ห้ามเด็กไม่ตีกันยาก! รองอธิการฯ ปทุมวัน ยืนยันไม่เข้าข้างนศ.แน่นอน

สังคม

ห้ามเด็กไม่ตีกันยาก! รองอธิการฯ ปทุมวัน ยืนยันไม่เข้าข้างนศ.แน่นอน

26 ส.ค. 2565

234 views

ช่วงบ่าย วันนี้ (26 ส.ค.) ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังสถาบันทั้ง 2 แห่ง โดยที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังมาเฝ้าดูแลความสงบอยู่ที่ด้านหน้า และวันนี้ไม่มีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์


อาจารย์สืบพงษ์ ม่วงชู รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้งของนักศึกษาทั้ง 2 สถาบัน ถือเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุได้อยู่ตลอด หากมีการยั่วยุกันและกัน ซึ่งในส่วนของสถาบันฯ ได้มีการห้ามปราม และเตือนนักศึกษาอยู่เสมอ ว่าอย่าก่อเรื่องให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่ก็ต้องเข้าใจว่า เด็กก็คือเด็ก มีการท้าทายกันตามประสาวัยรุ่น ถ้าจะห้ามคงยาก ก็ได้แต่เน้นย้ำอยู่ตลอดว่า อย่าทำอะไรที่รุนแรง และหากหลีกเลี่ยงได้ก็ให้เลี่ยง


โดยการเผชิญหน้าทะเลาะวิวาทของทั้ง 2 สถาบัน จริงๆ ไม่ได้มีมานานแล้ว แต่เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีการยั่วยุผ่านทางโซเชียลมาตลอด และเหตุเมื่อวาน (25 ส.ค.) เป็นลักษณะของการที่รุ่นพี่เดินไปส่งรุ่นน้องขึ้นรถ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมานานแล้ว แต่ไม่ได้จะไปหาเรื่อง เมื่อส่งเสร็จก็กลับ แต่คงไปเจอกันพอดี แล้วเกิดการท้าทายกัน


ทั้งนี้ เหตุการณ์เมื่อวาน ตนมองว่านักศึกษาไม่ได้ทำรุนแรง ไม่ได้มีการใช้อาวุธ แค่ชกต่อยธรรมดา ซึ่งความรุนแรงน้อยมาก หากเทียบกับเหตุที่เกิดที่อ่อนนุช ซึ่งมีทั้งระเบิด และอาวุธปืน


ส่วนหลังจากนี้ ความรุนแรงจะบานปลายหรือไม่ ตนมองว่าอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะแก้ปัญหาได้ดีที่สุด หากมีการก่อเรื่อง ก็ให้จับกุมดำเนินคดีไปเลย ยืนยันว่าทางสถาบันฯ จะไม่ช่วยเหลือหรือเข้าข้างนักศึกษา เมื่อก่อเรื่องก็ต้องรับโทษทั้งทางอาญาและทางวินัย


โดยหากตำรวจมาขอความร่วมมือ สถาบันฯ ก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ เพื่อให้นักศึกษาเข็ดหลาบและไม่ทำอีก ส่วนการตรวจอาวุธ ทางสถาบันฯ มีการเข้มงวดอยู่เสมอ และเชื่อว่า หากปลอดอาวุธ ต่อให้มีเหตุเกิดขึ้นก็จะไม่รุนแรง


โดยหลังจากนี้ นักศึกษาจะนัดหมายกันก่อเหตุอีกหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่มองว่า คงห้ามได้ยาก ในความเห็นตน ยังคิดว่าถ้า 2 ฝ่ายโกรธเกลียดกันมาก ก็ให้นัดกันไปเลย แต่เพียงแค่อย่าให้ประชาชนเดือดร้อน และอย่าใช้อาวุธ ให้เพียงชกต่อยกันพอได้ระบายออก พอเหนื่อยก็คงเลิกราไปเอง และถ้าทำบ่อยๆ ก็คงจะเบื่อจนเลิกไปเอง แต่ก็เป็นเพียงแค่ความคิด เพราะในทางปฏิบัติก็ทำไม่ได้ เนื่องจากผิดกฎหมาย จึงได้แต่พยายามกำชับนักศึกษาว่าให้หลีกเลี่ยงการก่อเหตุให้ได้มากที่สุด


ขณะที่ มหาวิทยาลัยลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย วันนี้ก็ไม่มีการจัดการเรียนการสอนแบบออนไซต์เช่นกัน และบริเวณด้านหน้าก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเฝ้าดูแลความสงบอยู่เหมือนกับที่สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยเจ้าหน้าที่บอกว่า จะผลัดเปลี่ยนกำลังมาประจำทั้ง 2 จุดอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ทางสถาบันฯ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปด้านในสถาบันฯ แต่อย่างใด


ทีมข่าวได้ พูดคุยกับนักเรียนหญิงโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ซึ่งเพิ่งเลิกเรียนและใช้เส้นทางผ่านด้านหน้าอุเทนถวายในการเดินกลับบ้าน โดยนักเรียนหญิง เปิดเผยว่า ปกติตนจะใช้เส้นทางนี้เดินกลับบ้านเป็นประจำ จะเดินไปขึ้นสกายวอล์คที่ห้างมาบุญครอง


ซึ่งเมื่อวานนี้ พอตนเดินพ้นจุดดังกล่าวไปไม่ถึง 10 นาที ก็มีข่าวว่าเกิดเหตุนักศึกษา 2 สถาบันยกพวกตีกัน ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก และโล่งใจที่กลับออกไปก่อน


พอเกิดเหตุก็รู้สึกกลัว ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีโอกาสโดนลูกหลงบ้างหรือไม่ เพราะต้องใช้เส้นทางนี้กลับบ้านเป็นประจำ โดยหลังเกิดเหตุเมื่อวาน คุณพ่อคุณแม่ก็ได้บอกว่า ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเดินกลับบ้านไปก่อน แต่ตนก็มองว่า มันไม่สะดวก


ส่วนตัวก็อยากให้มีตำรวจมาประจำอยู่ มาสอดส่องดูแลบ่อยๆ โดยเหตุแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นย่านใจกลางเมือง ค่อนข้างส่งผลกระทบเยอะ มีคนนอกที่ไม่เกี่ยวต้องมาโดนลูกหลง


อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์ยกพวกตีกันแบบนี้ แต่ก่อนหน้านี้เวลาเดินผ่านหน้าอุเทนถวาย ก็จะรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่แล้ว เพราะเคยเห็นในข่าวมานาน


ด้านไรเดอร์วัย 19 ปี ซึ่งถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นักศึกษาสถาบันอุเทนถวายและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันยกพวกตีกัน เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อวานนี้ตนไปส่งของให้ลูกค้าที่สยามและกำลังจะกลับบ้านที่พระราม 1 พอผ่านจุดเกิดเหตุ ตนเห็นคนมุงดูเยอะมาก เมื่อมองเข้าไป จะเห็นกลุ่มวัยรุ่น ยืนเรียงหน้ากระดานเผชิญหน้ากัน ซึ่งตอนนั้นเหมือนหนังมาก ตนเลยเข้าใจว่าเขากำลังถ่ายหนังกันอยู่จึงจอดรถดู บริเวณริมรั้วสนามกีฬาแห่งชาติ


ระหว่างนั้น อยู่ๆ ก็มี กลุ่มนักศึกษาที่ตามมาสมทบกับกลุ่มด้านในสนามกีฬา เดินเข้ามาหาตนแล้วถามว่า มึงทำอะไร จากนั้นตนก็โดนต่อยเตะเข้าที่ใบหน้าทันที แล้วอีกฝ่ายก็มีพวกอีก 4 คน ที่คงเข้าใจว่าตนเป็นคู่อริต่างสถาบัน ตามเข้ามารุม แล้วดึงมือถือตนไปปาลงพื้นถนนจนแตกเสียหาย


ในจังหวะนั้น ตนสามารถหนีออกมาได้ แต่เป็นห่วงโทรศัพท์มือถือ เพราะต้องเอาไว้วิ่งรับงานไรเดอร์ ทั้งก็ยังมีไฟล์ที่ตนรับงานถ่ายภาพอยู่ในเครื่องทั้งหมด ตนจึงยังไม่หนีไป และตอนที่จะวิ่งไปเก็บโทรศัพท์มือถือ อีกฝ่ายก็ตะโกนบอกว่า ไปเดี๋ยวนี้เลย ถ้ายังไม่ไปเจอกูแน่ ตนจึงรีบขี่รถไป สน.ปทุมวัน ทั้งที่เจ็บแผลมาก ชาทั้งหน้า ปากบวม คิ้วแตก เพราะโดนรองเท้าเป็นเหล็กเตะเข้าเต็มๆ


ทั้งนี้ ตนไม่ได้รู้เห็นอะไรกับเรื่องความขัดแย้งของนักศึกษา เป็นเพียงแค่ไรเดอร์ที่ผ่านมา และการแต่งกายก็ชัดเจน ใส่เสื้อไรเดอร์สีเขียว มีกระเป๋าบนรถมอเตอร์ไซค์ และไม่ได้เรียนอยู่ทั้ง 2 ที่ด้วย แต่ต้องมาโดนลูกหลง ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็อยากให้มีคนมารับผิดชอบ ตนหาเงินได้วันละไม่กี่ร้อย แต่เมื่อวานต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลหลักพัน และโทรศัพท์มือถือที่พังก็เพิ่งผ่อนหมดไป ตอนนี้ไม่มีใช้ทำงานด้วย


ส่วนความขัดแย้งของ 2 สถาบันที่เกิดขึ้น ตนมองว่าคงแก้ยาก เพราะเป็นปัญหาที่มีมานาน และห้ามไม่ให้ทะเลาะกันไม่ได้ แต่ก็อยากให้มีเหตุผลกว่านี้ อย่าทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อน

คุณอาจสนใจ

Related News