อาชญากรรม
'บิ๊กโจ๊ก' ยันวิสามัญ 'หน่อง' ไม่ใช่การตัดตอน มั่นใจมีหลักฐานเอาผิด 'กำนันนก'
8 ก.ย. 2566
128 views
ความคืบหน้าทางคดี วันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานสอบสวน แบ่งการทำคดีกำนันนกเป็น 3 ส่วน พร้อมยืนยันว่า การวิสามัญฆาตกรรมนายหน่อง "ไม่ใช่การฆ่าตัดตอน" โดยมั่นใจว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานเอาผิดกับกำนันนกได้เเน่นอน
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงการดำเนินคดีกับ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก คดีนี้ได้แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนเเรกเป็นการสอบสวน เกี่ยวกับการยิงสารวัตรศิวกร ซึ่งกองปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบคดี โดยจะนำสำนวนการสอบปากคำก่อนหน้านี้จากตำรวจภูธรภาค 7 มาประกอบการทำคดี
ส่วนที่สอง คือคดีเกี่ยวกับการวิสามัญนายหน่อง เป็นความรับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 7 / ส่วนที่สาม คือการเอาผิดตำรวจที่ไปร่วมงานในวันเกิดเหตุ ในฐานความผิดตามมาตรา 157
ซึ่งในส่วนของสำนวนคดียิงสารวัตรศิวกร ทราบว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จะเป็นผู้กำกับดูแลคณะทำงานกองปราบปราม ที่เกี่ยวกับการสอบสวน แต่ในเรื่องการสืบสวน จะเป็นการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน
ซึ่งจะมีการเรียกสอบนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ประมาณ 25 นาย และมีพลเรือนอีกประมาณ 6-7 ราย เบื้องต้นได้ประสานเอาไว้ทั้งหมดแล้ว
พลตำรวจเอกสุเชษฐ์ บอกว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อน เพราะมีพยานชัดเจน ส่วนใครเป็นคนทำลายหลักฐาน ใครเป็นคนสั่งการให้ทำลายหลักฐาน หรือจะมีตำรวจเข้าไปร่วมรู้เห็นด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างตรวจสอบ
แต่เท่าที่ทราบเบื้องต้น ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ ยังให้การไม่ตรงกัน หลังเกิดเหตุอาจจะมีการพูดคุยกัน เชื่อว่าคนกระทำความผิดย่อมต้องโกหก วันนี้ได้เรียกตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ไปตรวจดีเอนเอ-เก็บลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐานแล้ว
การทำงานจะเริ่มไล่จากข้อมูลรอบตัวของกำนันนก ทั้งพฤติกรรมการติดต่อสื่อสาร เส้นทางการเงิน ส่วนการตรวจสอบธุรกิจของกำนันนก ยังไม่พบว่าไปเชื่อมโยงกับยาเสพติดหรือการพนัน
ส่วนความเชื่อมโยงของกำนันนกกับตำรวจทางหลวง ในเรื่องการก่อสร้างและธุรกิจเกี่ยวกับรถบรรทุก กำลังตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน
ส่วนประเด็นการวิสามัญนายหน่อง เป็นการทำตามยุทธวิธี-ไม่ใช่การตัดตอน เเละยืนยันว่า "กำนันนก" ไม่มีโอกาสที่จะหลุดคดีนี้อย่างแน่นอน
ขณะที่พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร ผู้กำกับการ สน.พญาไท ซึ่งถูกระบุว่า เป็นหนึ่งในข้าราชการตำรวจที่อยู่ร่วมในงานเลี้ยง วันนี้ได้เล่าเหตุการณ์กับทีมข่าวช่อง 3 โดยยอมรับว่า ไปร่วมงานเพราะได้รับการชักชวนจาก พันตำรวจเอก วชิรา ยาวไทยสง ผู้กำกับ 2 ของทางหลวง เพราะตนเองเคยทำงานสังกัดตำรวจทางหลวงที่นี่มาก่อน
ตอนเกิดเรื่อง กำนันนกเดินเข้ามาเจรจาขอโยกย้ายตำแหน่งตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นหลาน แต่สารวัตรศิวกร เหมือนจะไม่ยินยอม ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการทำให้กำนันนกเสียหน้า ไม่ใช่เรื่องของการดวลดื่มเหล้า
ผู้กำกับกฤษฎาพร บอกว่า หลังเกิดเรื่อง ทั้งตกใจและงง แต่เขาก็เป็นคนที่เข้าไปประคองสารวัตรศิวกร เเละให้ลูกน้อง ขับมารับออกจากที่เกิดเหตุนำส่งโรงพยาบาล
จากนั้นได้โทรไปสั่งการให้อดีตลูกน้องที่เป็นตำรวจทางหลวงในพื้นที่ นำรถสายตรวจไปปิดบริเวณทางเข้าออกบ้านกำนัน แต่เมื่อลูกน้องไปถึงได้รายงานกลับมาว่า มือปืนออกจากจุดเกิดเหตุไปแล้ว
ส่วนรายละเอียดในจุดเกิดเหตุ หลังจากเกิดเรื่อง ผู้กำกับ สน.พญาไท บอกว่า ไม่ทราบ เเพราะไม่ได้กลับไปที่เกิดเหตุอีก รวมถึงเรื่องกล้องวงจรปิด และการทำลายหลักฐานในที่เกิดเหตุ ก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าใครเป็นคนจัดการ ซึ่งได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว