อาชญากรรม

รวบผัวหึงโหด ราดน้ำมัน จุดไฟเผาเมียสาหัส รับโมโหที่ถูกนอกใจ

โดย panisa_p

10 เม.ย. 2565

115 views

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ต.โชคชัย นามวงศ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2  พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ รองผบก.น.2 รรท.ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ไชยา ภูละมุล รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมใจ รอดยัง สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน


เปิดเผยผลจับกุมตัวนายสำเริง อายุประมาณ 50 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 693/2565 ลงวันที่ 10 เม.ย.2565 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น โดยสามารถจับกุมได้ที่ตลาดคลองถมเมืองการุ้ง ถ.เทศบาล 4 ต.เมืองการุ้ง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี


สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุ ภรรยาถูกสามีใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผา ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าห้องพักเลขที่17 ชั้นล่างอาคารคอนโดบ้านสวนบางเขน ซอยพหลโยธิน 48 แยก 17/1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จึงนำกำลังไปตรวจสอบ


พบน.ส.สุรัตนา อายุ 46 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเล และขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด ถูกน้ำมันเบนซินสาดแล้วจุดไฟเผา จนได้รับบาดเจ็บมีแผลถูกไฟไหม้ที่ใบหน้าและตามร่างกาย อาการสาหัส จากการสอบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายสำเริง ที่หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่จึงสืบสวนและติดตามตัว จนสามารถจับกุมได้ขณะที่กำลังขับรถยนต์หลบหนีไปยัง จ.อุทัยธานี


จากการสืบสวนทราบว่า นายสำเริง หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีเทา หลบหนีมุ่งหน้ากลับภูมิลำเนา จ.อุทัยธานี  เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน จึงไล่ติดตามจับกุมตัว จนสามารถควบคุมตัวไว้ได้


สอบสวนนายสำเริงให้การว่าก่อนเกิดเหตุ ตนเองรู้สึกหวาดระแวงว่าภรรยาจะมีชู้ เนื่องจากมีข้อมูลหลักฐานและคนรอบข้างพูดว่า ภรรยาคบหากับชายอื่น วันเกิดเหตุตนจึงมานั่งรอภรรยา โดยได้ดื่มเหล้าขาวย้อมใจ เมื่อถึงเวลาพบเห็นภรรยาและชายคนดังกล่าวที่คิดว่ามีอะไรด้วย จึงนำน้ำมันที่ใช้ไว้เติมรถจักรยานยนต์​ มาราดตัวภรรยาและรถจักรยานยนต์​ของผู้ชาย ก่อนจุดไฟเผา และหลบหนีไป


ผบก.น.2 กล่าวว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ทำไปเพราะความระแวง จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบว่าผู้ก่อเหตุใช้สารเสพติด มีเพียงการดื่มสุรา และไม่พบประวัติอาชญากรรม หลังก่อเหตุได้เดินทางกลับบ้าน


โดยผู้ต้องหาไม่ได้มีอาการเครียด ที่ก่อเหตุเพราะรักภรรยามาก โดยคบหากันมาได้ 2 ปีไม่มีลูกด้วยกัน แต่ทั้งคู่เคยมีลูกและครอบครัวมาก่อน สำหรับผู้บาดเจ็บขณะนี้ตัวอยู่ใน ICU อาการปลอดภัยแล้ว


ทางด้านนายณัฐพงศ์ ม่วงสุข อายุ 27 ปี ลูกชายผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า พ่ออยู่กินกับผู้บาดเจ็บมานานแล้ว ซึ่งดูจากภายนอกทั้งคู่ดูรักกันดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร  เวลาทะเลาะหรือมีปัญหากันพ่อมักจะเป็นฝ่ายเลี่ยงออกไป แต่ครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


ซึ่งเมื่อ 2 - 3 วันก่อน พ่อได้โทรมาหาตนเพื่อปรึกษาเรื่องผู้บาดเจ็บ เพราะพ่อสงสัยว่าผู้บาดเจ็บจะมีคนอื่น ซึ่งตนก็บอกให้พ่อใจเย็น มีอะไรค่อย ๆ คุยกัน  หรือถ้าไม่สบายใจก็ให้กลับบ้านเรา ซึ่งวันนั้นพ่อก็ไม่ได้พูดอะไรอีก


จนกระทั่งเมื่อวันเกิดเหตุพ่อได้โทรมาหาตนอีกครั้งในเวลา 21.40 น. ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงหลังเกิดเหตุ  แต่ตนไม่ได้รับสาย จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าน้องชายโทรมาบอกว่า พ่อจุดไฟเผาภรรยา ตนรู้สึกตกใจมาก รีบเดินทางมาจาก จ.อยุธยา  ทั้งนี้ตนอยากขอโทษญาติ และภรรยาของพ่อด้วย


ต่อมาฝ่ายสืบสวนได้นำตัวผู้ต้องหามาชี้อุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ  และรถยนต์ที่ใช้เดินทางหลบหนี ในระหว่างนั้นผู้เสียหายได้เปิดเผยว่า อยากขอโทษภรรยาที่บาดเจ็บ ส่วนสาเหตุที่ตนก่อเหตุลงไปเพราะสืบทราบว่าภรรยามีชู้ จึงเกิดความโมโห และลงมือก่อเหตุ 


ทั้งนี้ไม่ได้มรการวางแผนมาก่อน ส่วนน้ำมันที่ใช้ก่อเหตุเป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับเติมรถจักรยานยนต์ และอยู่ท้ายรถเก๋งที่หลบหนีอยู่แล้ว  ส่วนรถจักรยายนต์ที่ตนก่อเหตุเผาก็เป็นรถของชู้  นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังเผยมีว่าชายชู้ชอบขับรถมาเยาะเย้ยตนเองบ่อยครั้ง ว่ามีอะไรกับภรรยาตน  ตนมีคลิปหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าตนไม่ได้คิดไปเอง ทั้งนี้ตนรักภรรยามาก รักคนเดียว แต่หลังจากได้ยินเสียงคลิปหลักฐานดังกล่าวยอมรับเลยว่าเสียใจ และมันชาไปหมด


ทั้งนี้รายงานข่าวว่าก่อนหน้านี้ ผู้ก่อเกตุเคยมีปัญหากับชายที่เริ่มสงสัยว่าเป็นชู้ เพราะชายคนดังกล่าวเคยประกาศว่าจะแย่งภรรยาผู้ก่อเหตุ  จนกระทั่งเมื่อช่วงปีใหม่ ผู้ก่อเหตุสงสัย เพราะภรรยามีคนอื่น เนื่องจากภรรยาชอบใช้ให้ตนเองออกไปซักผ้าที่ร้านซักอบแห้งแถวบ้านบ่อยครั้ง ทั้งที่เสื้อผ้าก็ยังมีใส่อยู่ 


ต่อมาเริ่มมีชาวบ้านมาเล่าให้ฟังว่า เกือบทุกครั้งที่ตนออกไปซักผ้าจะมีชายที่ต้องสงสัยว่าเป็นชู้ขับรถมาหาภรรยาตนเกือบทุกครั้ง ผู้ก่อเหตุพยายามถามหาความจริงบ่อยครั้ง แต่ก็ทำให้ทะเลาะกันตลอด จนวันเกิดเหตุภรรยาใช้ให้ผู้ก่อเหตุไปซักผ้าเหมือนทุกครั้ง เมื่อออกไปได้ซักพักก็รู้สึกเอะใจ จึงเดินทางกลับมาบ้าน ซึ่งภรรยาก็ได้ถามผู้ก่อเหตุว่ากลับมาทำไม ไวจัง


ผู้ก่อเหตุจึงบอกว่าลืมของ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวซึ่งอยู่ติดกับห้องนอน และใช้โทรศัพท์กดบันทึกเสียงและเอาไปซ้อนไว้ในกองผ้า จากนั้นจึงกลับไปที่ร้านซักผ้า ใช้เวลา 10 - 15นาที ผู้ก่อเหตุจึงกลับมาและเปิดโทรศัพท์ฟัง


ซึ่งในช่วงแรกของคลิปไม่ได้ยินเสียงอะไร  แต่ช่วงท้ายคลิปได้ยินเสียงภรรยาตนเอง ลักษณะคือกำลังทำกิจกรรมกับชายรายดังกล่าวจึงรู้สึกทนไม่ไหว และขาไปคุยกับภรรยาจนทะเลาะกันอีกครั้ง ประกอบกับพอเดินออกมานอกบ้าน พบชายที่เป็นชู้ขับรถมาจอดข้าง ๆ รถตนเอง  พอช่วงหัวค่ำผู้ก่อเหตุได้มานั่งกินเหล้า และเกิดบันดาลโทสะอีกครั้งจึงก่อเหตุดังกล่าว

คุณอาจสนใจ