อาชญากรรม
ย้อนคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ มหากาพย์วางยา 14 ศพ สู่โทษ ‘ประหารชีวิต’
โดย JitrarutP
20 พ.ย. 2567
825 views
ย้อนคดี “แอม ไซยาไนด์” มหากาพย์คดีสะเทือนขวัญระดับประเทศ ใช้ “ไซยาไนด์” วางยาเหยื่อ จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย เกี่ยวโยง “วงแชร์มรณะ” ตำรวจสอบปากคำพยานกว่า 900 ปาก สู่โทษ “ประหารชีวิต”
จุดเริ่มต้นของคดีนี้เริ่มจากการหายตัวไปของ “ก้อย” น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ ชาว จ. กาญจนบุรี ที่หายตัวไปอย่างปริศนาเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2566 ครอบครัวได้พยายามติดต่อทุกช่องทาง จนพบว่าก้อยเสียชีวิตที่แพปลาท่าน้ำแห่งหนึ่ง ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และพบว่าทรัพย์สินของก้อยหายไป ประกอบด้วย รถยนต์ 1 คัน, กระเป๋าแบรนด์เนมราคา 4 หมื่นบาท, โทรศัพท์ 2 เครื่อง ของก้อยหายไป
เมื่อตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ที่อยู่กับก้อยเป็นคนสุดท้ายคือ “แอม” แต่เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้ ไม่เห็น ขณะที่ครอบครัวของก้อยเชื่อว่าผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตเองตามธรรมชาติ
หลังจากนั้นครอบครัวของก้อยได้ติดต่อไปยัง นายรพี ชำนาญเรือ เพื่อขอความช่วยเหลือตามหาฆาตรกรตัวจริง และได้มีการตามไปเจอรถของก้อยที่จอดทิ้งไว้หน้าบ้านตำรวจนายหนึ่ง เมื่อหลักฐานปรากฏชัด “แอม” ได้ติดต่อมายอมรับว่าได้ไปที่ท่าน้ำกับก้อยจริง แต่อ้างว่าไม่กล้าบอกเพราะก้อยให้พาไปหาผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนทรัพย์สินของก้อยพบว่าถูกทิ้งอยู่ในถังขยะ
ต่อมา วันที่ 18 เม.ย. 2566 “แอม” ถูกตำรวจ สภ.บ้านโป่ง แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐานลักทรัพย์ฯ แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธ และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนในโลกออนไลน์ได้มีการขุดคุ้ยภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า “แอม” ได้เข้าไปซื้อน้ำในร้านสะดวกซื้อเพื่อนำมาให้ก้อย จนถูกต้องข้อสงสัยว่ามีการวางยาในน้ำหรือไม่
รุ่งขึ้น “ครอบครัวของก้อย” ได้นำหลักฐานเข้าร้องเรียนตำรวจกองปราบฯ ขณะเดียวกันก็มีญาติของผู้เสียชีวิตรายอื่นที่รู้จักกับแอมมาเข้าให้ปากคำด้วย เพราะเชื่อว่าการตายนั้นอาจเชื่อมโยงกับ “แอม”
วันที่ 25 เม.ย 2566 ตำรวจได้เข้าจับกุม“แอม” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขณะที่ “ทนายพัช - ธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์” ทนายความของแอม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมมั่นใจว่าสามารถสู้คดีได้แน่นอน
“เรื่องนี้สนุก อยากบอกกับสังคม การไปไหนมาไหนทุกวันนี้ก็ต้องระวัง อย่ารับของคนแปลกหน้า อย่าไปกับคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งคนสนิท คุณเริ่มระแวงหรือไม่ ระแวงนะ ทุกวันนี้ก็ไม่กล้ารับน้ำใคร”
ขณะเดียวกันตำรวจได้มีการขยายผล ผู้เสียชีวิตอีก 13 ราย ที่เชื่อมโยงกับ “แอม” ดังนี้
- 1. น.ส.มณฑาทิพย์ ชาวกำแพงเพชร เสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2558 เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ โดยมี “แอม” เป็นคนขับรถไปรับที่สนามบิน ข้อมูลพบว่าถูกแอมยืมเงินและไม่คืน หลังเสียชีวิตแอมเข้ามาจัดการมรดก นำทรัพย์สินไปหลายรายการ
- 2. น.ส.นิตยา อายุ 36 ปี หัวใจวายเสียชีวิตวันที่ 22 ส.ค. 2563 ที่บ้านพัก จ.นครปฐม พบว่าสนิทกับแอม และมีการกู้ยืมเงินทำธุรกิจวงแชร์ร่วมกัน และแอมอยู่กับผู้ตายในคืนสุดท้าย
- 3.น.ส.ดาริณี เทพหวี หรือ ฟ้า อายุ 34 ปี จากไปด้วยสาเหตุกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2563 มีทรัพย์สินสูญหาย 60,000 บาท ก่อนตายแอมชวนไปกินข้าวมันไก่ และเสียชีวิตที่บ้านพักใน จ.นครปฐม ***ผลนิติเวชพบสารไซยาไนด์ในเลือด***
- 4.นายสุรัตน์ อายุ 35 ปี (เพื่อนสนิทแอมสมัยมัธยา) เสียชีวิตด้วยสาเหตุหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่บ้านพักในพื้นที่ ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ช่วงเสียชีวิตพบเงินจากบัญชีธนาคารถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของแอมเป็นเงิน 60,000 บาท
- 5. ร.ต.อ.หญิง กานดา หรือ ผู้กองนุ้ย อายุ 36 ระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่บริเวณหน้าห้างโกลบอล จ.นครปฐม และพบว่าผู้ตายได้ร่วม “วงแชร์มรณะ” กับแอม ชวนทำธุรกิจหลายอย่าง ทั้งปล่อยเงินกู้ ขายทองแบบผ่อนให้ตำรวจ
- 6. น.ส.รสจินทร์ หรือ เจ๊น้อยขายผัก เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร ด้วยสาเหตุเลือดเป็นกรด และพบว่า ได้ร่วมวงแชร์มรณะกับแอมจำนวน 100,000 บาท
- 7. นางจันทร์รัตน์ วงศ์ไกรสิณ หรือจุ๋ม อายุ 43 ปี หัวใจล้มเหลว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 ส.ค.2565 ที่บ้านพัก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พบว่ารู้จักกับแอมจากเพื่อนที่เป็นตัวแทนขายประกัน โอนเงินให้แอม 70,000 บาท ลงทุนปล่อยเงินกู้ + 26,800 บาท ลงทุนขายของ
- 8. นางมณีรัตน์ หรือ ครูต่าย เส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2565 ที่ตลาดบน-ตลาดล่าง พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม ก่อนเสียชีวิตแอมได้โทรศัพท์ และมานัดเจอกับครูต่าย แอมยอมรับกับลูกครูต่าย ว่าเจอกันจริง
- 9. น.ส.กะณิกา อายุ 44 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่ปั๊ม ปตท. บริเวณวงเวียน โพธาราม จังหวัดราชบุรี ด้วยสาเหตุหลอดเลือดในสมอง ในช่วงเสียชีวิตเงินในบัญชีธนาคารถูกถอนออกไป 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำสูญหายไปอีกอย่างละเส้น
- 10. น.ส.ผุสดี หรือ ครูอ๊อด อายุ 39 ปี เสียชีวิต 20 พ.ย. 2565 ในบ้านพัก ตำบลลำบัว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ด้วยสาเหตุมะเร็งเม็ดเลือด มีภาวะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว พบว่า ครูอ๊อดร่วมวงแชร์มรณะกับแอม จำนวน 100,000 บาท
- 11. นายสุทธิศักดิ์ พูนขวัญ หรือ แด้ (สามีใหม่ พ่อเด็กในท้องแอม) อายุ 35 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะ เหตุเกิดวันที่ 12 มี.ค.2566 ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี (วันเสียชีวิต แอมยังจัดปาร์ตี้วันเกิด) ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำและสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนักรวม 8 บาท พระเครื่องมูลค่า 100,000 บาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
- 12. พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ อายุ 38 ปี สาเหตุการตายระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 ที่บ้านเลขที่ 196 ถนนเทศา ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยทรัพย์สินที่สูญหายประกอบด้วยเงินสด 10,000 บาท และเงินในบัญชีธนาคารที่ถูกถอนออกไป 140,000 บาท
- 13. น.ส.สาวิตรี หรือ หนิม อายุ 40 ปี (สารวัตปู) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้แอมหลักแสนบาท ระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว ผู้เสียชีวิตในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร หลังกินยาลดความอ้วนตามที่แอมชวนกิน พบว่าก่อนตายแอมชวนไปไหว้พระที่พระปฐมเจดีย์ ทรัพย์สินที่สูญหาย เงินสด 10,000 บาท และเงินจากบัญชีธนาคารที่ถูกถอนออกไปจำนวน 140,000 บาท ***ผลนิติเวชพบสารไซยาไนด์ในเลือด***
ซึ่งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงสรุปคดีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเจ้าหนี้ 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัดโดยคดีแรกเกิดในปี 2558 ต่อเนื่องปี 2566 มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย
โดยใช้เวลารวมรวมพยานหลักฐานกว่า 3 เดือน จึงได้มีการสรุปสำนวนดำเนินคดีแอม ไซยาไนด์ รวม 15 คดี ประกอบด้วย ความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น, ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ, ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้, การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอม และใช้เอกสารปลอมฯ รวมกว่า 75 ข้อหา สอบปากคำพยานอื่นๆ ทั้งหมดกว่า 900 ปาก มีเอกสารเกี่ยวกับคดีถึง 26,500 แผ่น
ล่าสุดวันนี้ 20 พ.ย. 67 ศาลอาญาพิพากษา “ประหารชีวิต” แอม ไซยาไนด์ขณะที่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 40 ปี อดีตสามีของแอม และอดีตรองผกก.สภ.สวนผึ้ง ที่มีประเด็นได้นำหลักฐานสำคัญซึ่งเป็นกระเป๋าของกลางไปให้กับแอม เอารถยนต์ของแด้ (ผู้ตาย) ไปจำนำ ร่วมกันกับแอมปลอมเอกสารราชการ ถูกตัดสินคุก 1 ปี 4 เดือน ส่วน “ทนายพัช” ถูกดำเนินคดีเนื่องจากให้คำแนะนำเรื่องการปกปิดซ่อนเร้นหลักฐาน
นอกจากนี้มีการเปิดเผยด้วยว่า มีการซ่อนเร้นหลักฐาน โดย “แอม” ได้ส่งกระเป๋าของก้อยไปให้เพื่อนสนิทของแอมเพื่ออำพรางคดี และเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำตามคำแนะนำของ “ทนายพัช”