หนุ่มสุดทน ตามยิงหนุ่มใหญ่ดับกลางถนน หลังลวนลาม-ทำร้าย ญาติสาวในงานศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลาประมาณ  23.15  น.วันที่  6  พฤษภาคม  2566 ที่ผ่านมา  ร.ต.อ.สุนทร  ยิ่งคง  ร้อยเวรสอบสวน สภ.ป่าบอน  จ.พัทลุง  รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนในหมู่บ้านสามชาย ตรงบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ริมถนนสายวัดเป่าบอนบน-บ้านโหนด หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงค์ ผกก.สืบสวนตำรวจภูธรพัทลุง พ.ต.ท.พงษ์สนั่น โภชากร รอง ผกก.สภ.ป่าบอน พ.ต.ท.สมชาย ช่วยบำรุง รอง ผกก สภ.ป่าบอน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง และอาสาสมัครกู้ภัยพัทลุง



ในที่เกิดเหตุบนถนนตรงบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว  เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพนายครรชิต  สุวรรณคีรี  อายุ 45  ปี นอนเสียชีวิตในลักษณะนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา  สวมกางเกงขาสั้นสีดำ  สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดลูกโม่เข้าที่บริเวณแผ่นหลัง  1  นัด  ศีรษะบริเวณท้ายทอย  3 นัด  รวม  4  นัด  ใกล้กันประมาณ  5  เมตร  ตำรวจพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวป จอดล้มอยู่บนถนนสายดังกล่าว โดยในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด



จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า  ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้แสดงกริยาไม่ดี ขณะร่วมงานศพบริเวณภายในวัดป่าบอนบน ได้กอดละเมิดโดยการกอดเอวนางอารีย์ นาคประพันธ์ อายุ 37 ปี ที่เป็นสาวหม้าย แต่นางอารีย์ ขัดขืน ทำให้ผู้ตายไม่พอใจ ต่อยทางอารีย์จนตาบวม ก่อนผลักจนล้มแล้วแตะซ้ำ จนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เข้าห้ามปราม ก่อนผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากวัดไป  



ต่อมานางอารีย์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ป่าบอนว่าถูกนายครรชิต ทำร้ายร่างกาย ก่อนพนักงานสอบสวนได้ให้ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ป่าบอน และขณะเดียวกัน นายครรชิตหลังจากได้ขับรถออกจากวัด ไม่นานก็ขับกลับมาวนเวียนในวัดอีกครั้ง ก่อนที่จะขับออกมา

โดยมีนายเคียม อายุ 35 ปี ไม่ทราบชื่อจริง ซึ่งเป็นญาติผู้น้องของนางอารีย์ เห็น จึงได้ขับรถตามหลังมาก่อนจ่อยิงจนล้มลงแล้วตามไปยิงซ้ำ จนเสียชีวิต และก็ได้หลบเข้าไปในบ้านบอกพ่อกับแม่ว่า ผมยิงนายครรชิต ตายแล้ว ก่อนโทรเพื่อนให้มารับแล้วหลบหนีไป



ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามพ่อผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อคือนาย เจริญศักดิ์ หนูเหมือน บอกว่าลูกชายเป็นคนก่อเหตุยิงนายครรชิตจริง เนื่องจากสุดทนกับพฤติกรรมชอบระรานคนอื่น โดยเฉพาะครอบครัวของตนเอง ซึ่งชาวบ้านรู้ดี ก่อนเจ้าหน้าตำรวจนำตัวไปสอบปากค่ำเพิ่มเติม ที่ สภ.ป่าบอน ก่อนไปตรวจยึดอาวุธปืนขนาด .357 มม. และอาวุธปืนลูกซองยังบ้านผู้ก่อเหตุ มาตรวจเก็บเขม่าดินปืน



ขณะที่แม่ของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่าผู้ตายนิสัยไม่ดีทำให้ลูกชายของตนเองสุดทนเลยก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากผู้ตายได้กอดเอวนางอารีย์เพื่อการอนาจารแต่นางอารีย์ขัดขืนจนถูกต่อยและแตะต่อหน้าผู้คน โดนนายครรชิตนิสัยก้าวร้าว บอกว่ากูไม่กลัวใคร ขนาดตำรวจก็ไม่กล้าจับกู ซึ่งทุกครั้งที่มีงานศพภายในวัดนายครรชิตชอบยักไฮโล เสียแต่ไม่ยอมจ่าย จนเจ้ามือหลายคนเอือมระอา ครั้งนี้ก็เช่นกันแต่นายครรชิตไม่ทันจะเล่นลวนลามนางอารีย์เสียก่อน



ในเบื้องต้นสำหรับผู้ก่อเหตุนั้นญาติได้บอกต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพามามอบตัวในวันนี้ 7 พค.66