อาชญากรรม

รวบแล้ว! เขยโหดรวมหัวเมีย แทงแม่ศพยัดโอ่ง อ้างบันดาลโทสะ ถูกด่าขอแต่เงินไม่ยอมทำงาน

โดย nicharee_m

10 ต.ค. 2566

424 views

ตำรวจสอบสวนกลาง รวบสอง ผัว-เมีย “ทรพี” ใช้มีดแทงแม่กว่า 13 แผล นำศพยัดโอ่งอำพรางคดี

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป., เจ้าพนักงานตำรวจ กก.ต่อต้านการก่อการร้าย.บก.ปฏิบัติการ​พิเศษ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บรบือ จว.มหาสารคาม ร่วมกันจับกุม

นายชลนทีฯ หรือสิน อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ. 343/2566 ลง 6 ต.ค.66 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

น.ส.ธาราทิพย์ฯ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ. 344/2566 ลง 6 ต.ค.66 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และฆ่าผู้บุพการี สถานที่จับกุม บริเวณภายในสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่ง ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน  จังหวัดนครปฐม

พฤติการณ์ สืบเนื่องเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลา 20.00 น. พนักงานสอบสวน สภ.บรบือ ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิง สภาพศพนอนหงายอยู่ในโอ่งแดงข้างบ้าน หมู่ 8 ตำบลยาง อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีน้ำแค่ก้นโอ่ง สวมกางเกงขาสั้น เสื้อยืด มือเท้าหงิกงอ ทราบชื่อนางสุวรรณฯ อายุ 54 ปี จากการชันสูตรศพของแพทย์เวรในที่เกิดเหตุ พบถูกแทงด้วยของมีคมตามลำตัว 13 แผล โดยเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง

จากการซักถามปากคำพยานในที่เกิดเหตุเผยว่าก่อนพบศพผู้ตายเห็นนายชลนทีฯ หรือสิน ลูกเขย และ นางสาวธาราทิพย์ฯ ลูกสาวผู้ตาย อยู่ในห้องนอน เมื่อถามว่า นางสุวรรณฯ ไปไหน ก็บอกว่าไปเก็บเห็ดที่โคกแต่เช้ายังไม่กลับมา จากนั้นทั้งคู่ก็ลุกลี้ลุกลนหอบลูกวัย 3 เดือน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปก่อนที่จะพบศพ

พนักงานสอบสวน สภ.บรบือ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ามีเหตุอันน่าเชื่อว่า นายชลนทีฯ และ นางสาวธาราทิพย์ฯ เป็นผู้ก่อเหตุ จึงได้ขออนุมัติศาลจังหวัดมหาสารคามออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ. 343/2566 ลง 6 ต.ค.66 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย” และที่ จ. 344/2566 ลง 6 ต.ค. 66 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และฆ่าผู้บุพการี” ตามลำดับ

ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม และสถานีตำรวจภูธรบรบือ ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่าทั้ง 2 ราย ได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda wave110i สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีมาจากบ้านเกิดเหตุที่จังหวัดมหาสารคาม โดยหลบหนีมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องไปยังจังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิมของ นายชลนทีฯ และนำลูกวัย 3 เดือน ของตนมาฝากไว้กับ นางสาวราตรีฯ น้าสาว ก่อนจะหลบหนีต่อไปยังจังหวัดเพชรบุรี

จึงได้วางแผนและเดินทางไปเฝ้ารอสังเกตการณ์อยู่ในพื้นที่ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ใกล้บ้านน้าสาว ในวันที่ 9 ตุลาคม 2566 เมื่อถึงเวลาประมาณ 20.00 น. ได้พบผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อยู่บริเวณภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. สาขากำแพงแสน ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแสดงตนเข้าจับกุม และได้แสดงหมายจับให้ ดูและอ่านให้ฟัง

โดยรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นจึงแจ้งให้ทราบว่า จะต้องถูกจับกุมในข้อหาดังกล่าวข้างต้นพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ เมื่อเข้าใจรายละเอียดแห่งการจับกุมตลอดสิทธิดังกล่าวดีแล้ว จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบรบือ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

​จากการซักถามปากคำผู้ต้องหาขณะจับกุมให้การว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุเกิดจากการทะเลาะกันระหว่าง นายชลนทีฯ ลูกเขย และ นางสุวรรณฯ ผู้ตาย เหตุเพราะ นายชลนทีฯ ไม่ยอมทำงาน และขอเงิน นางสุวรรณฯ อยู่เป็นประจำ จึงถูกนางสุวรรณฯ ตำหนิ จนเกิดบันดาลโทสะ วางแผนร่วมกันกับ นางสาวธาราทิพย์ฯ ก่อเหตุในครั้งนี้



คุณอาจสนใจ

Related News