ฝากขัง ‘หนุ่มคลั่ง’ อ้างไม่รู้ตัว ไล่กรีดเหยื่อเจ็บ 2 ราย ห้างดังยันคุมเข้มความปลอดภัย

เกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย เข้าไปในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ใช้มีดไล่แทงคนในห้างบาดเจ็บ 2 คน เจ้าตัวอ้างตกงาน ทำไปโดยไม่รู้ตัว ตำรวจเตรียมคุมตัวไปฝากขัง

วานนี้ (19 เม.ย 65) เกิดเหตุระทึกกลางกรุงเทพฯ ครั้งนี้เกิดขึ้นประมาณ 16.30 น. วานนี้ ที่ชั้น 2 ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด คนร้ายเป็นชายใช้มีดคัตเตอร์วิ่งเข้ามาในห้าง ก่อนจะใช้มีดในมือ ไล่ทำร้ายผู้หญิงที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ 1 คน จากนั้นก็วิ่งมาทำร้ายผู้หญิงอีกคนที่ยืนอยู่ใกล้บันไดเลื่อนชั้น 2 ใกล้กับร้านขายเสื้อ หลังจากนั้นชายที่ก่อเหตุวิ่งหลบหนีไป

จากนั้นตำรวจ สน.ปทุมวัน เข้าผู้ก่อเหตุได้ ชื่อ นาย ธนาพร อายุ 23 ปี เป็นชาวจังหวัดลพบุรี เบื้องต้นพูดจาไม่รู้เรื่อง ให้การวกวน ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด

พันตำรวจเอก พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับ สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บมี 2 คน เป็นหญิงวัย 27 ปี 1 คน เป็นพนักงานของร้านขายเสื้อผ้า ถูกทำร้ายระหว่างเดินออกจากห้องน้ำ จะกลับเข้าไปในร้าน แต่เจอคนร้ายเข้ามาประชิดตัวด้านหลังแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วใช้มีดคัตเตอร์กรีดที่ใบหน้าด้านซ้าย เป็นแผลฉกรรจ์

ผู้บาดเจ็บตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แล้ววิ่งเข้าไปหลบในร้านขายเสื้อผ้า ระหว่างนั้น มีผู้หญิงอีกคน อายุประมาณ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าของห้าง เดินผ่านจุดเกิดเหตุพอดี คนร้ายก็ปรี่เข้าไปประชิดตัว แล้วใช้คัตเตอร์เล่มเดียวกัน กรีดเข้าที่ท้ายทอย จากนั้นคนร้ายก็วิ่งหลบหนีอยู่ในบริเวณห้าง จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้

ผู้ต้องหาให้การว่า เคยเป็นช่างไฟฟ้าแต่ตกงาน กลายเป็นคนไร้บ้านต้องอาศัยนอนตามสะพานลอยแถวสนามหลวง ตอนที่เข้าไปในห้างเพื่อจะหางานทำ และขณะก่อเหตุไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป

เบื้องต้น แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และข้อหา พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะ วันนี้ (20 เม.ย.) จะคุมตัวฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

ซึ่งเมื่อวานนี้ในห้างเดียวกัน ช่วงที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่นักร้องดัง แบมแบม อยู่ในห้างบริเวณชั้น 6 ด้วย ส่วนเหตุเกิดนั้น อยู่ที่ชั้น 2

ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ทีมรักษาความปลอดภัยของศูนย์การค้าได้เข้าระงับเหตุและควบคุมตัวชายที่ก่อเหตุได้ภายใน 5 นาที และส่งผู้บาดเจ็บ 2 คน ส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที

ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของห้าง ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ทางห้างมีการตรวจสอบอาวุธหรือวัตถุอันตรายก่อนเข้ามาในห้างอยู่แล้ว แต่อาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดคัตเตอร์ เครื่องสแกนจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ หลังจากนี้จะปรับปรุงระบบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก

ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นหน้าห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุ พบกับประชาชนที่มาใช้บริการ บอกว่า ทำงานอยู่ใกล้กับห้างแห่งนี้ มักจะมากินข้าวซื้อของในห้างเป็นประจำ พอทราบเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็รู้สึกว่าน่าตกใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีข่าวคนพกอาวุธเข้าไปปล้นร้านทองหลายข่าวแล้ว อยากให้ผู้ประกอบการ ตำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่านี้ และมีมาตรการที่จะรับรองได้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า

ขณะที่พนักงานขายของภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ยอมรับว่า กังวลเพราะมาตรการคัดกรองความปลอดภัยยังไม่รัดกุมมากพอ ทำให้ลูกค้าเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายได้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งในฐานะพนักงานขายของ ก็กังวลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำให้ลูกค้าไม่กล้ามาเดินในห้าง ส่งผลกระทบต่อยอดขายด้วย

หลังมีข่าวออกไป มีหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินทางมาขอพบผู้ต้องหา บอกว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่อยากมาเยี่ยมให้กำลังใจ เพื่อที่เขาจะได้มีกำลังใจในการสู้ชีวิตต่อไป เพราะชีวิตเขาน่าสงสารต้องตกงาน และกินนอนข้างถนน อาจจะทำให้เกิดความเครียดและก่อเหตุขึ้น

ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าพบผู้ต้องหาที่ สน.ปทุมวัน พร้อมบอกว่าผู้ต้องหายังไม่มีรายชื่ออยู่ในระบบของคนไร้บ้าน หลังจากนี้จะประสานงานขอข้อมูลจากพนักงานสอบสวนเพื่อบันทึกเอาไว้ในระบบ และต้องให้ผู้ต้องหาเสร็จสิ้นกระบวนการรับโทษในคดีความก่อน และหากพบว่ามีอาการป่วยทางจิต ก็ต้องส่งไปรักษาในเบื้องต้นก่อน จากนั้นจะเข้าช่วยเหลือหาที่อยู่ให้ต่อไป