พ่อแม่ใจสลาย ฝากลุงพิการแขนลีบดูแลลูกสาววัย 11 ปี กลับบุกไปขืนใจในห้อง

พ่อแม่ไปทำงาน ฝากลูกสาววัย 11 ให้ลุงพิการแขนลีบที่เป็นเพื่อนบ้านช่วยดูแล สุดท้ายกลับบุกขืนใจถึงในห้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 4 ก.พ. 66 นางสาวเยาะ พาเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) ลูกสาว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในซอยท่าอิฐ เดินทางมาที่โรงพยาบาลชลประทานปากเกร็ดถนนติวานนท์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ให้แพทย์ตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการถูกข่มขืนตามหนังสือส่งตัวของพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ที่ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัว บังวัน หรือ ลุงวัน อายุ 65 ปี ชายพิการแขนลีบ ที่ก่อเหตุข่มขืนน้องเอ

เหตุเกิดเมื่อเวลา 4.00 น. ของวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะพ่อแม่ของเด็กหญิงเอ ออกไปทำงานแต่เช้ามืด โดยฝากลุงวันให้ช่วยสอดส่องดูแลลูกสาว กับน้องชายที่ยังเล็ก อีก 2 คน แต่ปรากฏว่าลุงวันกลับก่อเหตุบุกเข้าไปในห้องของเด็กหญิงเอ ก่อนจะใช้กำลังข่มขืน และยังไม่สำนึกผิด พยายามจะเข้ามาข่มขืนเด็กสาวอีกครั้งเมื่อช่วงเวลา 7.00 น.ของวันเดียวกัน

เด็กหญิงเอ กล่าวว่า หลังจากพ่อแม่ออกไปทำงาน ลุงวันได้เข้ามาใช้กำลังข่มขืน และสั่งห้ามไม่ให้ไปบอกใคร จนกระทั่งช่วงเช้าของอีกวัรพยายามจะเข้ามาถอดเสื้อผ้า พร้อมทั้งพูดว่าขออีกสัก 5 รอบ เป็นจังหวะที่น้องชายส่งเสียงร้องไห้ ทำให้ลุงวันตกใจรีบหนีออกจากห้องไปก่อน จนกระทั่งช่วงเวลา 21.00 น. พ่อแม่กลับจากทำงาน จึงได้ตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับพ่อแม่ฟัง ก่อนที่จะพากันเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางสาวเยาะ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลุงวันมีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านตัวเอง เธอและครอบครัวไว้ใจทุกครั้งที่เธอกับสามีออกไปทำงาน ก็จะฝากเพื่อนบ้าน รวมทั้งลุงวันให้ช่วยกันสอดส่องดูแลลูกสาวกับน้องๆ ที่ยังเล็ก ไม่คิดว่าจะเป็นการฝากปลาย่างไว้กับแมว มาถูกบังวันที่ไว้เนื้อเชื่อใจเข้ามาก่อเหตุใช้กำลังข่มขืนลูกสาวเพียงคนเดียว รู้สึกโกรธและเสียใจมากที่เขามาทำแบบนี้ ยืนยันจะดำเนินคดีถึงที่สุด เขาพิการแขนลีบ อีกทั้งยังมีอายุมากแล้วไม่คิดว่าจะกล้าทำได้ขนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดคดีและช่วยติดตามจับกุมตัวบังวันมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย