ชาวบ้านผวา! โจรบุกขึ้นบ้าน 3 หลังในคืนเดียว ซ้ำทำร้ายยายวัย 70 เจ็บสาหัส

วันที่ 20 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวลงไปยังพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล หลังมีเหตุการณ์ขโมยขึ้นงัดบ้านเรือนชาวบ้าน 3 หลัง ในคืนเดียวกัน แถมยังทำร้ายนางรอมีอ๊ะ อายุ70ปี เจ้าของบ้านบาดเจ็บสาหัส โดยจุดแรกเป็นบ้านไม่มีเลขที่ ที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ชาวบ้านสร้างแบบทำไปอยู่ไป มีแค่ห้องนอน1ห้อง และลานห้องครัวด้านหน้า

จากการตรวจสอบพบคราบเลือดหยดอยู่บนที่นอนและพื้นในห้องเป็นจำนวนมาก สอบถามไปยังนางสาวซอฟีย๊ะ ลูกสาวนางรอมีอ๊ะ เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านแม่ของตนที่โดนคนร้ายใช้สากทุบจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดั้งจมูกหัก ข้อมือด้านซ้ายและนิ้วก้อยหัก ศีรษะเหนือคิ้วมีแผลเย็บ 12 เข็ม เปลือกปากด้านในฉีกขาด กลางศีรษะมีบาดแผลเย็บและบวมปูด หน้าอกมีร่องรอยฝกช้ำ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลละงู

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 00.40 น. หลานสาวอายุ 15 ปี ที่นอนอยู่กับแม่โทรมาบอกว่ายายโดนตี ตนกับสามีจึงรีบขับรถออกจากบ้านมาดู มาถึงที่เกิดเหตุเห็นแม่นั่งเลือดอาบเต็มหน้า เลือดไหลไม่หยุด จึงได้พาแม่ไปส่งยังรพ.สต. ต่อมาก็ส่งรักษาต่อโรงพยาบาลละงู เนื่องจากอาการสาหัส จากที่ตนสอบถามแม่ เล่าว่า ขณะที่นอนหลับอยู่กับหลานสาวอีก 2 คน คนโตอายุ 15 ปี คนเล็ก อายุ 7 ปี คนร้ายก็ใช้สากกะเบือทุบเข้าที่ศีรษะของตนแล้วกระหน่ำทุบซ้ำหลายทีเหมือนจะเอาชีวิต ตนยกมือกันคนร้ายก็ยังกระหน่ำทุบจนล้มลงนอนคนร้ายจึงวิ่งออกไป


นางสาวซอฟีย๊ะ เล่าว่า ในขณะที่ตนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ที่รพ.สต.เมื่อรถพยาบาลนำส่งแม่ไปรพ.ละงู ตนเองจึงกลับมาบ้านจะมาเตรียมเงินเพื่อตามแม่ไปรพ. เมื่อกลับมาถึงบ้านสังเกตว่าประตูในห้องนอนเปิดอ้าผิดปกติ และตนเองหยิบกระเป๋าเงินที่แอบไว้ใต้ที่นอนพบเงิน300บาท ในกระเป๋าหายไป และสังเกตมีร่องรอยการรื้อค้นที่ตู้เสื้อผ้า กระปุกออมสินของลูกที่ไม่มีเงินตกลงมาอยู่ข้างล่าง จึงมั่นใจว่าคนร้ายต้องมาตอนที่ตนออกจากบ้านไปหาแม่ เพราะด้วยความที่เร่งรีบและเป็นห่วงแม่จึงไม่ได้ล็อกประตูบ้านแต่อย่างไร

ต่อมาบ้านหลังที่ 3 โดนคนร้ายบุก อยู่ตรงข้ามกับรพ.สต.บ้านบ่อเจ็ดลูก และห่างจากจุดเกิดเหตุหลังแรกเพียงประมาณ 400 เมตร แต่อยู่คนละฝั่งถนนกับหลังที่ 2 โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นร้านขายน้ำมัน เป็นบ้านของนางสาวคอดีเย๊าะ โดยเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลา ตี 1 ของเมื่อคืน วันที่ 19 กันยายน 2566 ตนได้ทราบว่านางรอมีอ๊ะถูกทำร้าย ตนเองกับสามีจึงรีบวิ่งไปดูที่รพ.สต. ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านโดยที่ไม่ได้ล๊อกบ้านไว้ เมื่อกลับมาถึงบ้านอีกทีตอนประมาณตี 2 ก็เข้ากลับมาบ้านสังเกตผิดปกติ ตะกร้าเงินที่วางไว้ย้ายที่จึงได้เปิดดูก็ได้รู้ว่าเงินค่าขายน้ำมันทั้งแบงค์100และแบงค์ย่อยรวมถึงเหรียญโดนคนร้ายเอาไปหมด ตรวจสอบความเสียหายเพิ่มเติมพบน้ำมันเบนซินในแกลลอน 10 ลิตรที่มีอยู่เต็มแกลลอนหายไปด้วย จึงมั่นใจว่าคนร้ายคงจะเข้ามาตอนที่ตนอยู่ที่รพ.สต.แน่นอน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

ด้านนายกาศลูกชายผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าคนร้ายกระทำการอุกอาจและเลวร้ายมากเนื่องจากทำร้ายคนแก่เหมือนจะเอาชีวิต และเป็นเหตุการณ์แรกที่หนัก ซึ่งที่ผ่านมา เหตุลักเล็กขโมยน้อยในหมู่บ้านเกิดขึ้นบ่อยมาก ขโมยทุกอย่างของชาวบ้าน แบตเตอรีเรือประมง เครื่องมือประมง แม้แต่เหล็กเส้นเส้นเดียวมันก็เอา ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมานานร่วมปี เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านต่างผวา และเป็นห่วงลูกหลานรวมถึงผู้สูงอายุ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพประมงต้องออกทะเลดึกดื่น บางคนก็ต้องทิ้งลูกให้อยู่กับคนแก่ที่บ้านจึงหวั่นเรื่องความปลอดภัยกลัวเกิดเหตุซ้ำ

จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาดูแลโดยเฉพาะในเรื่องยาเสพติดที่ทุกวันนี้มีเกลื่อนหมู่บ้าน และให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้ก่อนที่จะกลับมาก่อเหตุซ้ำ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ชาวบ้านคาดว่าเป็นการวางแผนล่อเสือออกจากถ้ำ เพราะจากที่สังเกตบ้านที่โดนคนร้ายบุกทั้ง 2 หลังไม่มีคนอยู่ เพราะกำลังชุลมุนกับคนเจ็บทำให้คนร้ายเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินได้อย่างง่ายดาย และคาดว่าคนร้ายน่าจะมีมากกว่า 2 คน

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สภ.ละงูพร้อมด้วยชุดพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เก็บดีเอ็นเอรอยนิ้วมือแฝงและไล่กล้องวงจรปิดเพื่อตามตัวคนร้ายมาลงโทษต่อไป