปราสาท เข้าไปตรวจสอบที่ห้องพักครูชั้น 2 พบร่างครูกุ๊กนอนจมกองเลือด สภาพศพถูกแทงด้วยของมีคมที่กกหูข้างซ้าย เป็นแผลฉกรรจ์ ทั้งลึกและยาวถึง 10 เซนติเมตร

ส่วนนายจัมโบ้ หลังก่อเหตุกระโดดหนีจากอาคารเรียน ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวาหัก กู้ภัยนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลปราสาท เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า เมาสุรา และพยายามตามง้อขอคืนดีกับภรรยาแต่ไม่สำเร็จจึงก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทั้งสอง มีลูกด้วยกันแล้ว 2 คน ประกอบด้วย เด็กหญิงวัย 3 ขวบ และเด็กชายวัย 1 ขวบครึ่ง

พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน เผยว่า คนร้ายเป็นสามีของครู มาจอดรถทางเข้าที่ป้อมยามหน้าโรงเรียน แล้วถามตนว่าครูกุ๊กอยู่ไหม ตนจึงพาขึ้นไปหา โดยมีครูนั่งกินข้าวอยู่หน้าห้อง 2 คน ส่วนครูกุ๊กอยู่ในห้อง จากนั้นไม่นานมีครูตะโกนเรียกตนให้ไปตรวจสอบ พอคนร้ายเห็นตนจึงกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2

ด้านนายกิตติคม เพื่อนครูที่โรงเรียน เล่าว่า ตอนเกิดเหตุนั่งทำงานกันอยู่ เห็น รปภ.พาผู้ก่อเหตุมาหาครูกุ๊ก โดยคุยกันอยู่สักพักแล้วก็มีปากเสียงกัน หันมาอีกทีเห็นผู้ชายชักมีดออกมา และแทงเข้าไปที่น้องผู้หญิง ซึ่งตนก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเค้ามีอาวุธ จึงรีบไปแจ้งให้รอง ผอ.มาดูเหตุการณ์

พอขึ้นมาอีกทีก็เห็นครูกุ๊กนอนอยู่ตรงพื้น ต่อมาจึงทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นสามีของน้องผู้เสียชีวิต เพิ่งหย่ากันได้ประมาณสองอาทิตย์ มีลูกด้วยกัน 2 คน ตัวเล็ก ๆ อยู่เลย ผู้ชายจะตามมาง้อขอคืนดี แต่ฝ่ายหญิงคงไม่ยอมคืนดีด้วย

ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุ พบนายบุญศรี อายุ 73 ปี พ่อของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า เสียใจมากที่สุดในชีวิต ต้องเสียลูกสะใภ้ไปโดยที่หลาน 2 คน ยังเด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ตนและภรรยาคงต้องรับดูแลต่อ แม้จะมีเงินเก็บอยู่ไม่มาก ลูกชายของตนชอบหึงหวง ใจร้อน เป็นคนอารมณ์ร้อนตั้งแต่เด็ก โตมาก็ทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ขนาดมีครอบครัวก็ยังไม่แก้ไข ยังไถเงินเมียวันละ 200 บาท

ก่อนเกิดเหตุลูกชายยังพูดขู่จะฆ่าให้หมดทั้งบ้าน แม่จึงนำมีดไปซ่อน ต่อมาลูกชายมากราบเท้าและขอโทษ คิดว่าลูกกลับใจแล้ว แต่ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุจัมโบ้มาพูดคล้ายกับว่าจะไปทำร้ายลูกสะใภ้ ตนเองก็พยายามห้าม แต่จัมโบ้ไม่ฟัง แถมยังฝากดูแลลูกด้วย แล้วออกจากบ้านไป

ตนเองก็รีบโทรศัพท์ไปบอกลูกสะใภ้ให้หาที่ป้องกัน หรือแจ้งตำรวจมาคุ้มกัน แต่ลูกสะใภ้ชะล่าใจ บอกว่าไม่เป็นไร เขาคงไม่กล้าทำ จากนั้นไม่นาน ก็ได้ข่าวว่าลูกชายแทงลูกสะใภ้เสียชีวิต ตนเองอยากให้ลูกชายถูกประหารชีวิต เพราะที่ผ่านชอบตบตีภรรยา และเคยทำร้ายพ่อ

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านงานศพครูกุ๊ก ที่บ้านกันจาน ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท พบว่า มีเพื่อนครู นักเรียน และญาติ ๆ มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีศึกษาธิการจังหวัด มาวางหรีดหน้าศพไว้อาลัย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด ได้มาที่งานพร้อมแจ้งสิทธิ์ในการเรียกร้องผลประโยชน์ให้กับแม่ผู้เสียชีวิตทราบ ซึ่งจะได้รับเงินเยียวยาประมาณ 110,000 บาท

ด้านนางชลิดา อายุ 53 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า เสียใจที่ต้องเสียลูกสาวไป สงสารหลาน 2 คน ที่เหมือนกับต้องมาเสียทั้งพ่อทั้งแม่ไป ลูกสาวเพิ่งเลิกกับลูกเขยได้ 2 เดือน ก็กลับอยู่บ้าน ส่วนหลาน 2 คน ไป ๆ มา ๆ แต่ส่วนใหญ่ปู่กับย่าจะเป็นคนดูแล

เคยเห็นลูกสาวกับลูกเขยมาทะเลาะกันที่บ้านหลายครั้ง ที่เลิกเพราะลูกสาวทนไม่ไหว จึงตัดเด็ดขาด ฝ่ายชายก็มาง้อหลายรอบ ขู่ทำร้ายลูกสาวก็หลายครั้ง แต่ก็ไม่คิดว่า จะถึงกับฆ่าแกงกันจริง ๆ