อาชญากรรม
ตร.ปูพรมล่า! 'หวัง' มือฆ่าสามี-ภรรยาที่ไต้หวัน เชื่อยังอยู่ในไทย เตือนใครช่วยมีโทษ
14 มิ.ย. 2565
93 views
ตำรวจขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับนาย 'หวัง' ในคดีฆ่าสองสามีภรรยาคนไทยที่ไต้หวัน แล้วหนีมากบดานในไทย เชื่อยังคงหลบหนีในประเทศ ยันหากพบมีใครให้การช่วยเหลือต้องถูกดำเนินคดีด้วย
จากคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ หลังนายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน หรือ นายหวัง ก่อเหตุฆาตกรรม นายประเสริฐ หรือ มาร์ค และ นางสาวพจนนี หรือ ล่ามมี่ สองสามีภรรยาชาวไทย โดยที่ล่ามมี่ ตั้งครรภ์ลูกแฝด อายุครรภ์ 5 เดือน
จากนั้นได้นำศพใส่รถบีเอ็มดับบลิว แล้วนำรถไปจอดที่ลานจอดรถ หน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน โดยเหตุนี้เกิดขึ้นช่วงกลางคืนของวันที่ 8 มิถุนายน ก่อนจะตำรวจจะมาพบศพในวันที่ 10 มิถุนายน
ส่วนนายหวัง ได้หลบหนีออกจากไต้หวัน มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน จากนั้นได้มุ่งหน้าไปที่บ้านเกิดในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และตอนนี้อยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งตำรวจกองปราบปรามอยู่ระหว่างไล่ล่าตัว
พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้กองปราบปราม ได้รับทำคดีนี้แล้ว หลังเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ได้ประชุมกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมตัวนายหวัง
อีกทั้งตำรวจกองปราบปรามได้ลงพื้นที่ ไปสอบปากคำพ่อของนายมาร์ค ที่จังหวัดอุบลราชธานี และ ครอบครัวของนายมาร์ค ได้ร้องขอให้ตำรวจกองปราบปรามดำเนินการจับกุมตัวนายหวัง
โดยวันนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้เตรียมเพื่อจะขออนุมัติศาลอาญารัชดา ออกหมายจับนายหวัง ในข้อหาฆ่าผู้อื่น ส่วนการติดตามตัวนายหวัง ชุดจับกุมได้ลงพื้นที่ปูพรมในจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งในอำเภอสันทราย อำเภอไชยปราการ และพื้นที่ใกล้เคียง แต่ยังไม่พบตัว
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายหวัง อาจหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ข้อมูลด้านการข่าวยังไม่ยืนยัน แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายหวังยังคงกบดานอยู่ในประเทศ ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำงานเพียงแค่จับกุมตัวนายหวังเท่านั้น แต่ยังสืบสวนหาตัวผู้ให้การช่วยเหลือนายหวัง ทั้งพาหลบหนี หรือ ให้ที่พักพิงด้วย ซึ่งหากพบว่ามีใครให้การช่วยเหลือนายหวัง จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน
สำหรับเส้นทางการหลบหนีของนายหวัง หลังจากก่อเหตุฆาตกรรมนายมาร์ค และ ล่ามมี่แล้ว พบว่า นายหวังได้นั่งเครื่องบินจากไต้หวันเวลาประมาณ 10 นาฬิกา 30 นาที วันที่ 9 มิถุนายน มาถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา ประมาณ 13 นาฬิกา 40 นาที
จากนั้นนั่งเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่สนามบินเชียงใหม่ เวลาประมาณ 18 นาฬิกา แล้วเดินทางด้วยรถรับจ้างสาธารณะ เข้ามาบ้านที่ อำเภอสันทราย จากนั้นก็มีรถ SUV มารับจากบ้านที่อำเภอสันทราย ไปยัง บ้านแม่ของนายสันติ ที่อยู่ในพื้นที่ บ้านใหม่หนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอไชยปราการ ในคืนเดียวกัน
ซึ่งมีพยานยืนยันว่าเห็นนายหวังอยู่ในพื้นที่อำเภอไชยปราการ จึงได้แจ้งเบาะแสกับพี่ชายของล่ามมี่ ก่อนที่นายหวังจะหลบหนีออกนอกประเทศ
ขณะที่พี่ชายของล่ามมี่ เชื่อว่า มูลเหตุที่นายหวังลงมือฆาตกรรมน้องสาวและน้องเขย มาจากปัญหาเรื่องเงิน เพราะก่อนหน้านี้ น้องสาวโทรมาเล่าว่า นายหวังถูกแรงงานชาวไทยขโมยเงิน 8 แสนบาท และทองหนัก 15 บาท ซึ่งตนได้โต้แย้งไปว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่เชื่อว่านายหวังมีปัญหาเรื่องการทำธุรกิจกับน้องสาวตน
รองศาสตราจารย์พันตำรวจโทดอกเตอร์ กฤษณพงค์ พูตระกูล ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า มูลเหตุจูงใจสำคัญที่นายหวังก่อเหตุฆาตกรรมสองสามีภรรยา น่าจะมาจากเรื่องความขัดแยังทางธุรกิจที่ไม่ลงรอยกัน เพราะเมื่อมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องก็จะทำให้ปัจจัยในการก่อเหตุเพิ่มมากขึ้น
ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุแล้วเอาศพทิ้งไว้ท้ายรถ ส่วนตัวเชื่อว่าคงไม่ได้วางแผนมาก่อนเพราะการอำพรางศพไม่ได้ซับซ้อน เพราะหากวางแผนอาจจะเอาศพไปเผา หรือ ฝัง หรือ ชำแหละ เพื่ออำพรางศพ แต่กรณีคนร้ายเอาศพไว้ในรถซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด ซึ่งคนร้ายจะต้องรู้อยู่แล้วว่าตำรวจจะต้องมาเจอ แต่ก็ต้องใช้วิธีนี้เพื่อจะให้มีเวลาหลบหนี