ศาลให้ประกัน “ชัยวัฒน์” คดีฆ่าบิลลี่

ศาลให้ประกัน “ชัยวัฒน์” คดีฆ่าบิลลี่   วางหลักทรัพย์ 800,000  บาท  ล่าสุดศาลให้ประกัน  เจ้าตัวยันโล่งใจได้มีโอกาสพิสูจน์ในชั้นศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี พร้อมกับพวกรวม 4 คน ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้เดินทางมายังสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ตามนัดของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และสำนักงานอัยการสูงสุด ที่จะส่งสำนวนในคดียื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง


โดยนายชัยวัฒน์ ได้เดินมาด้วยสีหน้าที่ไม่ได้เคร่งเครียด ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าวันนี้ไม่ได้มีความกังวลใจ และได้ เตรียมเอกสารเพื่อนำมาประกันตัวพร้อมกับขอบคุณเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและเจ้าหน้าที่ทุกคน และที่ผ่านมาตนเองได้ให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา และยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองว่าไม่ได้ทำอะไร และวันนี้เมื่อทุกอย่างมาถึงขั้นตอนของศาลตนเองกลับรู้สึกโล่งใจมากกว่า และไม่ได้รู้สึกน้อยใจ แต่กลับรู้สึกขอบคุณเสียมากกว่า เพราะมันถึงเวลาแล้วที่ต้องทำแบบนี้ เพราะจะได้พิสูจน์ความจริงสักที รวมถึงประเด็นที่ว่า ตนเองเป็นผู้ลงมือสั่งการและเผาบ้าน ของ ปู่คออี้ และ มอแอะ ชาวบ้านบางกลอย จำนวน 2 หลัง แต่ท้ายที่สุดหลักฐานได้ชี้จัดว่า ปู่คออี้ และมอแอะ นั้นอยู่บ้านหลังเดียวกัน ตนมองว่าที่ผ่านมาเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ให้การเท็จ และแจ้งเท็จ ซึ่งตนเองก็พิสูจน์แล้ว และอยากให้สังคมคอยติดตามดูความจริงคืออะไร และตนเองก็ยังไม่ฟ้องกลับบุคคลเหล่านั้น ทุกคนยังเกี่ยวข้องกับกรณีที่ดินชาวบ้านบางกลอยที่ยังพิพาทกันอยู่ตอนนี้

นอกจากนี้ตนเองยังรู้สึก เห็นใจลูกน้องที่ต้องมาพัวพันในคดี ซึ่งลูกน้องทุกคนรู้สึกท้อใจ เพราะพวกเขาไม่ได้ทำอะไร แต่กลับมาโดนคดี และมองว่าไม่ว่าใครที่อยู่ใกล้ชิดตนเองก็มักจะซวยตามไปด้วย / ส่วนเมื่อถามว่าจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่นั้น นายชัยวัฒน์ บอกว่าทางผู้ใหญ่และน้องๆทุกคนเข้าใจว่สเกิดอะไรขึ้น และตนก็ยังทำงานในการปกป้องป่าตามปกติ ยืนยันไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

นายพรชัย พฤกษ์พิชัยเลิศ ทนายความของนายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนการต่อสู้คดีนั้นยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ เพราะต้องดูฝั่งของทางอัยการในขั้นตอนการตรวจหลักฐานสืบพยานก่อน ว่ามีพยานหลักฐาน พยานบุคล หรือวัตถุพยานอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเงินสด คนละ1 ล้านบาท จากนั้น นายชัยวัฒน์ และพวกทั้งหมด ได้ขึ้นรถตู้ของดีเอสไอ เพื่อไปยังศาล

สำหรับคดีที่ อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง นายชัยวัฒน์ และพวก รวม 4 คนนั้น ประกอบด้วยความผิด 1.ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / 2.ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ / 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย / 4.ร่วมกันโดยทุจริตหรืออำพรางคดีกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพ ก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป / 5.เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

หลังจากนั้นดีเอสไอได้นำตัวนายชัยวัฒน์ ส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ  โ

ดยนายชัยวัฒน์ได้ยื่นขอประกันตัว ซึ่งต่อมาศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยวางหลักทรัพย์เป็นเงิน 800,000 บาท