ผบก.น.2 เด้ง ผกก.โคกคราม เซ่นบ่อนอุ้มนักพนันรีดเงิน ตั้งกรรมการสอบ 5 เสือ

วันนี้ (29 ต.ค.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง กรณีที่เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้งเพจ “สายไหมต้องรอด”นำกลุ่มผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ว่าถูกคนคุมบ่อนพนันในซอยรามอินทรา 40 หรือถนนนวลจันทร์ ร่วมกันทำร้ายโดยใช้ถุงดำคลุมหัวซ้อมและข่มขู่รีดเงินไปกว่า 5 ล้านบาท โดยทางบ่อนอ้างว่ากลุ่มผู้เสียหายโกงพนันไพ่เสือมังกร จากนั้นยังข่มขู่ว่าหากแจ้งความจะตามไปฆ่าทิ้ง โดยทางกลุ่มผู้เสียหายยืนยันว่าบ่อนการพนันดังกล่าวเป็นบ่อนใหญ่ มีการเล่นพนันไพ่เสือมังกร บาคาร่า กำถั่ว หลายวง อยู่ในพื้นที่อาคารเดียวกัน ผู้คนเข้าไปเล่นจำนวนมากตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยหลังเกิดเหตุพวกตนได้เคยไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โคกครามแล้ว แต่ตำรวจกลับไม่ดำเนินการกับบ่อนการพนันดังกล่าว และดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายเพียงฐานทำให้ เสียทรัพย์ที่เป็นความผิดอันยอมความได้ ทั้งๆ ที่พฤติการณ์ของผู้กระทำผิดเข้าข่ายปล้นทรัพย์และพยายามฆ่า นอกจากนี้ยังยืนยันว่ามีนายตำรวจระดับสูงของสน.โคกคราม มาเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าของบ่อนกับผู้เสียหายอีกด้วย ซึ่งไม่ทราบว่ารู้เห็นเป็นใจกับบ่อนการพนันดังกล่าวอย่างไรหรือไม่

พล.ต.อ.วิสนุ  กล่าวว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยหลังจากทราบเรื่อง ตนก็ได้คุยกับ พล.ต.ท.ธิติ  แสงสว่าง ผบช.น.แล้ว เห็นตรงกันว่าต้องดำเนินการทั้งทางวินัยและทางปกครองกับผู้เกี่ยวข้องโดยเร็ว  ซี่งทาง ผบช.น.ก็ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงผู้เกี่ยวข้องเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางวินัยแล้ว และในระหว่างนี้ก็ให้ ปรับย้าย ผกก.สน.โคกคราม ที่รับผิดชอบพื้นที่ที่ถูกอ้างว่าเป็นบ่อนการพนันและเกิดเหตุรุมทำร้ายและข่มขู่เอาชีวิตผู้เสียหาย และถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายระหว่างคู่กรณี  ให้พ้นจากพื้นที่ก่อนจนกว่าผลการสอบสวนจะแล้วเสร็จ โดย ผบช.น.ได้สั่งการไปแล้วว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซี่งเมื่อดำเนินการเสร็จแล้วจะรายงานให้ตนทราบ โดยหากผลการสอบสวนพบว่ากระทำผิด จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ หรือหากมีมูลความผิดอาญาก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้ลงนามในคำสั่ง บก.น.2 ที่ 340/2565 ลงวันที่ 28 ต.ค.65 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง จากการพิจารณาพฤติการณ์และพยานหลักฐานในเบื้องต้นเห็นว่าเป็นกรณีมีมูลควรกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจผู้รับผิดชอบ ดังต่อไปนี้ 1.พ.ต.อ.ศรีสันต์ เฟืองสังข์ ผกก.สน.โคกคราม 2.พ.ต.ท.ยุทธนา จารุรัตน์ รอง ผกก.ป.สน.โคกคราม 3.พ.ต.ท.สยมภู กุลจิตติสิโรดม รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม 4.พ.ต.ต.กลยุทธ์ สอนทรัพย์ สว.สส.สน.โคกคราม 5.พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์  คชสิทธิ์ สวป.สน.โคกคราม 6.ร.ต.อ.ชนะชัย  พันธ์วิไล รอง สว.(สอบสวน)สน.โคกคราม อาจกระทำผิดวินัย โดยมีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับแหล่งอบายมุขหรือเรียกรับมีผลประโยชน์เกี่ยวกับแหล่งอบายมุขหรือปล่อยปละละเลย ไม่สนในการสืบสวนปราบปรามจับกุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ป้องกันปราบปรามความผิดเกี่ยวกับอบายมุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงอาจมีการรับคำร้องทุกข์หรือการสอบสวนคดีอาญาซึ่งเข้าข่ายเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 ลงวันที่  1 ก.ค.2556 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย 1.พ.ต.อ.ทนงศิลป์  มณีโชติ รอง ผบก.น.2 เป็นประธานกรรมการ 2.พ.ต.อ.วิบูลย์  ถิ่นวัฒนากูล ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.น.2 เป็นกรรมการ และ 3.พ.ต.ต.เมธาศิษฐ์  พัฒนะกิติพงษ์ สว.(สอบสวน) สภ.ดอนเมือง เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ.2556 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วเสนอสำนวนการสืบสวนข้อเท็จจริงมาเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

พร้อมกันนั้น ผบก.น.2 ยังได้ลงนามในคำสั่ง บก.น.2 ที่ 341/2565 ลงวันที่ 29 ต.ค.65 ให้ พ.ต.อ.ศรีสันต์  เฟื่อนสังข์ ผกก.สน.โคกคราม ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 โดยขาดจากตำแหน่งเดิม และ คำสั่ง บก.น.2 ที่ 342/2565 ลงวันที่ 29 ต.ค.65 ให้ พ.ต.อ.เรวัตร  จิตรเอื้อ ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน บก.น.2 ไปรักษาราชการแทน ผกก.สน.โคกคราม อีกหน้าที่หนึ่งโดยไม่ขาดจากต้นสังกัดเดิม โดยทั้งสองคำสั่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.65 เป็นต้นไป