ผบช.ภ.2 ยัน ตร.พ่อผู้ต้องหาเยาวชน ฆ่าป้าบัวผัน เป็นตำรวจน้ำดี

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภาค 2 ได้เปิดเผยว่าจากกรณี 5 เยาวชนทำร้ายป้าบัวผัน และได้มีนายเปี๊ยกซึ่งเป็นสามีและเป็นคนเร่ร่อนได้เข้ามารับสารภาพว่าเป็นคนใช้เก้าอี้ตีป้าบัวผันภรรยาจนเสียชีวิต และนำไปทิ้งน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ปักใจเชื่อได้มีการดูกล้องวงจรและนำกางเกงที่เปื้อน เลือดไปตรวจว่าตรงกันหรือไม่ แต่ผลการตรวจยังไม่ได้ออกมา จนมีการไล่กล้องวงจรปิดจับภาพว่ามีกลุ่มเยาวชนทั้ง 5 คน ร่วมกันฆ่าบัวผัน จึงทำการปล่อยตัวลุงเปี๊ยกไป

ส่วนที่ลุงเปี๊ยกทำการรับสารภาพไปนั้นคาดว่าลุงเปี๊ยก มีอาการติดสุราเรื้อรังขั้นรุนแรง เลยพูดไปเรื่อยเปื่อย ตอนนี้ได้อยู่ในการดูแลของญาติอย่างใกล้ชิด ไม่ได้อยู่ที่เซฟเฮาส์ตามที่เป็นข่าว ส่วนการย้ายพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นพ่อของเยาวชนได้มีการย้ายไปที่ ศปก.ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อไม่ให้มาเกี่ยวข้องกับคดี

ขอยืนยันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาไม่ได้เข้าข้างตำรวจด้วยกัน ส่วนเรื่องที่รีบนำตัวลุงเปี๊ยก ส่งเรือนจำนั้น เนื่องจากวันที่เกิดเรื่องก็นำลุงเปี๊ยก มาสอบสวนแล้วก็พบว่า ลุงเปี๊ยก เป็นคนที่ใกล้ชิดกับผู้ตายมากที่สุด และมักจะมีเรื่องทุบตีกันประจำ สอบสวนก็พูดจาสอดคล้องกับเหตุการณ์ โดยวันที่จับกุมลุงเปี๊ยก เป็นวันศุกร์ ตามกฎหมายสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 48 ชั่วโมง วันเสาร์ศาลก็เปิดแค่ครึ่งวัน ทางพนักงานสอบสวนหลังจากนำลุงเปี๊ยก ไปทำแผน ก็ต้องรีบส่งตัวเข้าเรือนจำ เพราะหากไม่นำส่ง หากนำส่งใวันจันทร์ ก็จะเกินระยะเวลา 48 ชั่วโมงที่ทางพนักงานสอบสวนต้องควบคุม ไม่มีมีอะไรตามที่มีกระแสข่าวว่าทำไมตำรวจถึงรีบนำตัวลุงเปี๊ยก ทำแผนและรีบส่งเข้าเรือนจำ

ส่วนพ่อของเยาวชน ที่เป็นรองสารวัตรสอบสวนนั้น ก็ไม่รู้เรื่องที่ลูกตัวเองไปก่อเหตุ และจากการตรวจสอบประวัติก็พบว่าเป็นตำรวจน้ำดี ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่มีประวัติเสื่อมเสียแต่อย่างใด ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของลูกชายหรือพยายามช่วยเหลือแต่อย่าง และไม่มีตำรวจคนใดได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือตามที่สังคมเข้าใจ เบื้องต้นก็ได้ให้ทาง พล.ต.ต มานะ อินทรพืทักษ์ รองผู้บัญชาการภาค 2 ไปดูแลด้านการสอบสวนอย่างใกล้ชิดโดยให้รายงานภายใน 7 วัน