บุกจับร้านนวด จ.ขอนแก่น แฝงค้ากามหนุ่มลาววัย 17 พบโบรชัวร์รูปผู้ชาย-ไซส์ถุงยาง พร้อมบริการลูกค้า

บุกจับร้านนวด จ.ขอนแก่น แฝงค้าบริการหนุ่มลาววัย 17 พบโบรชัวร์รูปผู้ชาย 20 ราย พร้อมไซส์ถุงยาง ให้ลูกค้าเลือกซื้อบริการ เตรียมขยายผลออกหมายเรียกเจ้าของร้าน



พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น,แรงงานจังหวัด,พม.ขอนแก่น,กอ.รมน.ขก. เข้าทำการตรวจค้นร้านนวด ตั้งอยู่เลขที่ 410/1 ม.12 ซอยบ้านกอก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังได้รับการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมว่า มีแรงงานต่างด้าวมาประกอบอาชีพและขายบริการที่ร้านนวด



และได้จับกุม นายณัฐริกา เชื้อเมืองพาน อายุ 25 ปี ผู้ดูแลร้าน พร้อมของกลาง ธนบัตรไทยฉบับละ 500 บาท จํานวน 1 ฉบับ ธนบัตรไทยฉบับละ 100 บาท จำนวน 11 ฉบับ ขวดน้ำมันนวดจำนวน 1 ขวด ถุงยางแกะแล้ว 2 ชิ้น ถุงยางยังไม่แกะ 1 ชิ้น สมุดบัญชีรายรับ-รายจ่ายของร้าน และลงเวลาการทำงาน เอกสารการใช้บริการ จำนวนครั้งของเหยื่อ สำเนาธนบัตรลง ปจว. ใช้ในการล่อซื้อ เอกสารการแชทของสายลับ ก่อนเข้าจับกุม



โดยก่อนการจับกุมนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้สายลับเข้าไปตรวจสอบที่ร้าน 2 วัน ว่าเปิดทำการเวลาใด ทราบว่า เปิดทำการตั้งแต่เวลา 10.00 น.ถึงเวลา 24.00 น.ของทุก ๆ วัน จึงได้ประชุมวางแผนให้สายเข้าไปซื้อบริการชายในร้านดังกล่าว ซึ่งพบนายณัฐริกา ผู้จัดการร้านนั่งอยู่ที่เคาเตอร์รอให้บริการ ได้นำโบร์ชัวร์รูปผู้ชายที่ให้บริการด้านการนวด และขายบริการทางเพศแบบชายรักชายให้สายลับดู



ซึ่งชายที่ขายบริการทางเพศนั้น จะมีรายละเอียดบอกสัดส่วนส่วนสูง บอกอายุ และบอกขนาดถุงยางอนามัยที่ต้องใช้ชัดเจน โดยในอัลบั้มที่นำมาให้ลูกค้าดูนั้นมีชายขายบริการอยู่ร่วม 20 ราย เมื่อสายลับเลือกตัวผู้ชายที่จะมาให้บริการได้แล้ว ผู้ดูแลร้านจะใช้แอปพลิเคชันไลน์เรียกชายที่ขายบริการมาให้บริการที่ร้าน และขึ้นไปที่ห้องหมายเลข 5 ชั้น 2 จากนั้นสายลับจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าเข้ามาได้



เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปภายในร้านดังกล่าว และเมื่อขึ้นไปยังห้องหมายเลข 5 ชั้นที่ 2 ของร้าน ก็พบผู้ชายทั้งสองคนแก้ผ้าอยู่บนเตียงภายในห้อง และพบชายผู้ให้บริการอายุ 17 ปี ยอมรับว่า เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติลาว และพบอุปกรณ์การมีเพศสัมพันธ์ในกล่องไม้ พบขวดน้ำมันนวด 1 ขวด ถุงยางอนามัยแกะแล้ว 2 ชิ้น ถุงยางอนามัยยังไม่แกะ 2 ชิ้น เจลชนิดซอง 3 อัน กระดาษทิชชู 1 ม้วน ไฟแช็ค 1 อัน พบอยู่บนเตียงนอน



เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถาม นายเอ (นมสมมติ) อายุ 17 ปี สัญชาติลาว ซึ่งเป็นชายผู้ให้บริการ ยอมว่า เข้ามาภายในราชอานาจักร โดยมีพาสสปอร์ตที่ถูกต้อง เพื่อมาหางานทำ แต่มีเพื่อนแนะนำให้มาทำงานที่ร้านนวด โดยมาขายบริการแบบชายรักชาย ได้รับเงินครั้งละ 1,600 บาท จากนั้นจึงนำเงินที่ได้รับค่าตัวจากสายลับมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู ตรงกับธนบัตรที่เจ้าหน้าที่ถ่ายเอกสารต้นฉบับเอาไว้ และยอมรับว่า ได้ขายบริการที่ร้านนวดแห่งนี้มานานกว่าหนึ่งเดือน โดยได้รับเงินส่วนแบ่งครั้งละ 950 บาท ส่วนผู้จัดหาให้จะได้จำนวน 650 บาท



จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายณัฐริกา เชื้อเมืองพาน อายุ 25 ปี ผู้ดูแลร้าน พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดีในข้อหาจัดการหรือผู้ดูแลร้านนั้น ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินคดีใน 6 ข้อหา กระทำความผิดฐานค้านค้ามนุษย์ โดยกระทำแก่บุคคลกว่า 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี และเป็นธุระจัดหาล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นจะได้ทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม, ร่วมเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ,ร่วมเป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี ผู้ดูแล หรือผู้จัดการกิจการการค้าประเวณีหรือสถานการค้าประเวณี หรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณีในสถานการค้าประเวณี, ร่วมช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น, รับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีของผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณีและร่วมกันรับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือให้คนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนด



ต่อมาเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดขอนแก่น พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการนำกำลังบุกทลายร้านนวดสปา ในครั้งนี้ว่า หลังให้สายลับเข้าตรวจสอบ 2 วันรับรายงานว่ามีสาวประเภทสองเป็นผู้ดูแลร้าน และมีการบริการนวดแผนไทย ควบคู่กับการขายบริการแบบชายรักชายจริง จึงประชุมวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สายลับเข้าไปล่อซื้อชายที่ขายบริการที่น้านนวดสปาดังกล่าว จนเมื่อซื้อบริการได้สำเร็จและสายลับส่งสัญญาณมาบอกให้เข้าไปในร้าน จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบด้านในก็พบสายลับกับชายวัยรุ่นชาวลาวที่เป็นผู้ขายบริการ แก้ผ้าอยู่ในห้องหมายเลข 5 ชั้นที่ 2 ของร้าน



จากการสอบสวนชายชาวลาววัย 17 ปี ยอมรับว่าเข้ามาทางสะพานข้ามลำนำโขง เพื่อมาหางานทำ และก็มีเพื่อนที่ขายบริการแบบชายรักชาย แนะนำให้มาทำงานขายบริการที่ร้านนวดแห่งนี้ โดยจะมีการคิดค่าบริการใน 2 แบบคือแบบให้บริการที่ร้านคิดราคาชั่วโมงละ 1,600 บาท หากออกไปให้บริการนอกสถานที่จะคิดค่าบริการชั่วโมงละ 2,000 บาท



นอกจากนี้ยังพบว่าในอัลบั้มที่ทางผู้ดูแลร้านเอามาให้ผู้มาใช้บริการดูและเลือกใช้บริการชายในรูปนั้น มีเกือบ 20 คน อายุ 18-25 ปี และเป็นชายชาวลาวทั้งหมด และตำรวจจะต้องสืบสวนขยายผลจับกุมชายที่ขายบริการแบบชายรักชายที่มีอายุมากว่า 18 ปี ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ส่วนคนที่อายุ 17 ปีนั้น ยังถือว่าเป็นเหยื่อของการค้าบริการและในทางการสืบสวน ทราบว่า ร้านนวดนั้น มีเจ้าของอยู่ในกรุงเทพฯ และมีสาขาในจังหวัดอุดรธานี



ซึ่งเมื่อชุดจับกุม จับกุมตัวผู้ดูแลร้านแล้วนั้น พนักงานสอบสวนก็จะต้องขยายผลต่อว่า เจ้าของร้านคือใคร และต้องออกหมายเรียก เรียกตัวมาสอบสวน ถึงการมีการขายบริการแบบชายรักชายในร้านนวดสปาครั้งนี้ และจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกันกับผู้ดูแลร้าน