สลด! พบศพหญิงเร่ร่อน เปลือยกาย หมกศพใต้สะพาน คาดถูกฆ่าข่มขืน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 ร.ต.อ. พงศ์นรินทร์ นนตานอก รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบศพหญิงนอนเปลือยกายใต้เพิงพักใต้สะพานข้ามคลองบางโฉลง ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) หลักกิโลเมตรที่ 15 อ.บางโฉลง อ.บางพลี สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวร เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเพิงพักปลูกด้วยสังกะสีสูงจากพื้นมาเล็กน้อย ที่ใต้ถุนเพิงพักพบศพ นางสาวนันทวัน อายุประมาณ 58 ปี นอนหงายเปลือยกาย เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน จากการตรวจ ATK ผลปรากฏว่าพบเชื้อโควิดในศพ

จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการตอบโต้โควิดของมูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตนำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ จากการตรวจสอบภายในเพิงพักพบร่องรอยการต่อสู้กัน เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นบริเวณเพื่อให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บลายนิ้วมือแฝง และหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม นางนิตยา จำรัศศี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลบางโฉลง เล่าว่า ผู้ตายเป็นคนในพื้นที่ และมาพักอาศัยอยู่บริเวณนี้มาเกือบสิบปีแล้ว ที่ผ่านมาตนเองและเพื่อนบ้านจะคอยพากันมาดูแล พาไปหาหมอยามป่วยไข้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวก็จะมีคนเร่ร่อนชาย รวมถึงชาวเมียนมาร์มักมาตั้งวงดื่มสุรากันบ่อยครั้ง

ในอดีตเคยมีเหตุการณ์ที่หญิงรายนี้ถูกคนไม่ทราบชื่อบุกมาข่มขืนแล้วหลายครั้ง เนื่องจากหญิงคนดังกล่าวมักจะมาเล่าให้ฟัง แต่ก็ไม่เคยเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ จนมาล่าสุดก่อนมาพบศพสองวัน มีคนได้ยินเสียงผู้ตายร้องตะโกนให้คนช่วย พอตนเองมาดูก็ไม่พบตัวแต่อย่างใด ก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่าออกไปข้างนอก

จนกระทั่งวันนี้มีคนมาลอกท่อและเก็บขยะใกล้ที่เกิดเหตุหันไปเห็นศพถูกหมกอยู่ใต้ถุนเพิงพักจึงไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านออกมาตรวจสอบ พบว่าเสียชีวิตแล้วจึงประสานตำรวจมาตรวจสอบ เชื่อถูกข่มขืนแล้วฆ่าก่อนจะนำศพมาหมกทิ้งไว้ใต้ถุน ส่วนผู้ที่ก่อเหตุยังไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ชายเร่รอนที่เคยนอนในละแวกดังกล่าวซึ่งยังเป็นชายวัยกลางคนนั้นหายตัวไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ น่าจะถูกข่มขืนแล้วฆ่า พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแสชายเร่รอนที่พักอยู่บริเวณดังกล่าวแล้วหายตัวไปมาสอบปากคำ รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงหาหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป