อาชญากรรม

เดนคุกเมาหนักจะแทงพ่อ อส.เข้าห้าม กลับถูกแทงดับ พลิกประวัติ เคยฆ่ามาแล้ว 2 ศพ

โดย thichaphat_d

10 ม.ค. 2566

299 views

หนุ่มเดนคุกเมาหนัก! พ้นโทษไม่ถึงปี นั่งดื่มเหล้าขาวร้านชำ เมาได้ที่หาเรื่องเจ้าของร้านทะเลาะกันน่วมอาบเลือด บก่อนไม่พอใจพ่อบังเกิดเกล้า เข้าห้ามปรามและเคลียร์ปัญหาให้ พยายามใช้มีดแทงพ่อ ก่อนที่ อส.จะเข้าห้าม กลับถูกแทงเสียเอง รีบคว้าปืนประจำกายยิงสวน ทำมือมีดเจ็บ ส่วนตัวเองถูกแทงดับ พลิกแฟ้มสยองเคยฆ่ามาแล้ว 2 ศพตั้งแต่เป็นเยาวชน


เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 65 ร.ต.อ.เดชา รามจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.หาดสำราญ ได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาท ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำ หมู่ 9 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง บริเวณริมถนนทางเข้าศูนย์ราชการ อ.หาดสำราญ ห่างกับ สภ.หาดสำราญเพียงแค่ 400 เมตร

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือลำเลียงผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บส่ง รพ.หาดสำราญ เพื่อพยายามยื้อชีวิต ตรวจสอบบนพื้นดิน พื้นปูน รวมทั้งบนเก้าอี้ หน้าร้านค้าดังกล่าว พบกองเลือดจำนวนมากเจิ่งนองอยู่ ส่วนผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายเขียน จันฝาก อายุ 57 ปี เป็นสมาชิกอาสารักษาดินแดน หรือ อส. อำเภอหาดสำราญ ถูกแทงด้วยอาวุธมีดพกเข้าที่เหนือสีข้างขวา 1 แผล ไหล่ขวา 1 แผล หูซ้ายติ่งหูขาด 1 แผล และหลังใบหูซ้ายอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 4 แผล



ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือย้อย อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุแทงนายเขียน ได้รับบาดเจ็บ มีอาการรู้สึกตัวดี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่เหนือสะบักหลังซ้ายกระสุนฝังใน 1 นัด และแฉลบเข้าที่หลังหูด้านซ้ายอีก 1 นัด บาดเจ็บรู้สึกตัว แต่ได้ถูกนำตัว ส่ง รพ.ตรัง เพื่อทำการช่วยเหลือเร่งด่วน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 1 รายคือ นายเหมือน คชเวช อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ ถูกกระแทกด้วยของแข็ง มีบาดแผลที่หน้าผาก และที่แขน

จากการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้น ทราบว่า เมื่อช่วงเที่ยงวัน มือมีดได้ดื่มเหล้าขาวมาจากที่อื่นก่อน แล้ว ขับรถ จยย. มานั่งดื่มเหล้าขาวต่อเพียงคนเดียวที่ร้านดังกล่าว แต่บังเอิญมาพบเจอคนรู้จัก ก็ได้นั่งร่วมวงด้วยกัน 2 คน ซึ่งทางมือมีดได้มานั่งที่ร้านค้าแห่งนี้เพียงครั้งแรก ด้วยอารมณ์เมาเต็มที่

ก่อนที่นายเหมือน (ผู้บาดเจ็บ) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านกลับมา จึงเห็นว่ามือมีดเมาหนัก พูดจาเสียงดังและเอะอะโวยวาย จึงได้ห้ามปรามให้เบาอารมณ์และเสียงลง ทำให้มือมีดไม่พอใจ เข้าไปกระชากนายเหมือนจากเปล และมีการต่อยและต่อสู้ฟัดเหวี่ยงกัน จนทำให้นายเหมือนบาดเจ็บ ส่วนมือมีดได้ไปชนเข้ากับเสา จนทำให้ศีรษะแตก และคิดว่าภรรยาของนายเหมือนเข้ามาตีศีรษะ จึงพยายามจะมีปัญหากับภรรยานายเหมือนอีกคน

จากนั้นนายเขียน (ผู้เสียชีวิต) พร้อมด้วยนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) และคนอื่นๆ เดินเข้ามาห้ามปราม จนมือมีดได้ออกกลับบ้านและไปยัง สภ.หาดสำราญ เพื่อขอแจ้งความ ส่วนนายเหมือน ก็ได้ไปแจ้งความด้วยเช่นกันที่ถูกทำร้าย แต่ปรากฏว่าทางตำรวจยังคงไม่แจ้งความ โดยหวังว่าทั้งคู่น่าจะเคลียร์กันได้ และทั้งคู่ได้แยกย้ายออกจากโรงพัก ก่อนที่นายเหมือนและภรรยาหวาดกลัวได้หนีออกไปจากร้าน



กระทั่งมืดมีดได้เข้ากลับมาที่ร้านอีกรอบ พร้อมกับถือขวานมาด้วย แต่ปรากฏว่านายเหมือนและภรรยาไม่อยู่แล้ว มีเพียงนายเขียน (ผู้เสียชีวิต) และนายสมพร (พ่อผู้ก่อเหตุ) นั่งอยู่เพื่อจะพูดคุยเคลียร์ปัญหาให้กับมือมีด ก่อนจะช่วยกันแย่งขวานออกมาจากมือได้ ทำให้มือมีดอาละวาดอย่างหนักทำลายข้าวของภายในร้าน

ซึ่งนายสมพร (ผู้เป็นพ่อ) ได้เข้าไปห้ามปราม แต่มืดมีดกลับไม่พอใจ และหาว่าพ่อจุ้นจ้าน พยายามใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวทำร้ายพ่อ ทำให้นายเขียน (ผู้เสียชีวิต) เข้าห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายพ่อ ก่อนที่มืดมีดจะแทงนายเขียน ส่วนนายเขียนได้ใช้อาวุธปืนประจำกายที่พกติดตัวยิงสวนเข้าไป ก่อนทั้งคู่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน จนเป็นเหตุให้นายเขียนเสียชีวิต

สอบถามนายอนันธวัฒน์ คชเวช อายุ 20 ปี ลูกชายเจ้าของร้าน เล่าว่า คนก่อเหตุพูดตอนที่ศีรษะแตกว่าไม่เคยมีใครทำให้หัวแตกมาก่อน และหากไม่ติดคุกบางขวางไม่ยอมแน่ครั้งนี้ โดยกลับไปๆมาๆบ้านและร้านค้าหลายรอบ

นายพัชรพล คล้ายผดุงศักดิ์ อายุ 18 ปี บุตรบุญธรรมผู้ตาย กล่าวว่า พ่อเป็นคนดีชอบช่วยเหลือสังคม พ่อเข้าไปห้ามปราม กลับมาถูกแทงเสียชีวิต รู้สึกเสียใจช่วยพ่อไม่ได้ หลังจากจบ ม.6 ก็จะไปสอบเรียนแพทย์ เพราะเห็นตอนพ่อกำลังจะสิ้นใจ อยากจะช่วยชีวิตคนอื่นให้ได้ ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุเองเคยฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ศพ พ้นโทษออกมาก็ยังไม่สำนึกยังมีนิสัยเดิมอยู่ ก็ก่อเหตุซ้ำอีก อยากให้กฎหมายมีความเข้มแข็งกว่านี้

จากการพลิกแฟ้มประวัติคดีอาญา พบว่านายยุทธนา เอ้งฉ้วน หรือย้อย ผู้ก่อเหตุ เมื่อครั้งยังเป็นเยาวชนเคยก่อเหตุและต้องคดีฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีดเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาในปี พ.ศ.2555 ได้ก่อเหตุต้องคดีฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าผู้อื่นด้วยอาวุธมีดมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 1 ราย จนกระทั่งถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ และพ้นโทษมาเมื่อปี 2565 โดยที่ยังไม่ทันได้ครบหนึ่งปีจนกระทั่งมาก่อเหตุสลดดังกล่าวเป็นศพที่ 3 ด้วยอาวุธมีดด้วยเช่นกัน





แท็กที่เกี่ยวข้อง  เดนคุก ,อส. ,ไล่แทง ,ตรัง

คุณอาจสนใจ

Related News