โซเชียลจวกยับ! คลิปชายทำร้ายหญิงสลบ อุ้มขึ้นรถขับหาย ที่แท้ฝีมือผัวใหม่

สังคม

โซเชียลจวกยับ! คลิปชายทำร้ายหญิงสลบ อุ้มขึ้นรถขับหาย ที่แท้ฝีมือผัวใหม่

โดย nicharee_m

11 ก.พ. 2565

46 views

โซเชียลแชร์คลิปชายทำร้ายหญิงจนสลบ ก่อนอุ้มร่างขึ้นรถแล้วขับหายไป ล่าสุดตำรวจระบุ ลูกคนเจ็บรู้ตัวคนก่อเหตุ เป็นฝีมือแฟนใหม่แม่ แต่ไม่ยอมแจ้งความ แค่มาลงบันทึกประจำวัน

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปความยาว 46 วินาที เห็นเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งกำลังทั้งลากทั้งอุ้มผู้หญิงขึ้นรถอย่างทุลักทุเล จากนั้นได้ขับรถออกไป เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนโพธิ์พระยา – ท่าเรือ ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง

โดยในโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันหลากหลาย มีทั้งสอบถามข้อมูล และต่อว่าเจ้าของคลิปที่ไม่ยอมให้การช่วยเหลือ ซึ่งทางเจ้าของคลิปพยายามแจ้งตำรวจแล้ว ซึ่งป้อมตำรวจก็อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ แต่ชายคนที่ก่อเหตุในคลิปได้ขับรถยนต์หลบหนีออกไปเสียก่อน

สอบถามไปยังพลเมืองดีเจ้าของคลิป เล่าว่า ตนเองได้ขับรถไปไหว้พระที่วัดม่วง แต่รถน้ำมันหมดจึงแวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม หลังจากนั้นขับรถออกมา พบเห็นรถเก๋งจอดอยู่ข้างทาง มีชายคนหนึ่งกำลังทำร้ายร่างกายผู้หญิง โดยการจับทุ่มลงกับพื้นจนหญิงคนดังกล่าวสลบไป ตนเองจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย จากนั้นผู้ชายพยายามทั้งลากทั้งอุ้มผู้หญิงขึ้นรถแล้วขับออกไปจากที่เกิดเหตุ

หลังจากตนเองโพสต์เฟซลงในกลุ่มก็ถูกวิจารณ์มาเยอะว่าทำไมไม่ให้การช่วยเหลือ แต่ตนเองไม่มีเครื่องป้องกันอะไรเลย กลัวจะมีอันตราย ขณะเดียวกันได้พยายามโบกรถที่ขับผ่านไปมาให้ลงมาช่วยแต่ไม่มีใครจอด จึงเดินทางไปที่ป้อมตำรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเพียง 10 – 20 เมตร ปรากฎว่าไม่พบเจ้าหน้าที่อยู่ในป้อม จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ แต่ก็ไม่ทัน

เบื้องต้น ทางญาติได้ทำการติดต่อมายังพลเมืองดีที่ทำการโพสต์คลิปดังกล่าวแล้ว เพื่อนำไปเป็นหลักฐานแจ้งความ โดยชายในคลิปเป็นแฟนใหม่ของแม่

ล่าสุดผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปที่ร้อยตำรวจเอก จักรี พันเอ็ด พนักงานสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ เจ้าของคดี เผยว่า จนถึงขณะนี้ทางฝั่งผู้เสียหายยังไม่ได้มาแจ้งความ ก่อนหน้านี้มาขอลงบันทึกประจำวันไว้ วันนี้ตนได้นัดลูกสาวผู้เสียหายมาสอบปากคำที่โรงพัก ในเวลา 9 นาฬิกา แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ม่พบตำรวจแต่อย่างใด

ทั้งนี้มีกระแสว่า คู่กรณีได้ติดต่อญาติผู้เสียหายว่าไม่ให้เอาเรื่อง เพราะมีการคืนดีกันแล้ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นคดีอาญา ในเรื่องการทำร้ายร่างกายกัน จึงยอมความกันไม่ได้

คุณอาจสนใจ