อาชญากรรม

เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิง ‘ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด’ รวบคนวางแผน บุกทลายแหล่งมั่วสุมเด็กช่าง

โดย chutikan_o

22 พ.ย. 2566

719 views

ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิง ‘ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด’ รวบคนวางแผน บุกทลายแหล่งมั่วสุมเด็กช่าง

จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 2 คนใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ศิรดา อายุ 45 ปี หรือ ครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และนายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถึงแก่ความตาย บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.


พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงมาควบคุมโดยเรียกระดมกำลังเร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้และให้ทำแบบขุดรากถอนโคน และสั่งมอบดาบให้กับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. คุมบังเหียนชุดสืบสวนเอง โดยหยิบมือดีจากทั่วนครบาลลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับ พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 เจ้าของพื้นที่ เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด



จากการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล จนพบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน อีกทั้งคนร้ายได้ลักแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น เพื่อใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น และเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน พร้อมทั้งเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือ ผู้การจ๋อจึงได้จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี พร้อมเอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเพื่อเชื่อมโยงพบมีลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน และตระเตรียมจุดที่ลงมือ จนพบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มคู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮ้าส์อีก 4 แห่ง วงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม



เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ในจุดที่ 1 ตำรวจได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 8 ราย ได้แก่ 1.นายพฤฒิพล ราชญาณ หรือ เอย อายุ 22 ปี 2.นายวรงชัย กัณฑ์ศรี อายุ 20 ปี 3.นายวุฒิพงษ์ ผลคำ อายุ 25 ปี 4.นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์ อายุ 24 ปี 5.นายสหัสวรรษ ภักดีนอก อายุ 23 ปี 6.นายจิรายุส สุวรรณศุภ อายุ 23 ปี 7.นายธนากร พันทองคำ อายุ 22 ปี 8.นายอภิเดช นาคประกอบ อายุ 21 ปี พร้อมยึดของกลาง ซึ่งมีระเบิดปิงปอง  จำนวน 2 ลูกด้วย



ข้อกล่าวหาแต่ละคนนั้น ผู้ต้องหาที่ 1 แจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร, ร่วมกันยิงปืน (ซึ่งใช้ดินระเบิด) โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 กล่าวหา ข้อหาร่วมกัน สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 และกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3-8 ว่าร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือซ่องโจร



นายพฤฒิพล ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายอีกคน (จับได้แล้ว) ยิงก่อเหตุกราดยิงใส่นักศึกษาช่างกลอุเทนถวายที่บริเวณหน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 ที่ผ่านมาและเป็นคนเดียวที่ยังหลบหนีอยู่ หลังรวบตัวหัวโจกได้ และจากการสืบสวนได้เป็นผู้ช่วยวางแผน และช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยมีหน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงิน



ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่หน้าตึก 5 เคหะเอื้อาทรบางบัวทอง ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง นนทบุรี ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 2บ้านเลขที่ 46/1 หมู่ 5 ต. ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาที่ 3-8 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 3-8 บ้านเลขที่ 22/1 ซ.วงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ



พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจที่ผ่านมา กล่าวได้เลยว่ามีการพัฒนาจนเกินกว่าองค์กรอาชญากรรมไปแล้ว มันไม่ใช้แค่ขี่รถมาก่อเหตุ มันมีการวางแผนกันเป็น 10 คน ยิ่งกว่าในภาพยนตร์ มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เห็นจะเลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความก็จะตามพรรคพวกมานั่งแห่ฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก มันไม่ใช่เรื่องที่เราในสังคมจะมองข้ามกันได้แล้ว เพราะมันลุกลามบานปลายมาจนมีผู้บริสุทธิ์ต้องมาเผชิญชะตากรรมเลวร้ายจากกลุ่มบุคคลนี้

คุณอาจสนใจ